กรุงเทพฯ--25 ต.ค.--เจดับบลิวที พับบลิค รีเลชั่นส์
สสปน. เปิดงาน ICCA Congress & Exhibition ครั้งที่ 46 อย่างยิ่งใหญ่ พร้อมร่วมเฉลิมฉลองในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ตอกย้ำศักยภาพความแข็งแกร่งธุรกิจไมซ์ไทย สู่สายตานานาชาติทั่วโลก คาดเม็ดเงินสะพัดต่อยอดในงานกว่า 560 ล้านบาท
ICCA Congress & Exhibition ครั้งที่ 46 เริ่มแล้ว โดยสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน.เป็นจ้าภาพจัดงาน ระหว่าง วันที่ 27 ถึง 31 ตุลาคม 2550 ณ ศูนย์ประชุมพีช โรงแรมรอยัล คลิฟ บีช รีสอร์ท พัทยา ต้อนรับกลุ่มสมาชิก ICCA และซีอีโอจาก 80 ประเทศทั่วโลก โชว์จุดเด่นแนวคิด: “Thailand Fast Forward” เน้นศักยภาพประเทศไทยในธุรกิจไมซ์ พร้อมร่วมฉลอง 2 เหตุการณ์สำคัญในปี 2007 ได้แก่ การเฉลิมฉลองครบรอบ 80 พรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และการฉลองครบรอบ 50 ปีของ ICCA General Assembly:
นายณัฐวุฒิ อมรวิวัฒน์ ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน. เปิดเผยว่า เป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ในปีนี้ ประเทศไทยได้รับคัดเลือกให้เป็นประเทศเจ้าภาพในการจัดงาน ICCA Congress & Exhibition ครั้งที่ 46 ซึ่งนับเป็นโอกาสครั้งที่ 2 ที่ประเทศไทยได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติให้เป็นเจ้าภาพงานประชุมของวงการไมซ์ระดับโลกอีกครั้ง หลังจากที่ได้เคยจัดการประชุมรายการนี้ไปแล้วในปี พ.ศ.2528 ด้วยการชนะการแข่งขันกับคู่แข่งหลายประเทศในเอเซีย อาทิ สิงคโปร์ มาเลเซีย ทั้งนี้ ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ในครั้งนี้เป็นผลงานที่ สสปน. ได้แสดงบทบาทสำคัญในการเป็นศูนย์กลางผลักดันอุตสาหกรรมการประชุมของประเทศไทยเข้าสู่ระดับสากล โดยงานนี้จะมีผู้เข้าร่วมงานถึงประมาณ 750 คน จาก 80 ประเทศทั่วโลก และคาดว่าจะมีรายได้ประมาณการที่เป็นยอดเงินสะพัดในช่วงการประชุมในประเทศราว 70 ล้านบาท รวมถึงจะมีรายได้จากการต่อยอดธุรกิจในงานนี้กว่า 8 เท่าตัว คือราวๆ 560 ล้านบาท
“ในการประชุมครั้งนี้เป็นการจัดงานแบบ Theme Meeting ภายใต้คอนเซปต์ชื่อว่า Fast Forward ที่มุ่งเน้นไปในการนำเสนอศักยภาพอันแข็งแกร่งของประเทศไทยในการเป็นผู้นำอุตสาหกรรมไมซ์ในภูมิภาคเอเชีย อันเป็นอุตสาหกรรมที่มีความเจริญเติบโตและพัฒนาอย่างรวดเร็ว (fast) และมีมาตรฐานล้ำหน้าระดับสากล (forward) ด้วยความพร้อมในหลายๆ ด้านที่เป็นปัจจัยส่งให้ประเทศไทยประสบความสำเร็จในธุรกิจนี้ แนวคิดในการจัดงาน: “Thailand Fast Forward” นั้น เพื่อสะท้อนให้เห็นถึง 2 เหตุการณ์สำคัญที่เวียนมาครบรอบในปี 2007 ได้แก่ การฉลองครบรอบ 50 ปีของ ICCA General Assembly: วิวัฒนาการของวงการประชุมนานาชาติ พร้อมกับการเฉลิมฉลองครบรอบ 80 พรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ กษัตริย์ผู้ครองแผ่นดินไทย: วิวัฒนาการของประเทศไทยและวงการประชุมนานาชาติ ในฐานะอดีตเจ้าภาพงาน ICCA เมื่อ 22 ปีที่ผ่านมา” นายณัฐวุฒิกล่าวเสริม
ด้าน นางสุประภา โมฬีรตานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมการจัดประชุม สสปน. กล่าวถึงรายละเอียดของงานว่า “ในงาน ICCA Congress & Exhibition ครั้งที่ 46 นี้ มีความสำคัญมาก เนื่องจากจะเป็นเวทีสำคัญที่รวบรวมบุคคลากรในธุรกิจการจัดประชุม ตั้งแต่ผู้บริหารระดับสูงจนถึงบุคคลากรรุ่นใหม่ในธุรกิจการจัดประชุมจากทั่วภูมิภาคเอเชีย เพื่อพบปะเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ นำเสนอความคิดเห็นเพื่อศึกษาแนวทางใหม่ ๆ และกำหนดทิศทางในการพัฒนาเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับอุตสาหกรรมการจัดประชุม เป็นการติดตามความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมไมซ์ รวมถึงช่วยสร้างเครือข่ายของผู้ประกอบการและบุคคลากรในอุตสาหกรรมให้มีความแข็งแกร่ง ทั้งนี้ ภายในงานประกอบด้วยส่วนของการประชุมสัมมนาเพื่อเพิ่มทักษะความรู้ให้แก่บุคคลากรและผู้ประกอบการธุรกิจการจัดประชุมจากทั่วโลกเพื่อให้มีความเข้าใจและความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมอย่างถ่องแท้ และยังเป็นโอกาสที่จะได้แบ่งปันมุมมองใหม่ ๆ ในการบริหารสถานที่จัดประชุม ตลอดจนการจัดประชุมและนิทรรศการต่าง ๆ ให้ประสบความสำเร็จ”
ส่วนด้านความพร้อมของเมืองพัทยาในการเป็นเจ้าภาพจัดงาน ICCA Congress & Exhibition ครั้งที่ 46 นั้น ทางจังหวัดได้มีการเตรียมความพร้อมและดูแลความเรียบร้อยเพื่อสวัสดิภาพในชีวิตและทรัพย์สินของผู้เข้าประชุม โดยการจัดประชุมครั้งสำคัญนี้ในเมืองพัทยาถือว่าเป็นการประกาศความพร้อมของศักยภาพและจุดเด่นด้านต่างๆ ของเมืองพัทยาให้เป็นที่รู้จักและยอมรับในฐานะศูนย์กลางการจัดประชุม นิทรรศการและการแสดงสินค้านานาชาติที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของทวีปเอเชีย เนื่องจาก พัทยาเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีความพร้อมในการตอบรับความต้องการของการจัดประชุมระดับโลกได้อย่างครบครัน ทั้งด้านศูนย์ประชุม เทคโนโลยีต่างๆ ระบบสาธารณูปโภค โรงแรมที่พัก สถานที่ท่องเที่ยว และแหล่งช็อปปิ้งขนาดใหญ่มากมาย รวมไปถึงความพร้อมของพัทยาทางด้านคมนาคม ที่อยู่ไม่ไกลมากจากสนามบินสุวรรณภูมิอันเป็นสนามบินศูนย์กลางการคมนาคมแห่งใหม่ที่ทันสมัยของประเทศไทย โดยที่ผ่านมานั้นเมืองพัทยาก็ได้รองรับการจัดงานใหญ่ๆ มาแล้วหลายงาน ซึ่งนับเป็นการแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของเมืองพัทยาอย่างเต็มภาคภูมิในการเป็นจุดหมายปลายทางที่สำคัญสำหรับการจัดงานเพื่ออุตสาหกรรมไมซ์”
“นอกจากนี้ สสปน. ยังได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการสร้างรากฐานที่มั่นคงในแก่อุตสาหกรรมนี้ โดยได้จัดให้มีการประชุมย่อยระดับนานาชาติที่มีความสำคัญเพื่อเป็นปัจจัยเสริมแก่งานนี้ขึ้นอีก 2 งาน ได้แก่ การประชุม Asia’s Meetings Industry Summit: Challenges and Opportunities in the Next Decade ในวันที่ 26 ตุลาคม 2550 ซึ่งเป็นการประชุมของผู้บริหารระดับสูงในอุตสาหกรรมการจัดการประชุมในภูมิภาคเอเชีย โดยจะเป็นเวทีในการแลกเปลี่ยนความรู้ความคิดเห็นเกี่ยวกับอนาคตของอุตสาหกรรมการจัดประชุมในเอเชีย อันจะนำไปสู่ความร่วมมือในการหาข้อสรุปเกี่ยวกับการวางแผนยุทธศาสตร์เพื่อการพัฒนาธุรกิจไมซ์และผลักดันเอเชียให้เป็นศูนย์กลางการจัดประชุมระดับนานาชาติให้ทัดเทียมกับประเทศในแถบยุโรปและอเมริกา โดยมีวิทยากรผู้ร่วมอภิปรายประกอบด้วยผู้แทนระดับอาวุโสจากองค์กรต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจการจัดประชุม เช่น หน่วยงานภาครัฐที่กำกับดูแลการท่องเที่ยวและการจัดการประชุม ธุรกิจสถานที่จัดการประชุม ผู้จัดการประชุม และนักวิชาการจากนานาประเทศและเขตปกครอง อาทิ ออสเตรเลีย จีน ฮ่องกง อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลี สิงคโปร์ ไต้หวัน และประเทศไทย” นางสุประภา กล่าวเพิ่มเติม
นอกจากนี้ยังมี งานประชุม The Asian Meetings Industry Young professionals Conference 2007 ในระหว่างวันที่ 29 ถึง 30 ตุลาคม 2550 เพื่อเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ในวงการจัดการประชุมของเอเชียได้พบปะกับปรมาจารย์ในวงการการจัดประชุมจากทั่วโลก ซึ่งจะมาเป็นวิทยากรที่ให้ความรู้และแบ่งปันประสบการณ์ในงานประชุมครั้งนี้ รวมถึงตัวแทนผู้ทรงคุณวุฒิจากประเทศไทย คือ คุณหญิงพวงร้อย ดิศกุล ณ อยุธยา ผู้อำนวยการบริหารโครงการพัฒนาดอยตุง มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงภายในพระบรมราชูปถัมภ์ ซึ่งจะมาเป็นวิทยากรให้ความรู้ในหัวข้อ “Fighting Drugs with Hope” งานนี้ยังเป็นการเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ที่อยู่ในสายงานไมซ์และผู้ที่สนใจเข้าร่วมแลกเปลี่ยนความรู้ความคิดเห็นกับเพื่อนร่วมสายอาชีพจากประเทศต่างๆ ทั่วเอเชีย
“การจัดงานครั้งนี้ประสบความสำเร็จได้เป็นอย่างดีจากการร่วมมือร่วมใจกันของทุกฝ่าย ทั้งเมืองพัทยา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย บริษัทการบินไทย จำกัด มหาชน และองค์กรอื่นๆ ที่ได้ประสานมือกันทำหน้าที่เจ้าภาพที่ดีในการต้อนรับแขกผู้ร่วมงานจากประเทศต่าง ๆ อีกทั้งยังเป็นการตอกย้ำถึงศักยภาพและความเป็นสุดยอดผู้นำด้านอุตสาหกรรมไมซ์ของประเทศไทยไทยสู่สายตาชาวโลกอย่างแท้จริงอีกครั้งหนึ่ง” นายณัฐวุฒิกล่าวทิ้งท้าย
นอกจากประเทศไทยจะได้เป็นเจ้าภาพในการจัดงาน ICCA Congress & Exhibition ครั้งที่ 46 แล้ว ประเทศไทยยังได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมและนิทรรศการ IT&CMA ครั้งที่ 15 และงาน CTW Asia-Pacific ครั้งที่ 10 ในระหว่างวันที่ 23 — 25 ตุลาคม ที่ผ่านมา ณ บางกอกคอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นอีกสุดยอดงานโชว์ด้านท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมไมซ์ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง และได้ช่วยประชาสัมพันธ์กรุงเทพมหานครในฐานะศูนย์กลางอุตสาหกรรมไมซ์ในภูมิภาคเอเชียได้เป็นอย่างดีอีกงานหนึ่ง
สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.)
สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) คือองค์กรของภาครัฐที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชกฤษฎีกา ออกโดยพระราชกิจจานุเบกษาฉบับวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2545 สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการได้เริ่มเปิดทำการตั้งแต่ปี พ.ศ. 2547 เป็นต้นมา
สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการมีจุดมุ่งหมายในการสนับสนุนและประสานงานด้านการจัดการประชุม การจัดงานเพื่อเป็นรางวัล การจัดงานแสดงสินค้าและนิทรรศการต่าง ๆ ซึ่งมักเรียกโดยรวมเป็นคำย่อว่า ‘MICE’ มีที่มาจากการจัดประชุม การจัดงานเพื่อเป็นรางวัล การจัดงานแสดงสินค้าและนิทรรศการในประเทศไทย การจัดตั้งสสปน.ขึ้นมานี้เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความเติบโตของไทยในการเป็นตัวเลือกหนึ่งของสถานที่จัดงานประชุม งานแสดงสินค้าและนิทรรศการระดับนานาชาติ
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม:
สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.)คุณปาริฉัตร เศวตเศรนี
โทร 0-2694-6000 Ext. 6091 หรือ 08-1840-4701อีเมล์l: parichat_s@tceb.or.th
คุณอริสรา ธนูแผลง โทร 0-2694-6000 ต่อ 6092 หรือ 08-1561-4745
อีเมลล์ : arisara_t@tceb.or.th เจดับบลิวที ประเทศไทย :เจดับบลิวที พับบลิค รีเลชั่นส์
คุณวงจันทร์ ตั้งทรงศักดิ์ โทร. 0-2204-8221 หรือ 089-127-2089 อีเมล์l: wongchan.tangsongsak@jwt.com
คุณญาดา ศรีสัมมาชีพ โทร. 0-2204-8214 หรือ 08-4640-0058อีเมล์ : yada.srisammasheep@jwt.com