กรุงเทพฯ--19 ก.พ.--กรมส่งเสริมการเกษตร
กรมส่งเสริมการเกษตร จับตาโรคอุบัติใหม่ในมันสำปะหลัง แนะเกษตรกรสังเกตอาการของโรคพุ่มแจ้และโรคไวรัสใบด่าง ป้องกันการระบาดจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาประเทศไทย
นายประสงค์ ประไพตระกูล รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า ผลการติดตามสถานการณ์การปลูกและศัตรูมันสำปะหลัง พบข้อมูลการระบาดของโรคพุ่มแจ้และไวรัสใบด่างในประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ กัมพูชา และเวียดนาม ซึ่งมีระยะทางห่างจากชายแดนไทยบริเวณแหล่งปลูกมันสำปะหลังสำคัญในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออกประมาณ 700 กิโลเมตร จึงเป็นสถานการณ์ที่ต้องเฝ้าระวังไม่ให้โรคดังกล่าวเข้ามาระบาดในประเทศ เบื้องต้นจากการสำรวจยังไม่พบอาการของโรคไวรัสใบด่าง แต่พบโรคพุ่มแจ้ในมันสำปะหลังบริเวณชายแดนไทยแล้ว ทั้งนี้ยังไม่ถึงขั้นระบาดในวงกว้าง โดยโรคพุ่มแจ้ เกิดจากเชื้อไฟโตพลาสมา มีอาการคล้ายกับการเข้าทำลายของเพลี้ยแป้งมันสำปะหลัง คือ ใบยอดมันสำปะหลังจะหยิกงอ และแคระแกร็น แต่หากสังเกตยอดที่แสดงอาการจะไม่พบตัวเพลี้ยแป้ง ทำให้เกษตรกรไม่ทราบว่าเป็นโรคพุ่มแจ้ กรมส่งเสริมการเกษตรจึงเข้าไปให้ความรู้แก่เกษตรกร เพื่อให้สามารถสังเกตอาการของโรคดังกล่าวได้ พร้อมกับแนะนำให้สำรวจแปลงอย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากเป็นโรคที่ติดเชื้อได้ทุกฤดูกาลหากต้นอ่อนแอ เมื่อสำรวจพบโรคพุ่มแจ้ให้กำจัดต้นที่เป็นโรคด้วยการเผาทำลายเพื่อป้องกันการระบาดของโรค และกำจัดวัชพืชในแปลงอย่างสม่ำเสมอ โดยแมลงศัตรูพืชที่คาดว่าจะเป็นพาหะนำโรค ได้แก่ เพลี้ยจักจั่น เพลี้ยไก่แจ้ และวัชพืชบางชนิด เช่น สาบม่วง และตีนตุ๊กแก อย่างไรก็ตามการบำรุงดูแลต้นมันสำปะหลังให้เติบโตสมบูรณ์แข็งแรง โดยให้ปุ๋ย น้ำ และปรับปรุงดินอย่างพอเพียง จะช่วยเพิ่มภูมิต้านทานต่อการเกิดโรค ทั้งนี้ ควรใช้ท่อนพันธุ์จากแหล่งที่ปลอดโรคหรือแปลงพันธุ์สะอาดที่ผ่านการดูแลรักษาถูกต้องตามหลักวิชาการรองอธิบดีฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ กรมส่งเสริมการเกษตรยังสนับสนุนปัจจัยการควบคุมศัตรู
มันสำปะหลัง โดยเพิ่มการผลิตศัตรูธรรมชาติและสารชีวภัณฑ์เพื่อใช้ในพื้นที่ปลูกแบบครอบคลุมพื้นที่ จำนวน 1,754 จุดทั่วประเทศ ในจังหวัดที่มีพื้นที่ปลูกมันสำปะหลัง รวม 56 จังหวัด รวมถึงจัดเวทีประชุมเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ในการจัดการศัตรูมันสำปะหลังและการวางแผนการควบคุมการระบาดในพื้นที่ นำไปสู่ป้องกันการระบาดได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืนตามโครงการศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) โดยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตมันสำปะหลัง ส่งผลให้เกษตรกรมีโอกาสสร้างรายได้เพิ่มขึ้นจากแนวโน้มด้านราคาที่สูงขึ้น ซึ่งคาดว่าจะทำให้พื้นที่ปลูกเพิ่มขึ้นในฤดูการผลิตประมาณเดือนมีนาคมถึงเมษายน 2561 ที่จะถึงนี้
ล่าสุดกรมส่งเสริมการเกษตรจัดประชุมหารือแลกเปลี่ยนความรู้ขึ้นที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา และที่กรมส่งเสริมการเกษตร ในเดือนกุมภาพันธ์ 2561 โดยมีเจ้าหน้าที่จากกรมวิชาการเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สำนักส่งเสริมและจัดการสินค้าเกษตร สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตร ศูนย์ส่งเสริมเทคโนโลยีการเกษตรด้านอารักขาพืช กองส่งเสริมการอารักขาพืชและจัดการดินปุ๋ย กลุ่มอารักขาพืช สำนักงานเกษตรจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ ภาคตะวันออก ภาคตะวันตก และภาคกลาง จำนวน 53 จังหวัด รวมทั้งสิ้น 164 คน เข้าร่วมแลกเปลี่ยนความรู้ในครั้งนี้ เพื่อสร้างการรับรู้และเตรียมการรับมืออย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ