กรุงเทพฯ--26 ก.พ.--ศุภาลัย
บมจ.ศุภาลัย แจ้งตัวเลขผลประกอบการปี 2560 ตอกย้ำสถิติกวาดยอดขาย ทำกำไร และสร้างรายได้อย่างโดดเด่น เตรียมลุยพัฒนาโครงการใหม่ทั้งแนวราบ และคอนโดมิเนียม ทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และเพิ่มสัดส่วนยอดขายจากหัวเมืองต่างจังหวัด ดันยอดขายรวมของบริษัท พิชิตเป้าหมาย 33,000 ล้านบาท
ดร.ประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวถึง ผลการดำเนินธุรกิจของบริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย ในปี 2560 ที่ผ่านมา ว่าบริษัทประสบความสำเร็จเกินเป้าหมายมีผลประกอบการที่โดดเด่น มียอดขายกว่า 30,777 ล้านบาท จากการเปิดตัวทั้งหมด 20 โครงการ แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 15 โครงการ และโครงการคอนโดมิเนียม 5 โครงการ อีกทั้งสามารถทำรายได้รวม 25,789 ล้านบาท เติบโต 10% โดยรายได้หลักมาจากการทยอยส่งมอบคอนโดมิเนียมทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัด จำนวน 10 โครงการ
โดยบริษัทมีกำไรสุทธิ 5,812 ล้านบาท เติบโต 19% เมื่อเทียบกับปี 2559 จากผลการดำเนินงานที่สะท้อนถึงการบริหารงานที่มีประสิทธิภาพ ภายใต้แผนงานการสร้างสรรค์ "บ้านที่ดี" ที่มาจากผลิตภัณฑ์แห่งความสุขและนวัตกรรม ด้านสินทรัพย์เติบโตขึ้น 8% ส่วนของผู้ถือหุ้นเติบโต 20% โดยมีอัตราหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 69% ส่วนต้นทุนการเงินที่อัตราเฉลี่ย 2.79% ต่อปี ณ 31 ธ.ค. 2560 และมียอดขายที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) ประมาณ 39,187 ล้านบาท ณ 31 ธ.ค. 2560 เพื่อรองรับการเติบโตด้านรายได้ของบริษัทในอนาคต
นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปี 2560 เป็นปีที่ทำยอดขายได้เกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยสัดส่วนการเติบโตมาจากกรุงเทพฯ ปริมณฑล 76% และ หัวเมืองต่างจังหวัด 24% โดยปัจจุบันมีการพัฒนาโครงการ จำนวน 11 จังหวัด เชียงใหม่ อุดรธานี ขอนแก่น ชลบุรี ระยอง อุบลราชธานี นครราชสีมา สงขลา สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต และนครศรีธรรมราช ซึ่งมีการเดินหน้าเปิดตัวโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง
ในปี 2561 นี้บริษัทเตรียมเปิดตัวโครงการใหม่เป็นประเภทบ้านจัดสรรในหัวเมืองภูมิภาค จำนวน 13 โครงการ ใน 12 จังหวัด ไม่นับจังหวัดปริมณฑล โดยมีการขยายการลงทุนเพิ่มเป็น 12 จังหวัด คือ เชียงราย จะส่งผลให้สัดส่วนยอดขายในต่างจังหวัดเพิ่มขึ้นเป็น 30% แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 26% และคอนโดมิเนียม 4% ของเป้าหมายยอดขายของบริษัท 33,000 ล้านบาท โดยเน้นพัฒนาแบบบ้านรูปแบบใหม่ ให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย นับว่าเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่มีการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในหัวเมืองต่างจังหวัดมากที่สุด
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในช่วงไตรมาสแรก บริษัทมีการเปิดตัวโครงการแนวราบ จำนวน 6 โครงการ มูลค่ารวม 3,500 กว่าล้านบาท โดยเปิดตัวไปแล้ว 1 โครงการ คือ ศุภาลัย พรีโม่ บางแสน และเปิดตัวอีก 2 โครงการในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ คือ ศุภาลัย เอสเซ้นส์ ลาดพร้าว ศุภาลัย การ์เด้นวิลล์ หาดใหญ่ อีกทั้งเตรียมเปิดตัวโครงการใหม่อีก 3 โครงการในเดือนมีนาคมนี้ ได้แก่ เบลล่า วงแหวน - ลำลูกกา คลอง 3 โนโว วิลล์ พหลโยธิน - ลำลูกกา และศุภาลัย พรีโม่ ชัยพฤกษ์ - บางบัวทอง
นายบุญชัย ชัยอนันต์บวร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายงานโครงการภูมิภาค 2 บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ทิศทางตลาดอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดอุบลราชธานี มีโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพสูงในเขตภาคอีสานตอนใต้ ซึ่งมีสนามบินนานาชาติ ทำให้การเดินทางสะดวก และรวดเร็ว ทั้งยังเป็นจังหวัดที่มีประตูการค้าชายแดนเชื่อมโยงทางการค้ากับประเทศเพื่อนบ้านอย่างประเทศลาวอีกทั้งประชากรของจังหวัดอุบลราชธานีมีจำนวนมาก
สำหรับทิศทางการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในจังหวัดอุบลราชธานีของศุภาลัย ยังคงเดินหน้าเปิดตัวโครงการใหม่ๆ เพิ่มขึ้น ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านรุ่นใหม่ และทาวน์โฮม โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีโครงการในจังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 4 โครงการ คือ ศุภาลัย โมด้า อุบลราชธานี ศุภาลัย วิลล์ อุบลราชธานี ศุภาลัย เบลล่า อุบลราชธานี และศุภาลัย พรีโม่ อุบลราชธานี พร้อมลุยแผนเปิดโครงการใหม่อีก 1 โครงการ ในไตรมาส 3 เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า คือ โนโว วิลล์ อุบลราชธานี มูลค่า 380 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มเติมในจังหวัดอุดรธานี และนครราชสีมา ได้แก่ ศุภาลัย ไพรด์ อุดรธานี มูลค่า 1,800 ล้านบาท ศุภาลัย การ์เด้นวิลล์ นครราชสีมา มูลค่า 640 ล้านบาท อีกทั้งโครงการใหม่ในโซนภาคตะวันออก 1 โครงการ คือ ศุภาลัย ริเวอร์ วิลล์ ระยอง บ้านเดี่ยวหรูริมแม่น้ำ มูลค่าโครงการ 650 ล้านบาท เพื่อช่วยผลักดันสัดส่วนยอดขายของบริษัทในต่างจังหวัดเพิ่มขึ้นเป็น 30% ตามที่วางเป้าหมายไว้