กรุงเทพฯ--26 ก.พ.--กรมส่งเสริมสหกรณ์
"รมช.วิวัฒน์" เปิดงานวันสหกรณ์แห่งชาติ ครบรอบ 102 ปี สหกรณ์ไทย พร้อมบรรยายพิเศษ เรื่อง "การน้อมนำศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาสหกรณ์ที่ยั่งยืน" เน้นย้ำ"คุณธรรมความซื่อสัตย์ ความรู้ ความร่วมมือ"สิ่งสำคัญในการพัฒนาสหกรณ์
วันนี้ (26 กุมภาพันธ์ 2561) เวลา 10.30 น. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมส่งเสริมสหกรณ์ จัดกิจกรรมวันสหกรณ์แห่งชาติ ประจำปี 2561 ครบรอบ 102 ปี การสหกรณ์ไทยภายใต้แนวคิด "สหกรณ์เข้มแข็งด้วยศาสตร์พระราชา 26 กุมภาพันธ์ วันสหกรณ์แห่งชาติ" โดยมี นายวิวัฒน์ ศัลยกำธร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดงาน พร้อมทั้งมอบโล่ให้สหกรณ์ดีเด่นระดับภาค 19 แห่ง โดยมีตัวแทนสหกรณ์และส่วนราชการเข้าร่วมงานกว่า 800 คน ณ โรงแรมรามาการ์เด้น กรุงเทพฯ
นายวิวัฒน์ ศัลยกำธร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวในโอกาสเปิดงานและบรรยายพิเศษ เรื่อง "การน้อมนำศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาสหกรณ์ที่ยั่งยืน" ว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาขบวนการสหกรณ์และหน่วยงานราชการที่ทำหน้าที่ส่งเสริม สนับสนุนสหกรณ์ ได้ร่วมกันพัฒนา ส่งเสริมงานด้านสหกรณ์มาอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งผลงานด้านสหกรณ์เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาความเป็นอยู่ของสมาชิก ส่งผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศโดยรวมอย่างเป็นรูปธรรม การสหกรณ์ได้มีบทบาทในการพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมอย่างมาก เช่น การเป็นโรงเรียนประชาธิปไตย แหล่งเรียนรู้การบริหารจัดการ การมีส่วนร่วมของภาคประชาชน การรับผิดชอบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม และความสำเร็จในเชิงธุรกิจของสหกรณ์ที่เป็นรูปธรรม สะท้อนได้จากจำนวนสหกรณ์ของประเทศไทยในปัจจุบัน
มีมากกว่า 8,000 สหกรณ์ สมาชิกสหกรณ์มากกว่า 12 ล้านคนมูลค่าสินทรัพย์มากกว่า 2.5 ล้านล้านบาทการดำเนินธุรกิจของสหกรณ์มีความเกี่ยวข้องกับการพัฒนาความเป็นอยู่ของประชาชนในระดับฐานรากทุกสาขาอาชีพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคการเกษตร การดำเนินธุรกิจสหกรณ์ในด้านต่าง ๆ เช่น การรวบรวมผลผลิต การแปรรูปผลิตภัณฑ์ การนำเข้าและการส่งออกสินค้า การตลาดชุมชน การตลาดระหว่างประเทศ
การดำเนินธุรกิจเครดิต ธุรกิจบริการเป็นการดำเนินกิจกรรมที่ส่งผลให้เกิดการยกระดับและเพิ่มขีดความสามารถในการผลิต การเพิ่ม มูลค่าการผลิตทางการเกษตร การแปรรูปผลผลิต การลงทุนในทุกชุมชนทั่วประเทศซึ่งจะส่งผลต่อการเพิ่ม GDP ภาคการเกษตรของประเทศ ดังนั้น ทั้งหน่วยงานภาครัฐและขบวนการสหกรณ์ จำเป็นต้องร่วมมือกันขับเคลื่อนระบบสหกรณ์ให้เป็นกลไกหลักของการพัฒนาประเทศเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ในสถานการณ์ปัจจุบันสหกรณ์ยิ่งมีบทบาทมากยิ่งขึ้น และร่วมบูรณาการขับเคลื่อนนโยบายรัฐในโครงการสาคัญที่จะส่งผลต่อการกินดีอยู่ดีของประชาชน เช่น สหกรณ์มีบทบาทเป็นศูนย์กลางการบริหารจัดการระบบการเกษตรแบบแปลงใหญ่ที่มีการเพิ่มประสิทธิภาพตั้งแต่ กระบวนการผลิต การแปรรูป การเพิ่มมูลค่า การตลาด ตลอดห่วงโซ่อุปทานการใช้เครื่องจักรกล ทางการเกษตรร่วมกันเพื่อลดค่าใช้จ่าย เพิ่มรายได้และยกระดับมาตรฐานการเกษตรของประเทศ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม สหกรณ์จะมีการบริหารจัดการที่ดีได้สามารถขับเคลื่อนนโยบายได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสนองตอบความต้องการของสมาชิกได้อย่างแท้จริง ผู้นำสหกรณ์ต้องได้รับการพัฒนาให้มีความสามารถ มีคุณธรรมจริยธรรมก้าวทันการเปลี่ยนแปลง และที่สำคัญการพัฒนาการเปลี่ยนแปลงใดๆ ต้องเป็นการพัฒนาแบบยั่งยืนและมั่นคง โดยน้อมนำศาสตร์พระราชาของในหลวงรัชกาลที่ 9 และหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการบริหารงานและการดำรงชีวิต
"สิ่งสำคัญของระบบสหกรณ์ คือ คุณธรรมความซื่อสัตย์ ความรู้ และความร่วมมือกัน ถ้าในระบบสหกรณ์หวังจะเอาผลประโยชน์จากสหกรณ์อย่างเดียว อย่างไรก็ไปไม่รอด แต่ถ้าสมาชิกทุกคนร่วมกันขับเคลื่อนทั้งด้านการผลิต การแปรรูป และการจำหน่ายด้วยความซื่อสัตย์ งานสหกรณ์ก็จะรุ่งเรือง ซึ่ง 2 เงื่อนไขที่นำมาซึ่งความพอเพียงอย่างยั่งยืน คือเงื่อนไขความรู้และเงื่อนไขคุณธรรมโดยการให้การศึกษาแก่สมาชิก ดังนั้น สหกรณ์จึงต้องปลูกฝังคุณธรรมในระบบสหกรณ์ให้เข้มแข็ง ในหลวงรัชกาลที่ 9 ท่านทรงเน้นย้ำว่า ไม่ว่าจะพัฒนาสิ่งใดต้องไม่ทิ้งวัด เพราะถ้าทิ้งวัดคนก็จะคดโกงและเอาเปรียบกัน คุณธรรมจึงเป็นเรื่องที่สำคัญในการพัฒนาระบบสหกรณ์ ซึ่งในส่วนของรัฐบาลได้มีความมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมสนับสนุนระบบสหกรณ์ในทุกๆ ด้าน และจะใช้สหกรณ์เป็นกลไกในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศทั้งโดยรองนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) ได้เน้นย้ำให้ส่งเสริมพัฒนากระบวนการสหกรณ์ให้เข้มแข็ง พร้อมทั้งให้จัดตารางไปเยี่ยมเยียนและให้กำลังใจสหกรณ์ในพื้นที่ต่างๆด้วย" นายวิวัฒน์ กล่าว
สำหรับกิจกรรมวันสหกรณ์แห่งชาติ ประจำปี 2561 ครบรอบ 102 ปีการสหกรณ์ไทย ภายใต้แนวคิด "สหกรณ์เข้มแข็งด้วยศาสตร์พระราชา 26 กุมภาพันธ์ วันสหกรณ์แห่งชาติ" ยังได้มีการแสดงนิทรรศการภายใต้หัวข้อ "การน้อมนำศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาสหกรณ์ที่ยั่งยืน" โดยเน้นรูปแบบการนำเสนอที่สอดคล้องกับแนวคิด "ศาสตร์พระราชากับงานสหกรณ์" นำเสนอทฤษฎีใหม่ขั้นที่ 2 เรื่องการรวมกลุ่ม ซึ่งเป็นหลักการเดียวกับหลักการของสหกรณ์ ซึ่งการรวมกลุ่มจะมุ่งเน้นให้ชาวบ้านได้มีการพึ่งพาอาศัย ช่วยเหลือกันและกันในชุมชน และยังเป็นการสร้างอำนาจต่อรองและนำไปสู่ความเข้มแข็งอย่างยั่งยืน