กรุงเทพฯ--23 ก.พ.--EXIM BANK
นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) กล่าวในงานสัมมนาโครงการบริหารความเสี่ยง FX (อัตราแลกเปลี่ยน) ของ SMEs ณ EXIM BANK สำนักงานใหญ่ เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2561 ว่า ผู้ส่งออก SMEs ไทยในปัจจุบันมีจำนวนน้อยมากเมื่อเทียบกับประเทศพัฒนาแล้ว เนื่องจากผู้ส่งออก SMEs ไทยไม่มีข้อมูลความรู้เพียงพอที่จะเริ่มต้นหรือขยายการค้าขายไปตลาดต่างประเทศได้อย่างประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะในภาวะที่ค่าเงินบาทผันผวน กล่าวคือ ตั้งแต่ปลายปี 2560 ถึงต้นปี 2561 เงินบาทได้แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง แตะระดับ 31.24 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐเมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ 2561 ที่ผ่านมา นับเป็นการแข็งค่าที่สุดในรอบกว่า 4 ปี โดยสอดคล้องกับทิศทางค่าเงินสกุลอื่นๆ ในภูมิภาค ส่งผลกระทบที่เห็นได้ชัดคือ รายได้ของผู้ส่งออกไทยลดลงเมื่อแปลงกลับเป็นสกุลเงินบาท ทำให้ SMEs ไทยที่มีเงินทุนหมุนเวียนและกำไรจากการขายสินค้าในแต่ละล็อตไม่สูงนักมีความเสี่ยงที่จะขาดทุนหรือกิจการสะดุดลง EXIM BANK จึงร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสมาคมธนาคารไทย จัดทำโครงการบริหารความเสี่ยง FX ของ SMEs ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2560 ที่ผ่านมา เพื่อช่วยให้ SMEs มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนและความรู้ทางการเงินอื่นๆ จากนั้นผู้เข้าร่วมสัมมนาที่มีคุณสมบัติครบถ้วนจะได้รับวงเงินค่าธรรมเนียมมูลค่า 30,000 บาทต่อกิจการ เพื่อนำไปใช้ทดลองซื้อ FX Options กับธนาคารพาณิชย์ 8 แห่งที่เข้าร่วมโครงการ
นายพิศิษฐ์ เปิดเผยต่อไปว่า ปัจจุบันมี SMEs ได้รับวงเงินค่าธรรมเนียมสำหรับทดลองซื้อ FX Options ภายใต้โครงการบริหารความเสี่ยง FX ของ SMEs แล้วจำนวน 2,037 ราย คิดเป็นวงเงิน 61.11 ล้านบาท หรือประมาณ 41% จากวงเงินที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีให้ดำเนินโครงการนี้จำนวนทั้งสิ้น 150 ล้านบาท โดยที่ผ่านมา SMEs หลายรายลังเลที่จะเข้าร่วมโครงการเนื่องจากขาดความรู้ความเข้าใจถึงประโยชน์ของ FX Options ต้องการรอดูทิศทางอัตราแลกเปลี่ยน และเห็นว่ายังมีเวลาตัดสินใจซื้อ FX Options ภายในเดือนมิถุนายน 2561 ก่อนที่โครงการจะสิ้นสุดลง EXIM BANK จึงร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรจัดสัมมนาโครงการบริหารความเสี่ยง FX (อัตราแลกเปลี่ยน) ของ SMEs ณ EXIM BANK ในเดือนกุมภาพันธ์ 2561 และจะจัดอบรมทางออนไลน์ผ่านเทปบันทึกภาพการอบรม ณ EXIM BANK ในพื้นที่ทำการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สาขาของธนาคารพาณิชย์ 8 แห่งที่เข้าร่วมโครงการ ประกอบด้วยธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) และธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) สำนักงานภาคของ ธปท. ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) 11 จังหวัด สสว. สถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย เป็นต้น
"ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนเป็นสิ่งที่คาดเดาได้ยาก แต่สามารถปิดความเสี่ยงได้ เพื่อไม่ให้ผู้ส่งออกต้องกังวลจนเสียเวลาในการประกอบธุรกิจ ธุรกิจไม่สะดุดหรือขาดทุนเนื่องจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน การซื้อ FX Options เป็นทางเลือกหนึ่งของการปิดความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนที่ภาครัฐต้องการให้ผู้ส่งออกไทยได้รู้จักและทดลองใช้ เพื่อเปลี่ยนความเสี่ยงเป็นความแน่นอนของรายรับหรือกำไรจากการส่งออกสินค้าล็อตนั้นๆ" นายพิศิษฐ์กล่าว
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ส่วนสื่อสารองค์กร ฝ่ายเลขานุการและสื่อสารองค์กร EXIM BANK สำนักงานใหญ่
โทร. 0 2271 3700, 0 2278 0047, 0 2617 2111 ต่อ 1141, 1144