กรุงเทพฯ--26 ก.พ.--กลุ่มสารนิเทศการคลัง กระทรวงการคลัง
"เศรษฐกิจภูมิภาคในเดือนมกราคม ปี 2561 ขยายตัวอย่างทั่วถึงในทุกภูมิภาค นำโดย ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการฟื้นตัวของการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน สอดคล้องกับการขยายตัวต่อเนื่องของภาคการท่องเที่ยว สำหรับเสถียรภาพเศรษฐกิจทุกภูมิภาคยังอยู่ในเกณฑ์ดี"
นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน ในฐานะโฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยรายงานภาวะเศรษฐกิจภูมิภาคประจำเดือนมกราคม ปี 2561 "เศรษฐกิจภูมิภาคในเดือนมกราคม ปี 2561 ขยายตัวอย่างทั่วถึงในทุกภูมิภาค นำโดย ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการฟื้นตัวของการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน สอดคล้องกับการขยายตัวต่อเนื่องของภาคการท่องเที่ยว สำหรับเสถียรภาพเศรษฐกิจทุกภูมิภาคยังอยู่ในเกณฑ์ดี" โดยมีรายละเอียด สรุปได้ดังนี้
ภาคตะวันออก เศรษฐกิจขยายตัว โดยมีการบริโภคและการลงทุนเอกชน รวมถึงภาคเกษตรกรรมเป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลัก สะท้อนจากเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านอุปสงค์ โดยเฉพาะการบริโภคภาคเอกชน จากภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ ในเดือนมกราคม 2561 ขยายตัวในอัตราเร่งที่ร้อยละ 19.2 ต่อปี ตามการขยายตัวในทุกจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดชลบุรี และฉะเชิงเทรา เป็นต้น สอดคล้องกับการบริโภคสินค้าในหมวดสินค้าคงทน สะท้อนจากยอดรถยนต์นั่งและรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ ขยายตัวร้อยละ 35.6 และ 11.4 ต่อปี ตามลำดับ เช่นเดียวกันกับการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากเงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการในเดือนมกราคม อยู่ที่ 2,437 ล้านบาท ขยายตัวในอัตราเร่งที่ร้อยละ 174.8 ต่อปี จากการลงทุนในจังหวัดชลบุรี และระยอง เป็นสำคัญ ขณะที่เงินทุนของโรงงานที่ได้รับอนุญาตประกอบกิจการในเดือนมกราคม อยู่ที่ 1,053 ล้านบาท สำหรับด้านอุปทาน ภาคการท่องเที่ยวขยายตัวได้ดี โดยเฉพาะจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือนและรายได้จากผู้เยี่ยมเยือน ในเดือนธันวาคม 2560 ขยายตัวร้อยละ 4.9 และ 14.2 ต่อปี ตามลำดับ สอดคล้องกับการผลิตภาคเกษตรที่ปรับตัวดีขึ้น จากการเพิ่มขึ้นผลผลิตยางพารา ปาล์มน้ำมัน เป็นสำคัญ ในขณะที่ด้านเสถียรภาพภายในยังอยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนมกราคม (เบื้องต้น) 2561 ลดลงมาอยู่ที่ร้อยละ 1.4 ต่อปี และอัตราการว่างงานในเดือนธันวาคม 2560 อยู่ที่ร้อยละ 0.7 ของกำลังแรงงานรวมของภูมิภาค
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เศรษฐกิจส่งสัญญาณขยายตัว โดยมีการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน รวมถึงภาคการท่องเที่ยวเป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลัก สะท้อนจากเครื่องชี้เศรษฐกิจเศรษฐกิจด้านอุปสงค์ โดยเฉพาะการบริโภคภาคเอกชนในหมวดสินค้าคงทน สะท้อนจากยอดรถยนต์นั่งและรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ขยายตัวร้อยละ 23.8 และ 2.3 ต่อปี ตามลำดับ ตามการขยายตัวในเกือบทุกจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดขอนแก่น นครราชสีมา และอุบลราชธานี เช่นเดียวกันกับการลงทุนภาคเอกชนที่ขยายตัวได้ดี สะท้อนจากยอดรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ขยายตัวร้อยละ 5.9 ต่อปี สอดคล้องกับเงินทุนของโรงงานที่ได้รับอนุญาตประกอบกิจการในเดือนมกราคม อยู่ที่ 6,660 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 323.2 ต่อปี จากการลงทุนในจังหวัดอุดรธานีเป็นสำคัญ จากโรงงานผลิตพลังงานไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงชีวมวล สำหรับด้านอุปทาน ภาคการท่องเที่ยวขยายตัวได้ดี โดยเฉพาะจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือนและรายได้จากผู้เยี่ยมเยือน ในเดือนธันวาคม 2560 ขยายตัวร้อยละ 5.1 และ 9.5 ต่อปี ตามลำดับ สอดคล้องกับการผลิตภาคเกษตรที่ปรับตัวดีขึ้น จากการผลิตอ้อยโรงงาน และมันสำปะหลัง เป็นสำคัญ ในขณะที่ด้านเสถียรภาพภายในยังอยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนมกราคม (เบื้องต้น) 2561 ลดลงมาอยู่ที่ร้อยละ 0.5 ต่อปี และอัตราการว่างงานในเดือนธันวาคม 2560 อยู่ที่ร้อยละ 1.0 ของกำลังแรงงานรวมของภูมิภาค
ภาคใต้ เศรษฐกิจขยายตัว โดยมีการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน และภาคการท่องเที่ยวเป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลัก สะท้อนจากเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านอุปสงค์ โดยเฉพาะการบริโภคภาคเอกชน จากภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ ขยายตัวต่อเนื่องร้อยละ 11.4 ต่อปี ตามการเพิ่มขึ้นในเกือบทุกจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดภูเก็ต สุราษฎร์ธานี และกระบี่ เป็นต้น สอดคล้องกับการบริโภคสินค้าในหมวดสินค้าคงทน สะท้อนจากยอดรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ ขยายตัวที่ร้อยละ 28.2 ต่อปี เช่นเดียวกันกับการลงทุนภาคเอกชนที่ขยายตัวต่อเนื่อง สะท้อนจากยอดรถปิคอัพและยอดรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ขยายตัวร้อยละ 13.5 และ 48.9 ต่อปี ตามลำดับ สำหรับด้านอุปทาน ภาคการท่องเที่ยวขยายตัวได้ดี โดยเฉพาะจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือนและรายได้จากผู้เยี่ยมเยือน ในเดือนธันวาคม 2560 ขยายตัวร้อยละ 4.4 และ 13.6 ต่อปี ตามลำดับ ตามการท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต และพังงา เป็นสำคัญ ในขณะที่ด้านเสถียรภาพภายในยังอยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนมกราคม ปี 2561 (เบื้องต้น) อยู่ในระดับเอื้อต่อการบริโภคที่ร้อยละ 0.6 ต่อปี และอัตราการว่างงานในเดือนธันวาคม 2560 อยู่ที่ร้อยละ 1.7 ของกำลังแรงงานรวมของภูมิภาค
ภาคเหนือ เศรษฐกิจฟื้นตัว โดยมีการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน และภาคการท่องเที่ยวเป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลัก สะท้อนจากเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านอุปสงค์ โดยเฉพาะการบริโภคภาคเอกชนในหมวดสินค้าคงทน สะท้อนจากยอดรถยนต์นั่งและรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ ขยายตัวที่ร้อยละ 24.5 และ 5.4 ต่อปี ตามลำดับ จากการขยายตัวในเกือบทุกจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ พิจิตร และ เพชรบูรณ์ เป็นต้น เช่นเดียวกันกับการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากยอดรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ขยายตัวร้อยละ 14.6 ต่อปี สอดคล้องกับเงินทุนของโรงงานที่ได้รับอนุญาตประกอบกิจการในเดือนมกราคม 2561 อยู่ที่ 1,493 ล้านบาท ขยายตัว 292.7 ต่อปี สำหรับด้านอุปทาน ภาคการท่องเที่ยวขยายตัวในเกณฑ์ดี โดยเฉพาะจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือนและรายได้จากผู้เยี่ยมเยือน ในเดือนธันวาคม 2560 ขยายตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้าที่ร้อยละ 5.6 และ 10.5 ต่อปี ตามลำดับ สอดคล้องกับการผลิตภาคเกษตรที่ปรับตัวดีขึ้น จาการขยายตัวของผลิตข้าวนาปรัง อ้อยโรงงาน และมันสำปะหลัง เป็นสำคัญ ในขณะที่ด้านเสถียรภาพภายในยังอยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนมกราคม (เบื้องต้น) 2561 ยังคงอยู่ในระดับต่ำที่ร้อยละ 0.2 ต่อปี และอัตราการว่างงานในเดือนธันวาคม 2560 อยู่ที่ร้อยละ 1.1 ของกำลังแรงงานรวมของภูมิภาค
กทม.และปริมณฑล เศรษฐกิจขยายตัว โดยมีการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน และการท่องเที่ยว เป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลัก สะท้อนจากเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านอุปสงค์ โดยเฉพาะการบริโภคภาคเอกชน จากภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ ในเดือนมกราคม 2561 ขยายตัวต่อเนื่องที่ร้อยละ 6.1 ต่อปี ตามการขยายตัวในทุกจังหวัด โดยเฉพาะ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และปทุมธานี เป็นต้น สอดคล้องกับการบริโภคสินค้าในหมวดสินค้าคงทน สะท้อนจากยอดรถยนต์นั่งและยอดรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ขยายตัวร้อยละ 15.1 และ 2.2 ต่อปี ตามลำดับ เช่นเดียวกันกับการลงทุนภาคเอกชนที่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากยอดรถปิคอัพจดทะเบียนใหม่ขยายตัวร้อยละ 4.6 ต่อปี สำหรับด้านอุปทาน ภาคการท่องเที่ยวขยายตัวได้ดี โดยเฉพาะจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือนและรายได้จากผู้เยี่ยมเยือน ในเดือนธันวาคม 2560 ขยายตัวร้อยละ 8.3 และ 19.2 ต่อปี ตามลำดับ ตามการท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ และปทุมธานี เป็นสำคัญ ในขณะที่ด้านเสถียรภาพภายในยังอยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนมกราคม (เบื้องต้น) 2561 ลดลงมาอยู่ที่ร้อยละ 1.0 ต่อปี และอัตราการว่างงานในเดือนธันวาคม 2560 อยู่ที่ร้อยละ 0.9 ของกำลังแรงงานรวมของภูมิภาค
ภาคตะวันตก เศรษฐกิจฟื้นตัว โดยได้รับแรงขับเคลื่อนจากการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน รวมถึงการท่องเที่ยว เป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลัก สะท้อนจากเศรษฐกิจด้านอุปสงค์ โดยเฉพาะการบริโภคภาคเอกชน จากภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ ในเดือนมกราคม 2561 ขยายตัวในอัตราเร่งที่ร้อยละ 15.8 ต่อปี ตามการขยายตัวของจังหวัดราชบุรี และสมุทรสงคราม เป็นสำคัญ สอดคล้องกับการบริโภคสินค้าในหมวดสินค้าคงทน สะท้อนจากยอดรถยนต์นั่งและรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ ขยายตัวร้อยละ 27.4 และ 9.4 ต่อปี ตามลำดับ เช่นเดียวกันกับการลงทุนภาคเอกชนที่ขยายตัวได้ดี สะท้อนจากยอดรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ขยายตัวร้อยละ 18.6 ต่อปี สอดคล้องกับเงินทุนของโรงงานที่ได้รับอนุญาตประกอบกิจการในเดือนมกราคม 2561 อยู่ที่ 968 ล้านบาท จากการลงทุนในจังหวัดราชบุรีเป็นสำคัญ ตามการลงทุนในโรงงานผลิตอาหาร สำหรับด้านอุปทาน โดยเฉพาะการท่องเที่ยวขยายตัวได้ดีทั้งจำนวนและรายได้จากผู้เยี่ยมเยือน ในเดือนธันวาคม 2560 ขยายตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้าที่ร้อยละ 7.1 และ 11.1 ต่อปี ตามลำดับ ตามการท่องเที่ยวในจังหวัดสมุทรสงคราม กาญจนบุรี และประจวบคีรีขันธ์ เป็นต้น สำหรับด้านเสถียรภาพภายในยังอยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนมกราคม (เบื้องต้น) 2561 ที่ยังอยู่ในระดับที่เอื้อต่อการบริโภคที่ร้อยละ 0.8 ต่อปี และอัตราการว่างงานในเดือนธันวาคม 2560 อยู่ที่ร้อยละ 0.6 ของกำลังแรงงานรวมของภูมิภาค
ภาคกลาง เศรษฐกิจส่งสัญญาณขยายตัว โดยมีการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน รวมถึงการท่องเที่ยวเป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลัก สะท้อนจากเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านอุปสงค์ โดยเฉพาะการบริโภคภาคเอกชนในหมวดสินค้าคงทน สะท้อนจากยอดรถยนต์นั่งและรถจักยานยนต์จดทะเบียนใหม่ ขยายตัวที่ร้อยละ 39.4 และ 10.9 ต่อปี ตามลำดับสอดคล้องกับการลงทุนภาคเอกชนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักร สะท้อนจากยอดรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ขยายตัวร้อยละ 20.6 ต่อปี นอกจากนี้เงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการในเดือนมกราคม อยู่ที่ 659 ล้านบาท ขยายตัวที่ร้อยละ 18.6 ต่อปี จากการลงทุนในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเป็นสำคัญ สำหรับด้านอุปทาน ภาคการท่องเที่ยวขยายตัวได้ดี โดยเฉพาะจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือนและรายได้จากผู้เยี่ยมเยือน ในเดือนธันวาคม 2560 ขยายตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้าที่ร้อยละ 6.7 และ 10.6 ต่อปี ตามลำดับ สอดคล้องกับการผลิตภาคเกษตรที่ปรับตัวดีขึ้น จากการเพิ่มขึ้นของผลผลิตข้าวนาปรัง อ้อยโรงงาน และหมวดปศุสัตว์ ในขณะที่ด้านเสถียรภาพภายในยังอยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือมกราคม (เบื้องต้น) 2561 อยู่ในระดับที่เอื้อต่อการบริโภคที่ร้อยละ 1.1 ต่อปี และอัตราการว่างงานในเดือนธันวาคม 2560 อยู่ที่ร้อยละ 1.5 ของกำลังแรงงานรวมของภูมิภาค