กรุงเทพฯ--26 ก.พ.--IR network
บอร์ด บมจ.ไทยวา หรือ TWPC โชว์รายได้ 6,472 ล้านบาท กำไรสุทธิ 493 ล้านบาท พร้อมเคาะจ่ายปันผล 0.32 บาท/หุ้น ขึ้น XD วันที่ 8 พ.ค. กำหนดจ่าย 25 พ.ค. นี้ และยังมีมติออกและเสนอขายหุ้นกู้วงเงินจำนวนไม่เกิน 1,000 ล้านบาท เพื่อรองรับการขยายธุรกิจ ด้านบิ๊กบอส "โฮ เรน ฮวา" แย้มแนวโน้มรายได้ปี 61 โตต่อเนื่อง อานิสงส์ราคาแป้งมันฟื้นตัว ธุรกิจอาหารเติบโตแกร่ง และเริ่มรับรู้รายได้จากโรงงานใหม่ของบริษัทฯ ทั้งในประเทศกัมพูชา และเวียดนาม
นายโฮ เรน ฮวา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการ บริษัท ไทยวา จำกัด (มหาชน) หรือ TWPC ผู้ผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์แป้งมันสำปะหลัง และผู้นำตลาด โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์วุ้นเส้นสดและวุ้นเส้นแห้งในประเทศไทย เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 1/2561 ได้มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตรา 0.32 บาทต่อหุ้น สำหรับงวดผลประกอบการปี 2560 โดยกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) ในวันที่ 9 พฤษภาคม 2561 วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) ในวันที่ 8 พฤษภาคม 2561 วันจ่ายเงินปันผลในวันที่ 25 พฤษภาคม 2561 และกำหนดวันประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2561 ในวันที่ 27 เมษายน 2561 เพื่อพิจารณาอนุมัติต่อไป นอกจากนี้ยังมีมติอนุมัติออกและเสนอขายหุ้นกู้วงเงินจำนวนไม่เกิน 1,000 ล้านบาท เพื่อรองรับการขยายธุรกิจในปีนี้อีกด้วย
"ในปี 2560 กลุ่มบริษัทฯ มียอดขาย 6,265 ล้านบาท เติบโต 2% เมื่อเทียบกับปีก่อน จากการเติบโตจากยอดขายของกลุ่มธุรกิจอาหารซึ่งเติบโต 4% และธุรกิจแป้งมันสำปะหลังซึ่งเติบโต 1% จากปีก่อน ทั้งนี้ ถึงแม้ว่าปริมาณแป้งมันสำปะหลังส่งออกของประเทศไทยสำหรับปี 2560 ลดลง 5% แต่ปริมาณแป้งมันสำปะหลังส่งออกของบริษัทสามารถเติบโตสวนทางกับอุตสาหกรรม โดยปริมาณส่งออกของบริษัทฯเติบโตถึง 10% เนื่องจากสินค้าแป้งมันสำปะหลังของบริษัทฯ เป็นสินค้าที่มี Brand ที่แข็งแกร่ง ประกอบกับใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร (food-grade) ที่ยังเป็นที่ต้องการของตลาดส่งออก จึงส่งผลทำให้ยอดขายของบริษัทสามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง" นายโฮ เรน ฮวา กล่าว
ส่วนแผนการดำเนินงานในปี 2561 บริษัทฯ ยังคงมั่นใจจะสามารถสร้างการเติบโตของยอดขายและกำไรรวมได้มากกว่าปี 2560 อันมีสาเหตุเนื่องมาจากปริมาณการส่งออกแป้งมันสำปะหลังที่ยังคงมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับราคาส่งออกแป้งมันสำปะหลังฟื้นตัว ขณะเดียวกันคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะสูงขึ้นจากการเพิ่มสัดส่วนรายได้ของสินค้า HVA จาก 28% เป็นประมาณ 38% ในปี 2561 อีกทั้งจะเริ่มมีการรับรู้รายได้จากโรงงานใหม่ของบริษัทฯ ทั้งในประเทศกัมพูชา และเวียดนาม รวมทั้งโรงไฟฟ้าแห่งแรกที่จังหวัดอุดรธานี อีกด้วย