กรุงเทพฯ--19 ก.พ.--ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน สแตรทีจีส์
ฟีเจอร์ใหม่นี้ช่วยให้องค์กรและธุรกิจต่างๆ สามารถแบ่งปันข้อมูลสำคัญและให้บริการที่จำเป็นแก่ผู้คนที่ต้องการความช่วยเหลือในภาวะวิกฤตง่ายยิ่งขึ้น
ในภาวะวิกฤต ผู้คนมักจะเข้ามาใช้งาน Crisis Response บน Facebook เพื่อแจ้งให้เพื่อนและครอบครัวทราบว่าพวกเขาปลอดภัยดี อีกทั้งยังแบ่งปันเรื่องราวเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและวิธีการที่จะช่วยให้ชุมชนฟื้นตัวหลังจากเหตุการณ์นั้นๆ เมื่อหนึ่งปีที่แล้ว Facebook ได้เปิดตัว Community Help เพื่อช่วยให้การส่งคำขอและการมอบความช่วยเหลือในภาวะวิกฤตเป็นเรื่องง่ายยิ่งขึ้น แต่ว่าการที่คนเราช่วยเหลือกันเป็นเพียงส่วนหนึ่งของวิธีแก้ปัญหาเท่านั้น เนื่องจากองค์กรและธุรกิจต่างๆ ก็มีบทบาทสำคัญในการให้ความช่วยเหลือต่อการรับมือกับภาวะวิกฤตและการฟื้นฟูสภาพของชุมชนเช่นกัน
ขณะนี้ Facebook ได้เปิดให้องค์กรและธุรกิจสามารถโพสต์ข้อความลงใน Community Help เพื่อให้พวกเขาสามารถแบ่งปันข้อมูลสำคัญและให้บริการที่จำเป็นสำหรับผู้คนที่ต้องการความช่วยเหลือในภาวะวิกฤตได้ ตัวอย่างเช่น พวกเขาอาจโพสต์เกี่ยวกับการช่วยเหลือผู้คนในการค้นหาสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางแบบไม่มีค่าใช้จ่าย ไปจนถึงการหาเสบียงอาหาร และการเชื่อมต่ออาสาสมัครเข้ากับองค์กรที่ต้องการความช่วยเหลือ เป็นต้น
ฟีเจอร์ดังกล่าวได้เริ่มต้นให้บริการในหลากหลายเพจองค์กรและธุรกิจ เช่น ไดเร็คท์ รีลีฟ ลิฟท์ (Direct Relief Lyft) อินเตอร์เนชันแนล เมดิคัล คอร์ปส์ (International Medical Corps) เดอะ แคลิฟอร์เนีย ดีพาร์ทเมนต์ ออฟ ฟอเรสทรี แอนด์ ไฟร์ (The California Department of Forestry and Fire) และ เซฟ เดอะ ชิลเดรน (Save the Children) และจะเพิ่มการบริการไปยังเพจอื่นๆ มากขึ้นในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
อาช่า ชาร์มา หัวหน้าฝ่ายผลิตภัณฑ์เพื่อสังคม Facebook กล่าวว่า "สิ่งที่สำคัญที่สุดของ Facebook คือการสร้างเครื่องมือที่ช่วยดูแลให้ทุกคนปลอดภัยและให้ข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการที่จะนำมาซึ่งความช่วยเหลือที่พวกเขาต้องการ เพื่อฟื้นคืนสู่สภาพปกติและฟื้นฟูชุมชนหลังจากภาวะวิกฤต เราหวังว่าการอัพเดทครั้งนี้จะช่วยให้ผู้คนได้รับความช่วยเหลือที่พวกเขาต้องการอย่างง่ายดายยิ่งขึ้นและทันท่วงทีในภาวะวิกฤต และยังช่วยให้ธุรกิจและองค์กรต่างๆ มีโอกาสในการสร้างชุมชนรอบๆ ตัวที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นอีกด้วย"
หนึ่งปีของ Community Help
ในหนึ่งปีที่ผ่านมา ผู้คนได้หันมาใช้งาน Community Help ในภาวะวิกฤตที่เกิดขึ้นกว่า 500 ครั้ง โดยส่วนหนึ่งของภาวะวิกฤตที่ผู้คนได้ใช้งาน Community Help มากที่สุดในปี 2560 ได้แก่ เหตุการณ์น้ำท่วมในประเทศบราซิล (เดือนพฤษภาคม) เฮอริเคนฮาร์วีย์ในสหรัฐฯ (เดือนสิงหาคม) การก่อการร้ายในบาร์เซโลนา
(เดือนสิงหาคม) เหตุการณ์น้ำท่วมในมุมไบ (เดือนสิงหาคม) และเหตุการณ์แผ่นดินไหวในเม็กซิโกกลาง (เดือนกันยายน)
นอกจากนี้ ผู้คนได้มีส่วนร่วมใน Community Help กว่า 750,000 ครั้ง ผ่านโพสต์ การแสดงความคิดเห็น และข้อความ และส่วนที่พวกเขาใช้งานบ่อยที่สุดคือโอกาสสำหรับอาสาสมัคร ที่หลบภัย การบริจาคอาหารและเสื้อผ้า
"นี่คือเครื่องมือใหม่ที่มีความสำคัญในการช่วยเหลือผู้คนที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติฉุกเฉิน เพราะพวกเขาจะสามารถเชื่อมต่อกับข้อมูลและสิ่งจำเป็นต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น เราเรียนรู้จากประสบการณ์ของเราว่าความรวดเร็วและข้อมูลคือสิ่งที่สามารถช่วยชีวิตคนเอาไว้ได้ การเปิดทางเพื่อให้เข้าถึงต่อสิ่งจำเป็นและวิธีที่นำไปสู่การได้รับความช่วยเหลือ ช่วยลดความวิตกกังวลขอผู้รอดชีวิตจากภัยพิบัติ เราเล็งเห็นพลังอันยิ่งใหญ่ของเครือข่ายในการระดมทุน และเรารู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งที่จะได้เข้ามามีส่วนร่วมในการเข้าถึงนั้น ซึ่งช่วยให้เราได้รับข้อมูลและบริการเชิงการแพทย์ที่สำคัญ ในช่วงเวลาและสถานที่ที่ผู้คนต้องการมากที่สุดระหว่างสถานการณ์ภัยพิบัติ" รีเบ็คก้า มิลเนอร์ รองประธานฝ่ายความก้าวหน้าขององค์กร อินเตอร์เนชันแนล เมดิคัล คอร์ปส์ กล่าว
ดาวน์โหลดอินโฟกราฟฟิค Community Help ได้ที่นี่ https://fbnewsroomus.files.wordpress.com/2018/02/communityhelp_infographic1.pdf
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชม https://newsroom.fb.com/news/2018/02/making-it-easier-for-organizations-and-businesses-to-help-people-during-a-crisis/