TNDT ปลื้มยอดจองล้นถึง 5 เท่า ชี้นลท.มั่นใจพื้นฐาน

ข่าวทั่วไป Wednesday September 19, 2007 16:04 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--19 ก.ย.--ไทย เอ็น ดี ที
หุ้น TNDT ซึ่งประกอบธุรกิจให้บริการด้านตรวจสอบระบบ NDT สำหรับอุตสาหกรรมปิโตรเคมี น้ำมันและก๊าซธรรมชาติ รวมทั้งอุตสาหกรรมก่อสร้าง และงานโครงสร้างขนาดใหญ่ อาทิเช่น สะพาน อาคารสูง หรือสนามบิน เป็นต้น หุ้น TNDT ปิดจองเมื่อวันที่ 18 กันยายน 2550 หุ้นดังกล่าวร้อนฉ่าพบยอดจองซื้อล้นถึง 5 เท่าแจงเพราะพื้นฐานแข็งแกร่ง ผู้บริหารระบุธุรกิจบริการด้าน NDT ของบริษัทไม่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยทางการเมือง มั่นใจสิ้นปี 2550 รายได้เข้าเป้า สิ้นปี 2549 มียอดรายได้ประมาณ 154 ล้านบาท เพราะปัจจุบันมีบริษัทปิโตรเคมี บริษัทน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ที่ทาง TNDT จะเข้าไปให้บริการด้านระบบ NDT ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่องจากนี้ไปอีก 3-5 ปี
นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินในการนำ บริษัท ไทย เอ็น ดี ที จำกัด (มหาชน) หรือ TNDT เปิดเผยว่าหลังการปิดจองซื้อหุ้นไอพีโอจำนวน 20 ล้านหุ้น ราคาพาร์หุ้นละ 1 บาท ที่เสนอขายในราคา 3.10 บาท/หุ้น ระหว่างวันที่ 14 และ 17-18 กันยายน 2550 ปรากฏว่าได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั่วทุกภาคที่ได้ไปนำเสนอข้อมูลกับนักลงทุน (road show) ทั้ง 6 จังหวัด อาทิเช่น หาดใหญ่ เชียงใหม่ ขอนแก่น โคราช ชลบุรี และกรุงเทพมหานคร โดยมียอดจองล้นถึง 5 เท่า ผ่านทางบริษัทผู้รับประกันการจำหน่ายหุ้น รวม 5 แห่ง คือ บริษัทหลักทรัพย์ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ บีฟิท จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ ฟาร์อีสท์ จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ สินเอเชีย จำกัด (มหาชน) สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งและมีศักยภาพในการเติบโต ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับธุรกิจด้านพลังงาน สำหรับอุตสาหกรรมปิโตรเคมี น้ำมันและก๊าซธรรมชาติ มากถึง 85% ของโครงสร้างรายได้ นอกจากนั้นการกำหนดราคาขายหุ้นไอพีโอ (IPO) ในครั้งนี้ เป็นการกำหนดราคาที่ทาง บริษัทหลักทรัพย์ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ในฐานะแกนนำการจัดจำหน่ายหุ้น (Under Writer) และทางผู้บริหารบริษัท รวมทั้งบริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) ได้กำหนดราคาที่นับว่าเป็นราคาที่น่าสนใจกับการลงทุนเป็นอย่างมาก
นางสาวชมเดือน ศตวุฒิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทย เอ็น ดี ที จำกัด (มหาชน) หรือ TNDT กล่าวเสริมถึงสาเหตุที่นักลงทุนสนใจจองซื้อหุ้นของ TNDT เป็นจำนวนมาก เนื่องจากการดำเนินธุรกิจของบริษัทไม่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยทางการเมือง และที่ผ่านมาผลการดำเนินงานยังไม่เคยขาดทุนตลอดระยะเวลา 25 ปีที่ดำเนินธุรกิจมาจนถึงวันนี้ สำหรับรายได้ปีนี้ยังมั่นใจว่าจะทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ คือรายได้เติบโตไม่น้อยกว่า 35-40% เช่นเดียวกับ 3 ปีที่ผ่านมา และในอนาคตจะมีงานเข้ามารองรับเพิ่มขึ้นในส่วนที่เป็นงานตรวจสอบระบบ NDT เทคโนโลยีชั้นสูง
บริษัท ไทย เอ็น ดี ที จำกัด (มหาชน) (TNDT) ประกอบธุรกิจการตรวจสอบและทดสอบทางวิศวกรรมความปลอดภัย ด้วยกระบวนการทดสอบโดยไม่ทำลาย (Nondestructive Testing : NDT) โดยให้บริการทั้งก่อนและขณะปฏิบัติงานรวมทั้งภายหลังการทดสอบและการตรวจสอบชิ้นงานแล้ว จะไม่มีส่วนชิ้นงานที่เข้าไปตรวจสอบมีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ไม่ว่าจะเป็นรูปลักษณ์หรือคุณสมบัติ
บริษัทมีวัตถุประสงค์ที่จะนำเงินที่ได้ไปใช้ดำเนินการ 3 ด้านหลัก ได้แก่ ประการที่หนึ่ง การใช้ในการจัดซื้ออุปกรณ์ และเครื่องมือ ที่มีเทคโนโลยีชั้นสูง เพื่อใช้ในการขยายการให้บริการตรวจสอบและทดสอบทางวิศวกรรม เพื่อใช้ในการขยายสำนักงานสาขาที่จะให้บริการกับลูกค้าในส่วนภูมิภาคและต่างจังหวัด และงานตรวจสอบในกลุ่มประเทศอินโดจีน ประการที่สอง เพื่อใช้ในการส่งเสริมการฝึกอบรมของพนักงานด้าน
ระบบ NDT ชั้นสูง และประการสุดท้าย เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจของบริษัท
สำหรับโครงการอนาคต บริษัทได้วางแผนการขยายธุรกิจการให้บริการการตรวจสอบและทดสอบทางวิศวกรรมความปลอดภัยด้วยระบบ NDT ดังนี้
1. ขยายธุรกิจการให้บริการไปยังกลุ่มลูกค้าในแถบภาคพื้นทวีปเอเชีย และกลุ่มประเทศตะวันออกกลางซึ่งเป็นกลุ่มที่ยังคงมีการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเพิ่มขอบข่ายการให้บริการทดสอบด้าน NDT ด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง (Advanced Technology) โดยการใช้เงินส่วนหนึ่งจากการระดมทุนในครั้งนี้ ประมาณ 24 — 30 ล้านบาท ในการจัดซื้ออุปกรณ์ เครื่องมือ ในการให้บริการ ที่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย และใช้เงินประมาณ 4 — 5 ล้านบาท ในการอบรมบุคลากรด้าน NDT ที่มีศักยภาพ เพื่อรองรับการให้บริการด้านระบบ NDTให้มีจำนวนที่เพียงพอเพื่อรอง
รับการขยายงานในอนาคต
2. สร้างสำนักงานสาขาเพิ่มขึ้นในเขตที่มีอุตสาหกรรมหนาแน่น ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 6 แห่ง ทั้งภาคตะวันออก ภาคเหนือ ภาคอีสาน อาทิเช่น จังหวัดระยอง ชลบุรี กำแพงเพชร สมุทรปราการ เป็นต้น และคาดว่าจะขยายอีก 2-3 จุด ในทางภาคใต้ใกล้แหล่งขุดเจาะน้ำมันและวางท่อก๊าซ เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
จุฬารัตน์ เจริญภักดี 089-4888337 , 02 -5549395

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ