กรุงเทพฯ--18 ต.ค.--โอเอซิส มีเดีย
ผ่านไตรมาสที่ 3 ของปี 2550 ภาวะตลาดรับสร้างบ้านยังอยู่ในทิศทางที่ สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน ได้ทำการประเมินไว้ โดยคาดว่าตลาดรวมทั้งปีน่าจะมีมูลค่าเทียบเท่า หรือ เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยจากปี 2549 ที่ 8,000 ล้านบาท โดยในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2550 มูลค่าตลาดรวมรับสร้างบ้าน จะอยู่ที่ประมาณ 4,000 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2549 ที่ 3,500 ล้านบาท โดยการเพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากในช่วงที่ สมาคมฯ มีการจัดงาน รับสร้างบ้าน 2007 ในเดือนสิงหาคม ซึ่งภายในงานประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีกับยอดจองภายในงานถึง 1,500 ล้านบาท มากกว่าที่สมาคมฯ ประเมินไว้ที่ 1,000 ล้านบาท
งานรับสร้างบ้านที่ผ่านพ้นมาหมาดๆ ชี้ให้เห็นปรากฏการณ์ที่เป็นทั้งน่ายินดีและหนักใจในเวลาเดียวกันคือ จำนวนผู้สนใจในการสร้างบ้านยังคงมีจำนวนอยู่ในระดับที่ผู้ประกอบการสบายใจ มิได้หดหายไปอย่างที่บางท่านกังวลอยู่ แต่สิ่งที่ตามมาคือผู้สนใจเหล่านี้มีการคาดหมายว่าจะมีการลดราคาเป็นจำนวนมาก จากผู้ประกอบการที่เชื่อกันว่าอยู่ในสภาวะขาดแคลนกำลังซื้อ แต่เมื่อพบว่าการจัดทำโปรโมชั่นในงานรับสร้างบ้านมิได้เป็นไปอย่างที่คาดหมายคือไม่มีการลดราคากันอย่างผิดปกติ ทำให้กลุ่มหนึ่งตัดสินใจตกลงปลูกสร้างก่อนที่ราคาค่าก่อสร้างจะปรับตัวจากภาวะเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มจะดีขึ้น แต่ในทางกลับกันยังคงมีผู้สนใจอีกจำนวนหนึ่งที่คาดหมายว่าจะมีการลดราคาจากกลุ่มผู้ประกอบการ จึงยังรอคอยต่อไป เนื่องจากมีผู้ประกอบการบางรายหันมาเน้นกลยุทธ์ราคาเป็นตัวนำ ทำให้มีความเชื่อว่าอาจจะมีผู้อื่นกระทำตาม ซึ่งกลุ่มนี้พร้อมตัดสินใจเมื่อพบว่ามีการลดราคาตามที่ตนเองคาดหมาย โดยจากการจัดทำการสำรวจความคิดเห็นของผู้ที่เข้าร่วมชมงานรับสร้างบ้าน 2007 จำนวนประมาณ 9,000 ตัวอย่างพบว่า กว่า 50 % มีแนวโน้มที่จะสร้างบ้านภายใน 1-2 ปี ข้างหน้า ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่ทำให้หลาย ๆ ฝ่ายน่าจะสบายใจขึ้นมาได้ว่ากำลังซื้อในตลาดยังคงมี และไม่ได้หดหายลงไปมากนัก
คาดราคาวัสดุใกล้ปรับตัวถึงจุดต่ำสุด หวั่นผู้ประกอบการเล่นสงครามราคาส่งผลกระทบ
ทั้งนี้ในมุมมองของ สมาชิกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านต่างมีความเชื่อกันว่า ด้วยสถานการณ์ปัจจุบัน ไม่ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงในทิศทางใดก็ตามคงไม่ส่งผลต่อต้นทุนโดยตรงของธุรกิจนี้ เนื่องจากต้นทุนโดยตรงอันหมายถึงราคาวัสดุก่อสร้างและค่าแรงงาน เป็นที่แน่ชัดแล้วว่ามาถึงใกล้จุดต่ำสุด ทุกค่ายผู้ผลิตต่างปรับตัว ในเชิงการบริหารจัดการเพื่อแข่งขันกันต่อเนื่องมาเป็นเวลานาน จนพอจะเชื่อถือได้ว่าหากมีการเปลี่ยนโครงสร้างราคาที่มีนัยยะสำคัญ คงหมายถึงการเปลี่ยนคุณภาพชดเชย เฉกเช่นการลดขนาดบรรจุภัณฑ์ธุรกิจสินค้าอุปโภคต่างๆ อีกทั้งปัจจัยเรื่องราคาน้ำมันยังคงกดดันต้นทุนสินค้าต่างๆอย่างต่อเนื่องแม้ว่าจะไม่รุนแรงเหมือนสองปีที่ผ่านมาด้วยค่าเงินบาทที่แข็งค่าชดเชยกันอยู่ หากรัฐเปลี่ยนนโยบายการเรียกเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน เพื่อนำเงินมาชดเชยการจัดเก็บภาษีที่พลาดเป้า ย่อมจะส่งผลต่อโครงสร้างราคาอย่างแน่นอน ทั้งค่าแรงงานขั้นต่ำกำลังจะเป็นประเด็นลำบากใจของทุกอุตสาหกรรมที่รอการตัดสินใจจากภาครัฐ
ดังนั้นจากที่กล่าวมาข้างต้น สมาชิกสมาคมจึงมีความกังวลต่อการใช้ราคาค่าก่อสร้างเป็นจุดขาย เนื่องจากหากมีการไม่สามารถส่งมอบบ้านตามข้อตกลงของผู้ประกอบที่ก่อให้เกิดความเสียหาย จะกระทบต่อภาพรวมของธุรกิจนี้ที่กำลังเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค ดังเช่นปีที่ผ่านมาสมาคมจะได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนที่ขอให้สมาคมเป็นตัวแทนในการแก้ไขหรือขอข้อแนะนำอยู่เสมอ
อย่างไรก็ตามนายพันธุ์เทพ ทานชิติกุล อุปนายกฝ่ายวิชาการของสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านกล่าวว่า สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านยังคงมีมุมมองที่ดี ต่อการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการเลือกผู้ให้บริการในการสร้างบ้าน จากที่เห็นในงานรับสร้างบ้านที่ผ่านมาว่า มีการเตรียมข้อมูลและศึกษาเปรียบเทียบวัสดุแบบบ้าน และภาพลักษณ์ของผู้ประกอบการ และให้ความสนใจต่อราคาน้อยกว่าที่คาดการไว้ ทำให้มีการตัดสินสั่งจองบ้านในงานสูงกว่าปี่ที่ผ่านมาถึง 30% ซึ่งคิดเป็นจำนวนเงินสูงถึง 1,500 ล้านบาทซึ่งเพียงเป็นส่วนหนึ่งของยอดขายไตรมาสสาม และหลายรายสามารถตัดสินได้จากการเดินชมงานในระยะเวลาการจัดงานเพียง 5 วัน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถือเป็นกำลังใจของผู้ประกอบการ ที่ต่างทุ่มเทการบริหารจัดการเพื่อยกระดับความเชื่อถือ ต่ออุตสาหกรรมนี้ให้เป็นที่ยอมรับของประชาชนทั่วไป และจะส่งผลยอดการรับสร้างบ้านของตลาดรวม สามารถบรรลุเป้าหมาย 8000 ล้านบาทใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา
ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ บริษัท โอเอซิส มีเดีย จำกัด โทรศัพท์ 0-2937-4735
ศรัญญรัตน์ สุวรรณคาม 081-423-4121 / ปิยะพร จำเนียร 081-561-1134 / ชัชวาล ตรีเนตร 081-626-3095
e-mail : saranyarat@oasismedia.co.th piyaporn@oasismedia.co.th /chatchaval@oasismedia.co.th