กรุงเทพฯ--22 ก.พ.--ONE Championship
มาร์ติน เหงียน เจ้าของฉายา "The Situ-Asian" แชมป์รุ่นเฟเธอร์เวตและไลต์เวต พร้อมตั้งเป้าสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์โลกรุ่นที่สามของตัวเอง ในวันที่ 24 มีนาคมนี้
โดยมาร์ตินได้ลดน้ำหนักตัวเอง เพื่อลงมาท้าชิงกับแชมป์โลกรุ่นแบนตั้มเวทอย่าง บิเบียโน่ เฟอร์นันเดส เจ้าของฉายา "The Flash" ซึ่งเป็นคู่เอกของรายการ ONE : IRON WILL ที่จะจัดขึ้น ณ อิมแพ็ค อารีน่า กรุงเทพฯ ประเทศไทย
มาร์ติน เหงียน วัย 28 ปี นักกีฬาชาวออสเตรเลีย เชื้อสายเวียดนาม เป็นเจ้าของเข็มขัดแชมป์โลกสองรุ่น เขาถูกกล่าวถึงกันในวงการศิลปะป้องกันตัวทั่วโลกถึงชัยชนะของเขาที่มักจบลงด้วยความตื่นเต้น โดยล่าสุดเจ้าตัวได้น็อก เอ็ดดูอาร์ด โฟลายัง ฮีโร่ขวัญใจชาวฟิลิปปินส์ เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา จนทำให้เขาสร้างประวัติศาสตร์กลายเป็นนักกีฬาของแรกของ วัน แชมเปี้ยนชิพ ที่ครองเข็มขัดแชมป์โลกสองรุ่นในเวลาเดียวกันได้สำเร็จ
โดยครั้งนี้ เหงียน ตั้งเป้าสร้างประวัติศาสตร์อีกครั้งด้วยการปะทะกับ บิเบียโน่ เฟอรนันเดส ผู้ที่ถูกยกย่องในวงกว้างว่าเป็นหนึ่งในนักกีฬาที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลก อย่างไม่ต้องพิสูจน์อะไรอีกแล้ว
ในรอบหลายเดือนที่ผ่านมา เหงียนแสดงเจตจำนงของตัวเองว่าอยากพบกับยอดฝีมืออย่างเฟอร์นันเดส ยอดฝีมือที่ประเดิมตั้งแต่ไฟต์แรกกับ วัน แชมเปี้ยนชิพ เมื่อปี 2012 และไม่เคยพ่ายแพ้ให้ใครเลย
สำหรับ เหงียนจะพบกับเฟอร์นันเดส ภายใต้กติกา 5 ยก ในพิกัดรุ่นแบนตั้มเวท ซึ่งการแข่งขันครั้งนี้จะพิสูจน์อีกครั้งว่าเขาจะเป็นอันดับหนึ่งของวงการได้หรือไม่
"เขาคือตำนาน ผมเห็นเขายืนอยู่บนจุดสูงสุดของวงการนี้ เขาประสบความสำเร็จในอาชีพของเขา และยังเป็นหนึ่งในนักกีฬารุ่นแบนตั้มเวทแถวหน้าของโลก การได้ปะทะกับคนที่เก่งที่สุด นั่นคือความปรารถนาเดียวของผม" มาร์ตินกล่าว
"ผมเอาชนะเอดูอาร์ด จนคว้าแชมป์โลกรุ่นที่สองมาได้ ตอนนี้ผมก็ยังอยากเจอคนที่เก่งที่สุดอีก อย่างที่บอก บิเบียโน่คือสุดยอด ส่วนผมนั้นถือว่ายังเป็นรองอยู่ แต่ก็เหมือนไฟต์ที่ผ่านๆมาแหละ ผมเหมือนหมาป่าผู้โดดเดี่ยวที่กระหายเนื้ออยู่เสมอ และตอนนี้ผมจะขึ้นไปสู่จุดสูงสุดแล้วอยู่เหนือเขาให้ได้" มาร์ตินกล่าวเสริม
ด้าน เฟอร์นันเดส ยังไม่เคยแพ้ใครเลยนับตั้งแต่ก้าวเข้าสู่เวทีนี้ตลอด 7 ปี โดยเขาครองสถิติ ชนะรวดทั้ง 13 ครั้ง และผ่านนักกีฬาชื่อดังหลายๆคนมาแล้ว เช่น รีซ แมคลาเรน, เควิน เบลิงกอน และ แด ฮวาน คิม เป็นต้น
"เขาเป็นนักกีฬาศิลปะป้องกันตัวที่เก่งรอบด้าน เป็นคู่แข่งที่น่ากลัวคนนึง ไม่เพียงแต่ผมต้องการขึ้นสังเวียนกับเขาเท่านั้น แต่แฟนๆเองก็อยากเห็นเช่นกัน เขาทรงพลังในการน็อกเอาท์, เชี่ยวชาญยิวยิตสู และ สุดยอดด้านคาร์ดิโอ เขาครบเครื่อง เขาเป็นนักกีฬาศิลปะป้องกันตัวที่สมบูรณ์แบบในอย่างที่คุณต้องการเป็น" เหงียนกล่าวถึงเฟอร์นันเดส
สำหรับการเตรียมตัวในไฟต์ประวัติศาสตร์ครั้งนี้ เหงียนจำเป็นต้องลดน้ำหนักตัวเองลงเพื่อให้อยู่ในพิกัดรุ่นแบนตั้มเวท ที่ 65.8 กิโลกรัม
"น้ำหนักผมอยู่ในพิกัดแล้ว ทุกๆอย่างพร้อมหมด นักโภชนาการให้ผมทานน้อยกว่าเดิม ซึ่งในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมานี้ น้ำหนักผมลดลงจาก 72 กิโลกรัม เหลือแค่ 68 กิโลกรัม" มาร์ติน กล่าว
ทั้งนี้ แม้ว่าเขาจะยอมรับว่ารู้สึกถึงผลกระทบจากการลดน้ำหนัก แต่เขาก็ยังเชื่อมั่นในกระบวนการทั้งหมดสำหรับแผนควบคุมอาหารที่เข้มงวดของตัวเอง
"ผมซ้อมหนักมากกว่าเดิม ความเร็วและคาร์ดิโอของผมเพิ่มมากขึ้น ความแกร่งอาจจะน้อยลง แต่นั่นคือสิ่งที่ต้องยอมแลกอยู่แล้ว แต่ผมก็ยังแก้ไขอยู่ และไม่ต้องการให้มันน้อยลงกว่านี้ เมื่อความเร็วและเวลาของผมมาถึง เมื่อผมถึงที่สุดของขีดจำกัด ทุกอย่างจะเข้าที่เข้าทางเอง" เขาอธิบายเพิ่มเติม
นอกเหนือจากนักโภชนาการที่เข้ามาดูแลทุกมื้ออาหารของเขาแล้ว เขายังได้เชิญ รีซ แมคลาเรน ผู้ซึ่งเคยขึ้นสังเวียนกับบิเบียโน่มาแล้ว มาให้คำแนะนำในช่วงที่เขาฝึกซ้อมด้วย
โดย แมคลาเรน เองเกือบเอาชนะเฟอร์นันเดสได้ในการแข่งขันชิงแชมป์โลกรุ่นแบนตั้มเวท เมื่อเดือนธันวาคม 2016 ซึ่งสุดท้ายเขาแพ้คะแนนไปอย่างเฉียดฉิว
"ผมมี รีซ อยู่ที่นี่เพื่อช่วยในการซ้อม และเขาได้ให้คำแนะนำบางอย่างที่เขาคิดว่าผมจะล้มบิเบียโน่ได้" เหงียนเสริม
"นี่เป็นไอเดียของโค้ชฟารี่ ซาลิเยฟสกี้ โดยเขาคิดว่า 'เพราะรีซเคยดวลกับบิเบียโน่มาก่อน และเรามองว่าไฟต์นั้นรีซคือผู้ชนะ เราเลยให้เขามาช่วยแนะนำดีกว่า' ซึ่งแผนนี้ถือว่าเยี่ยมเลย" เหงียนกล่าวเพิ่ม
สำหรับศึกใหญ่ที่กำลังจะมาถึงใน ONE : IRON WILL เหงียนมีความมั่นใจว่าจะเอาล้ม เฟอร์นันเดสได้สำเร็จ
"ผมไม่มีความกดดันเลย ผมมั่นใจ 100% ว่าจะชนะในไฟต์นี้ มันไม่สำคัญว่าจะด้วยวิธีใด แต่ผมจะทำมันได้ เมื่อการแข่งขันเริ่มต้นขึ้น ผมจะได้เจอกับงานที่ยากมหาโหด แต่สุดท้ายผมจะโค่นเขาให้จงได้" เหงียนกล่าวปิดท้าย
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมและอัพเดทเกี่ยวกับ วัน แชมป์เปียนชิพ ไปที่ www.onefc.com ติดตามเราที่ @ONEChampionship บนทวิตเตอร์และอินสตาแกรม และกดไลค์ที่เพจของเราที่ https://www.facebook.com/ONEChampionship .