กรม ปภ. เตือนผู้ปกครองควรสวมหมวกนิรภัยให้เด็กทุกครั้งที่ขับขี่ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น

ข่าวทั่วไป Friday November 2, 2007 12:35 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--2 พ.ย.--ปภ.
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เตือนผู้ปกครองควรสวมใส่หมวกนิรภัยให้เด็กทุกครั้งขณะขับขี่รถจักรยานยนต์ และควรขับขี่รถด้วยความเร็วไม่เกิน 60 กิโลเมตร/ชั่วโมง เพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น เนื่องจากหากใช้ความเร็วสูงกว่านี้ แม้จะสวมหมวกที่
รับรองมาตรฐานก็อาจไม่ปลอดภัยได้
นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า จากข้อมูลของศูนย์วิจัยเพื่อสร้างเสริมความปลอดภัยและป้องกันการบาดเจ็บในเด็กพบว่า ในแต่ละปีมีเด็กอายุ 0-15 ปีได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ปีละกว่า 1แสนราย บาดเจ็บสาหัสกว่า 1.3 หมื่นราย โดยเฉพาะเด็กเล็กอายุ 0-9 ปี มีอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุถึง 440 คนต่อปี จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องรณรงค์การสวมหมวกนิรภัยให้เด็กขณะโดยสารรถจักรยานยนต์ เพราะสามารถลดความเสี่ยงจากการเสียชีวิตได้ถึงร้อยละ 30 และลดการบาดเจ็บสาหัสที่ศีรษะได้ร้อยละ 50 เนื่องจากเด็กมีสัดส่วนความหนักของศีรษะมากกว่าผู้ใหญ่ เวลากระเด็นตกจากรถจะเอาหัวกระแทกพื้น โดยเด็กที่เสียชีวิตส่วนใหญ่เกิดจากเลือดออกในสมอง สมองบวม ใบหน้ายุบกระดูก ต้นคอหัก หากสวมหมวกนิรภัย จะช่วยลดความรุนแรงของอาการบาดเจ็บได้ ประกอบกับกฎหมายจราจร มาตรา 122 ระบุว่า ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ และคนโดยสารจักรยานยนต์ ต้องสวมหมวกนิรภัยที่จัดทำขึ้นโดยเฉพาะ เพื่อป้องกันอันตรายขณะขับขี่และโดยสารรถจักรยานยนต์ แต่ในข้อเท็จจริง กฎหมายไม่ครอบคลุมถึงผู้โดยสารที่เป็นเด็ก ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จึงขอเตือนผู้ปกครองให้สวมหมวกให้เด็กและควรเลือกหมวกนิรภัยที่ได้รับมาตรฐานสำหรับเด็กโดยตรง โดยเป็นหมวกแบบเต็มใบที่มีหน้ากากปิดหน้าเพราะสามารถบังลม กันฝุ่น และให้ความปลอดภัยทั้งศีรษะ มีเครื่องหมายรับรองมาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.)และมีฉลากแสดงที่อยู่ของผู้ผลิตที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจากสำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรม พร้อมคำแนะนำวิธีใช้ นอกจากนี้ หมวกนิรภัยต้องมีน้ำหนักเบาเหมาะสมกับช่วงอายุของเด็ก ตลอดจนต้องเลือกใช้หมวกที่มีสีสันสดใส เพื่อให้ผู้ขับขี่รถคันอื่นเห็นเด่นชัดแต่ไกล เช่น เหลือง ส้ม แดง เป็นต้น รวมทั้งไม่ควรนำหมวกที่มีอายุการใช้งานมากกว่า 3 ปี มาใช้เพราะพลาสติกและโฟมอาจเสื่อมสลายทำให้ไม่สามารถทนแรงกระแทกได้ นอกจากนี้ ผู้ขับขี่ควรขับขี่ด้วยความเร็วไม่เกิน 60 ก.ม./ ชั่วโมง
หากใช้ความเร็วสูงกว่านี้ ถึงแม้จะสวมหมวกที่ได้การรับรองมาตรฐานก็อาจจะไม่ปลอดภัยได้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ