กรุงเทพฯ--19 ก.พ.--
ททท. ผสาน สสปน. เร่งเครื่องเตรียมผลักดันจังหวัดขอนแก่นเป็นเมืองท่องเที่ยวหลัก เดินหน้าโครงการ "ประชุม..เที่ยว เรื่องเดียวกัน ที่ขอนแก่น" กระตุ้นนักเดินทางกลุ่ม MICE ให้มีกิจกรรมท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นตามกลยุทธ์การพัฒนาการท่องเที่ยวเพื่อการประชุม ตอกย้ำภาพลักษณ์ ขอนแก่น MICE City ภายใต้โครงการ Khon Kaen NEW BIZ ปี 2561 หวังเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวปีนี้ต้องไม่น้อยกว่า 5 ล้านบาทและกระจายเม็ดเงินสู่เศรษฐกิจฐานราก
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ( ททท.) ร่วมกับ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (ทีเส็บ) และจังหวัดขอนแก่น ผนึกกำลังเพื่อผลักดันให้จังหวัดขอนแก่นเป็นเมืองท่องเที่ยวหลักอย่างยั่งยืน โดยเดินหน้าโครงการ "ประชุม..เที่ยว เรื่องเดียวกัน ที่ขอนแก่น" เพื่อกระตุ้นนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะนักเดินทางกลุ่ม MICE ให้เดินทางเข้ามาจังหวัดขอนแก่นอย่างต่อเนื่องและเพิ่มขึ้นตลอดทั้งปี โดยนำเสนอภาพลักษณ์ของจังหวัดขอนแก่นที่กำลังจะมุ่งสู่ความเป็นเมืองอัจฉริยะ ( Smart City ) ในอนาคต และยังได้ชื่อว่าเป็นมหานครแห่งการท่องเที่ยวที่มีความหลากหลายทั้งแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ แหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ ประเพณี วิถีชีวิต ศิลปวัฒนธรรม รวมถึงมีโรงแรม ศูนย์ประชุมขนาดใหญ่ ร้านอาหาร และแหล่งช้อปปิ้งที่จะช่วยสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะนักเดินทางกลุ่ม MICE ขณะเดียวกันก็ตอกย้ำภาพลักษณ์เมืองแห่ง MICE City ที่มีความพร้อมและเป็นศูนย์กลางแห่งการประชุมสัมมนาในภูมิภาค และโดยในปีนี้ ททท. ได้ส่งเสริมตลาดท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ด้วยแนวคิด "ประชุม..เที่ยว เรื่องเดียวกัน ที่ขอนแก่น" เพื่อกระตุ้นให้นักเดินทางกลุ่ม MICE มีกิจกรรมทางด้านการท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า "ปัจจุบันจังหวัดขอนแก่นได้รับการจัดให้เป็นเมืองท่องเที่ยวหลักด้วยศักยภาพของจังหวัดที่มีความพร้อมทั้งในแง่ของการเป็นเมืองเศรษฐกิจใหญ่ เป็นศูนย์กลางทางการค้า การลงทุน การคมนาคม และจะเป็นศูนย์กลางตามกลยุทธ์การพัฒนาการท่องเที่ยว เพื่อการประชุมและนิทรรศการ ในฐานะเป็น MICE City 1 ใน 5 พื้นที่ของประเทศ ซึ่งมีความพร้อมในการรองรับการท่องเที่ยว การจัดประชุม สัมมนาและนิทรรศการทั้งในประเทศและระดับนานาชาติ มีการลงทุนทางด้านโครงสร้างพื้นฐาน และอสังหาริมทรัพย์ นอกจากนี้จังหวัดขอนแก่นยังมีแผนการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะในเมืองขอนแก่น กำลังดำเนินการขยายสนามบินขอนแก่นให้เป็นสนามบินนานาชาติ เพื่อรองรับเที่ยวบินและจำนวนนักท่องเที่ยวและนักเดินทางกลุ่ม MICE ที่จะมีจำนวนเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น ททท.จึงผลักดันให้จังหวัดขอนแก่นเป็นเมืองท่องเที่ยวหลัก ซึ่งได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2560 ตามแผนวิสาหกิจ ททท. พ.ศ. 2560- 2564 ภายใต้ยุทธศาสตร์การส่งเสริมการท่องเที่ยวพื้นที่ท่องเที่ยวจังหวัดรองเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มอย่างยั่งยืน และในปี 2561 ททท. ยังคงดำเนินการผลักดันจังหวัดขอนแก่นอย่างต่อเนื่องแม้ว่าขอนแก่นจะก้าวขึ้นเป็นเมืองท่องเที่ยวหลักแล้วก็ตาม เพื่อให้ขอนแก่นเป็นเมืองท่องเที่ยวหลักอย่างยั่งยืน โดยกำหนดเป้าหมายจำนวนผู้มาเยือนเพิ่มขึ้น โดยมีจำนวนนักท่องเที่ยว (Visitor) ไม่น้อยกว่า 5 ล้านคนต่อปี
สำหรับโครงการ"ประชุม..เที่ยว เรื่องเดียวกัน ที่ขอนแก่น" ภายใต้โครงการ Khon Kaen New Biz ปี 2561 เป็นอีกโครงการที่เป็นความร่วมมือกับ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (ทีเส็บ) โดยเชื่อมโยงการจัดประชุมและการท่องเที่ยวมาผนวกเข้าด้วยกัน เพื่อดึงดูดให้นักเดินทางโดยเฉพาะกลุ่ม MICE ที่เดินทางเข้ามาจังหวัดขอนแก่น เพื่อการมาประชุม หรือสัมมนา และดูงาน มีกิจกรรมการท่องเที่ยวเพิ่มเข้าไปด้วย จังหวัดขอนแก่น ก็ได้ชื่อว่าเป็นมหานครแห่งการท่องเที่ยว มีแหล่งท่องเที่ยวทั้งทางธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ งานเทศกาล ประเพณีต่างๆ ให้มาสัมผัสตลอดทั้งปี และจังหวัดขอนแก่นยังมีความพร้อมทางด้านของที่พัก โรงแรม ศูนย์ประชุมขนาดใหญ่ ร้านอาหาร แหล่งช้อปปิ้ง ที่สามารถรองรับการมาเยือนของนักเดินทางกลุ่ม MICE ได้อย่างครบครัน และนอกจากการท่องเที่ยวในจังหวัดขอนแก่นแล้ว นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางต่อเพื่อไปท่องเที่ยวในจังหวัดพื้นที่ใกล้เคียงได้อีกด้วย
ผู้ว่าการ ททท. ยังกล่าวต่ออีกว่า "การเดินหน้าโครงการฯ ดังกล่าว นอกจากต้องการเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวให้สูงขึ้นตามเป้าหมายซึ่งก็ได้รับความร่วมมือจาก ทาง ทีเส็บ ที่จะกระตุ้นและส่งเสริมให้เกิดการเดินทางเข้ามาของการนักเดินทางกลุ่ม MICE ให้เพิ่มมากขึ้น ยังเป็นการตอกย้ำภาพลักษณ์เมืองแห่ง MICE City ให้จังหวัดขอนแก่นเป็นจุดหมายแห่งการจัดประชุมสัมมนาและงานแสดงสินค้า รวมถึงการท่องเที่ยว ในเวลาเดียวกัน ที่สำคัญเป็นการช่วยกระตุ้นเม็ดเงินให้หมุนเวียนเพิ่มมากขึ้นจากการใช้จ่ายในการท่องเที่ยวของนักเดินทางกลุ่ม MICE ให้กระจายรายได้ไปสู่เศรษฐกิจฐานรากของจังหวัดขอนแก่นด้วยนั่นเอง"
นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ กล่าวว่า ทีเส็บเข้ามามีบทบาทส่งเสริมไมซ์ในขอนแก่นจนเข้าสู่ปีที่ 10 และพัฒนาไมซ์กระจายความเจริญไปสู่ทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ในปัจจุบัน ทำให้ในปี 2560 มีจำนวนนักเดินทางกลุ่มไมซ์ภายในประเทศ 474,000 คนที่จังหวัดขอนแก่น สร้างรายได้ให้แก่จังหวัดมากถึงประมาณ 956 ล้านบาท
ในปัจจุบัน ทีเส็บ ร่วมกับจังหวัดขอนแก่นและทุกภาคส่วนดำเนินงานภายใต้วิสัยทัศน์ เพื่อพัฒนา "ขอนแก่นเป็นเมืองจุดหมายการประชุมไมซ์จากการจัดอันดับ 10 เมืองในอาเซียน" ด้วย 4 กลยุทธ์หลัก คือ 1. ส่งเสริมการสร้างภาพลักษณ์ขอนแก่นสู่การเป็นศูนย์กลางไมซ์ของอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง 2. ยกระดับการ บริการ สร้างโอกาสให้กิจกรรมไมซ์ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 3. พัฒนาบุคลากรในอุตสาหกรรมไมซ์ในพื้นที่ และ 4. พัฒนามาตรฐาน เพิ่มขีดความสามารถของบุคลากรและสถานที่จัดการประชุมสัมมนา เป็นกลุ่มประชุมสัมมนาองค์กรและสมาคมถึง 60% และเป็นที่ทราบกันดีว่าขอนแก่นเป็นเมืองไมซ์ซิตี้ที่มีภาพลักษณ์โดดเด่นในการเป็นเมืองแห่งการประชุมสัมมนาของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมีศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติของจังหวัดที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศ
ด้านการพัฒนาศักยภาพและบุคลากรไมซ์ ทีเส็บทำงานร่วมกับมหาวิทยาลัยขอนแก่น ภายใต้ "โครงการการตั้งศูนย์เครือข่ายด้านการศึกษาไมซ์ในภูมิภาค" (MICE Academic Cluster) เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจไมซ์และความต้องการของผู้ประกอบการไมซ์ กลุ่มภาคการศึกษา และจังหวัดขอนแก่น ร่วมกันพัฒนาองค์ความรู้และยกระดับมาตรฐานบุคลากร ลดความเหลื่อมล้ำ และก่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อไป
"ทีเส็บ เห็นชัดว่าขอนแก่นมีศักยภาพสูง มีความพร้อมสูง ดังนั้น ความร่วมมือกันนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของการนำการท่องเที่ยวและการเดินทางธุรกิจเข้ามาร่วมพัฒนาประเทศ ให้ประชาชนในท้องถิ่นได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง เพราะโครงการ"ประชุม..เที่ยว เรื่องเดียวกัน ที่ขอนแก่น" ใช้แนวคิดส่งเสริมกิจกรรมเพิ่มเติมนอกเหนือจากการประชุม คือ กิจกรรมท่องเที่ยว เพื่อขยายระยะเวลาพำนักของนักเดินทางกลุ่มไมซ์ในขอนแก่น เช่น การแสดงทางวัฒนธรรม และการจัดทัวร์ชมสถานที่ในจังหวัด"
ทั้งนี้ได้จัดทำแพคเกจสนับสนุนการจัดงานไมซ์ 2 ประเภท ได้แก่ แพคเกจสนับสนุนการประชุมและอินเซนทิฟ (Meetings & Incentives) ซึ่งมีหลักเกณฑ์ในการเดินทางข้ามจังหวัดและพักค้างคืนในจังหวัดขอนแก่น และแพคเกจสนับสนุนการประชุมวิชาการ (Conventions) คือ เป็นการประชุมทางวิชาการ และพักค้างคืนในจังหวัดขอนแก่น เริ่มตั้งแต่มีนาคมถึงกันยายน 2561
"โครงการนี้ เป็นการผสานประโยชน์ทั้งทางเศรษฐกิจ วิชาการ และการพัฒนา ให้เกิดขึ้นในขอนแก่นแล้วสร้างแรงเหวี่ยงออกไปในจังหวัดรอบข้าง จึงเชื่อได้ว่าขอนแก่นจะสามารถแข่งขันกับเมืองไมซ์ในระดับภูมิภาคอาเซียนอื่น ๆ ได้อย่างดีในอนาคต" นายจิรุตถ์ กล่าวสรุป
ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น นายสมศักดิ์ จังตระกุล กล่าวว่า จังหวัดขอนแก่นเป็นศูนย์กลางภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทั้งในเรื่องการค้าการลงทุนและบริการ เป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งและโลจิสติกส์ ซึ่งเป็นชุมทางคมนาคมขนส่งทางรถยนต์ รถไฟ และเครื่องบิน กว่า 32 เที่ยวบินต่อวัน เชื่อมโยงทั้ง ขอนแก่น-กรุงเทพฯ, ขอนแก่น-เชียงใหม่,ขอนแก่น-หาดใหญ่ และขอนแก่น-ภูเก็ต มีโรงแรมที่พักที่มีสามารถรองรับผู้มาเยือนกว่า 366 แห่ง หรือคิดเป็นห้องพักกว่า 10,068 ห้อง พรั่งพร้อมด้วยโรงพยาบาลของรัฐและเอกชน และศูนย์แพทย์เฉพาะทางที่ได้มาตรฐาน มีสถานที่จัดกิจกรรมประชุมสัมมนา ร่วมทั้งการแสดงสินค้าขนาดใหญ่ และมุ่งสู่การเป็นมหานครแห่งอาเซียน ด้วยโครงการรถไฟรางคู่-ทางรถไฟสายใหม่ (บ้านไผ่-นครพนม), โครงการก่อสร้างระบบขนส่งมวลชนรางเบา (เฟส 1 สายเหนือ-ใต้) การดำเนินการพัฒนาจังหวัดสู่ Smart City จึงเชื่อแน่ว่าจังหวัดขอนแก่นมีความพร้อมที่จะก้าวเขาสู่เมืองท่องเที่ยวหลักอย่างยั่งยืน เมื่อประกอบกับอัธยาศัยไมตรีของคนขอนแก่น อาหารการกิน ขนบประเพณีวัฒนธรรม แหล่งท่องเที่ยว รวมทั้งแหล่งศึกษาดูงานต่างๆ ก็จะทำให้ผู้ที่เดินทางเข้าสู่จังหวัดขอนแก่นเกิดความประทับใจและมีความรู้สึกคุ้มค่า
จังหวัดจึงได้มีแผนการพัฒนาปรับปรุงระบบโครงสร้างพื้นฐาน สิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนการพัฒนาบุคลากรทางการท่องเที่ยวให้มีความพร้อมในการต้อนรับผู้เยี่ยมเยือนและเป็นมาตรฐาน และกระตุ้นให้เกิดการลงทุนเพิ่มมากขึ้นในภาคธุรกิจอันจะก่อให้เกิดการจ้างงานและมีการหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจของจังหวัดขอนแก่น ส่งผลดีต่อการลดปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคมให้น้อยลงได้