กรุงเทพฯ--26 ก.พ.--IR network
TFG โชว์สเต็ปเทพ รายได้-กำไร ทุบสถิติใหม่ 2 ปีติด อวดงบปี 60 กำไรพุ่ง 1.5 พันล้านบาท รายได้ทะลุเป้า 2.5 หมื่นล้านบาท พร้อมจ่ายปันผลอีก 0.05 บาท/หุ้น ด้านผู้บริหาร "เชิดศักดิ์ กู้เกียรตินันท์"มั่นใจปี 61 โต 20% รายได้ทะลุ 3 หมื่นล้านบาท ขึ้นแท่นผู้นำอันดับ 3 ใน 3 ตลาด "เนื้อไก่-สุกร-ส่งออกไก่แช่แข็ง และผลิตอาหารสัตว์" ของประเทศไทย ภายในปีนี้ตามแผน
นายเชิดศักดิ์ กู้เกียรตินันท์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TFG เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานงานของบริษัทและบริษัทย่อยในปี 2560 ว่า สามารถสร้างรายได้สูงขึ้นและกำไรสุทธิต่อเนื่อง 2 ปีติดต่อกัน โดยในปี 2560 มีรายได้รวม 25,913 ล้านบาท เติบโต 5,134 ล้านบาทหรือ24.7% จากปี 2559 (สูงกว่าเป้าหมายที่ 20%) และมีกำไรสุทธิ 1,518 ล้านบาท (5.9% ของรายได้) คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.30 บาท กำไรสุทธิจากการดำเนินงาน ปี2560 เติบโต 4.79% เปรียบเทียบกับ ปี 2559 รายได้ เท่ากับ 20,779 ล้านบาท กำไร 1,446 ล้านบาท (7.0% ของรายได้) กำไรต่อหุ้น 0.28 บาท
หากไม่รวมรายการกำไรขาดทุนจากการเปลี่ยนแปลงมูลค่ายุติธรรมจากสินทรัพย์ชีวภาพ จะมีกำไรสุทธิ 1,560 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 9% จากกำไรสุทธิ1,426 ล้านบาทในปี 2559 ในปี 2560 บริษัทฯ มี EBITDA สูงขึ้นเป็น 3,160 ล้านบาท เติบโต 18.7% เทียบกับ 2,662 ล้านบาทในปี 2559
"เพื่อเป็นการตอบแทนผู้ถือหุ้น บริษัทฯ จะขออนุมัติที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ให้จ่ายเงินปันผลอีก 0.05 บาทต่อหุ้น เพิ่มเติมจากเงินปันผลระหว่างกาลที่จ่ายไปแล้ว 0.05 บาทต่อหุ้น เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2560 โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่ได้สิทธิ์ ในวันที่ 12 มีนาคม 2561"นายเชิดศักดิ์กล่าว
นายเชิดศักดิ์ กล่าวว่า บริษัทฯ ยังสามารถขยายธุรกิจไก่ให้มีรายได้สูงขึ้น 35% และกำไรสูงขึ้นจากราคาตลาดต่างประเทศที่สูงขึ้น จากการปรับพอร์ตการขายเข้าสู่ตลาดที่มีมาร์จิ้นสูงขึ้น ประกอบด้วย ตลาดส่งออกเนื้อไก่แช่แข็ง เป็นอันดับต้นๆ
ขณะเดียวกันบริษัทฯสามารถส่งออกได้ กว่า 37,000 ตัน มูลค่า 3,300 ล้านบาท เติบโตประมาณ 63% จาก 22,600 ตันในปี 2529 ในปีที่ผ่านมา ตลาดอุตสาหกรรม สามารถขายได้มากขึ้นกว่า 60% มูลค่าการขาย ประมาณ 1,990 ล้านบาท และ ฟู้ดเซอร์วิสและโมเดรินเทรด สามารถขายได้ 1,120 ล้านบาท เติบโต มากกว่าปีที่ผ่านมา กว่า 500%
ส่วนธุรกิจสุกร ในปีที่ผ่านมา รายได้ ชะลอตัว ลดลง 5% และ มีกำไรลดลง เนื่องจากราคาตลาดต่ำลงมาก ในปี 2561 นี้ บริษัทฯได้ปรับเพิ่มการขายเข้าสู่ตลาดสุกรชำแหละผ่านโมเดิร์นเทรดและฟู้ดเซอร์วิส และ ขยายกำลังผลิตสุกรชำแหละ และ ตั้งโรงงานใหม่ผลิตสุกรแปรรูป และ ไส้กรอกหมูภายในปี 2561 นี้
ส่วนธุรกิจผลิตและขายอาหารสัตว์ยังสามารถเติบโตได้และขยายตัวต่อเนื่องในรอบปีที่ผ่านมาโดยขายภายนอกเครือกว่า 2,580 ล้านบาท เติบโต 40%และ ปี 2561 มีเป้าหมายรายได้ขายภายนอกกว่า 4,000 ล้านบาท
"เชื่อมั่นว่า ในรอบปี 2561 Year of Further Growth ปีแห่งการเติบโตต่อเนื่อง บริษัทฯได้วางเป้าหมายตามแผนธุรกิจก้าวขึ้นสู่ผู้นำอันดับ 3 ใน 3 ตลาดในประเทศ ซึ่งประกอบด้วย "เนื้อไก่-สุกร-ส่งออกไก่แช่แข็ง และผลิตอาหารสัตว์" ของประเทศไทย และสร้างรายได้ให้เติบโตประมาณ 20% หรือเป้าหมายรายได้ ประมาณ 30,000 ล้านบาท เป้าหมายกำไรสุทธิประมาณ 6-8%"นายเชิดศักดิ์ กล่าว
โดยการขยายธุรกิจทั้ง 3 แกน ประกอบด้วย
1.เพิ่มการผลิตไก่ เพื่อส่งออกไก่ดิบแช่แข็ง โดยมีเป้าหมายเป็น 50,000 ตัน(ขยายตัว 35%) และ เพิ่มการส่งออกไก่ปรุงสุก 10,000 ตัน จากโรงงานใหม่
2. เพิ่มการผลิตสุกรเป็นและสุกรชำแหละภายในประเทศ โดยเพิ่มสัดส่วนสุกรชำแหละ ต่อ สุกรเป็น เท่ากับ 60%:40%และ เพิ่มโรงงานสุกรแปรรูปและโรงงานไส้กรอกหมู
3.ขยายกำลังการผลิต อาหารสัตว์ที่สุพรรณบุรี อีก 75,000 ตันต่อเดือนรวมกำลังการผลิตทั้งหมดที่สุพรรณบุรีและ กบินทร์บุรี เป็น 185,000 ตันต่อเดือนภายในสิ้นปี 2561 และ โดยมีเป้าหมายการขายอาหารสัตว์จากบริษัทไทยฟู้ดส์ฟีดมิลล์ จำกัด เพิ่มขึ้นเป็น ประมาณ 16,000 ล้านบาท ส่วนหนึ่งเป็นการขายภายนอกเครือประมาณ 4,000 ล้านบาท และขายเข้าสู่ฟาร์มพันธสัญญาในเครือ ประมาณ 12,000 ล้านบาท
ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวอีกว่า บริษัทฯ ยังต้องบริหารความเสี่ยงทางการเงิน ราคาตลาดของไก่และสุกร ต้นทุนวัตถุดิบนำเข้าและในประเทศ และ อัตราแลกเปลี่ยนดอลล่าห์ต่อบาท เมื่อบาทแข็งจะกระทบรายได้ส่งออก แต่ช่วยลดต้นทุนวัตถุดิบนำเข้า อย่างต่อเนื่องรวมทั้งต้องมีมาตรการป้องกันโรคระบาด ของไก่และสุกร อย่างระมัดระวังขั้นสูงสุด