กรุงเทพฯ--22 ก.พ.--กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
นายวิวัฒน์ ศัลยกำธร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานพิธีเปิดโครงการรวมพลังขับเคลื่อนระบบวนเกษตรในเขตปฏิรูปที่ดิน ประจำปีงบประมาณ 2561 ภายใต้แนวคิด วนเกษตรคู่น่าน เพื่อลูกหลาน สู่มั่งคั่ง อย่างยั่งยืน ณ วัดโป่งคำ ต.ดู่พงษ์ อ.สันติสุข จ.น่าน พร้อมทั้งมอบนโยบายการขับเคลื่อนเกษตรกรรมยั่งยืน การขยายผลศาสตร์พระราชาสู่ความยั่งยืน โดยมี พระครูสุจิณนันทกิจ จรณธมฺโม เจ้าอาวาสวัดโป่งคำ นายวรกิตติ ศรีทิพากร รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน ให้การต้อนรับ และนายสุรจิตต์ อินทรชิตเลขาธิการสำนักปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) เป็นผู้กล่าวรายงาน ก่อนปฏิบัติการ "ตัดตุงพุ่งฟ้า วนเกษตรพา สู่ความยั่งยืน" พร้อมพบปะเกษตรกรและผู้เข้าร่วมงาน และเยี่ยมชมนิทรรศการวิชาการทั้ง 15 ฐานอาทิ ฐานนิทรรศการองค์ความรู้วนเกษตรตามภูมินิเวศน์ 4 ภาค และจุดแลนด์มาร์กแบบจำลองตามโคก หนองนา โมเดล
นายวิวัฒน์ ศัลยกำธร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศหรือภาวะโลกร้อนกำลังเป็นเรื่องที่ทั่วโลกกังวลอย่างมาก สาเหตุสำคัญมาจากพื้นที่ป่าไม้ลดลงส่งผลให้ความสามารถในการดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ลดลงด้วย ประเทศไทยในฐานะผู้เห็นชอบในข้อตกลงปารีสเมื่อปี 2558 ได้แสดงเจตนารมณ์ไว้อย่างแน่วแน่ว่าจะน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ซึ่งมุ่งเน้นการเสริมสร้างความสมดุลระหว่างความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมาเป็นแนวทาง รัฐบาลจึงมีนโยบายส่งเสริมการทำเกษตรกรรมยั่งยืนเพื่อลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติตลอดจนสร้างความมั่นคงทางอาหาร ให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์ฟื้นฟูดินและเพิ่มพื้นที่ป่าของประเทศ รวมทั้งแก้ไขปัญหาและยกระดับคุณภาพชีวิตให้เกษตรกรอย่างยั่งยืนด้วยศาสตร์พระราชา โดยส่งเสริมการทำเกษตรทฤษฎีใหม่และระบบวนเกษตรมาใช้ในพื้นที่เขตปฏิรูปที่ดิน
ทั้งนี้ หากพื้นที่เขตปฏิรูปที่ดินกว่า ๔๐ ล้านไร่ทั่วประเทศเปลี่ยนแปลงกระบวนการผลิตเป็นเกษตรกรรมยั่งยืนเกษตรกรก็จะมีสุขภาพดี ผลผลิตที่ได้ก็เป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพของผู้บริโภค และเป็นที่ต้องการของทั่วโลกเป็นการสร้างความมั่นคงทางอาหาร ทั้งในมิติเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และสร้างประโยชน์สูงสุดกับทุกภาคส่วน ทั้งตัวเกษตรกรเอง ประเทศชาติ และโลกด้วย นโยบายดังกล่าวมีความสอดคล้องกันตั้งแต่แผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ในยุทธศาสตร์ที่ 2 เน้นการสร้างความสามารถในการแข่งขัน แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 ในยุทธศาสตร์ที่ 3 เน้นการสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจและแข่งขันได้อย่างยั่งยืน ซึ่งมีเป้าหมายเพิ่มพื้นที่เกษตรกรรมยั่งยืนเพิ่มขึ้นเป็น 5 ล้านไร่ภายในปี 2564
นายสุรจิตต์ อินทรชิต เลขาธิการ ส.ป.ก. กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดงานรวมพลังขับเคลื่อนระบบวนเกษตรในเขตปฏิรูปที่ดินประจำปีงบประมาณ 2561 ครั้งนี้นับเป็นการเริ่มต้นขับเคลื่อนงานการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนในรูปแบบของวนเกษตร อีกทั้ง เป็นต้นแบบในการส่งเสริมระบบวนเกษตรในเขตปฏิรูปที่ดินให้กับเจ้าหน้าที่และเกษตรกรกลุ่มเป้าหมาย ได้ศึกษาทำความเข้าใจสามารถนำไปขับเคลื่อนงานและประยุกต์ใช้ในพื้นที่ โดยศึกษาได้จากแบบจำลองโมเดล โคก หนอง นา และจากฐานนิทรรศการองค์ความรู้ด้านวนเกษตรตามภูมินิเวศน์ 4 ภาค และกิจกรรมการบริหารจัดการภาคเกษตรตามแนวปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ตลอดจนเวทีเสวนา หัวข้อ "แนวทางการขับเคลื่อนวนเกษตรในลักษณะประชารัฐ" โดยมีเกษตรกร ภาคเอกชน ภาครัฐวิสหกิจเข้าร่วมงานกว่า 500 คน ซึ่งผู้เข้าร่วมงานจะได้ความรู้ความเข้าใจ และตระหนักถึงความสำคัญของระบบวนเกษตร โดยสามารถนำไปประยุกต์ปรับใช้ให้เข้ากับบริบทพื้นที่ในเขตปฏิรูปที่ดิน หรือพื้นที่ของตนเองเพื่อสร้างความสมดุลให้กับระบบนิเวศ และขับเคลื่อนระบบวนเกษตร เพื่อลูกหลาน สู่มั่งคั่ง อย่างยั่งยืนต่อไป