กรุงเทพฯ--28 ก.พ.--ธนาคารกสิกรไทย
หอการค้าไทย ร่วมกับ ธนาคารกสิกรไทย ดำเนินโครงการเสริมสร้างสิทธิประโยชน์ให้กับสมาชิกหอการค้าทั่วประเทศ "ยกระดับโครงการป้ายของดีจังหวัดเข้าสู่ระบบการชำระเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์" กระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยในท้องถิ่น หนุนเศรษฐกิจไทยเติบโต ตามแนวทางTrade & Service 4.0 ตั้งเป้าภายในปีนี้จะขยายเครือข่ายร้านค้าให้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ 4,500 ร้านค้า
นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบันการทำธุรกรรมการชำระเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์มีการขยายตัวเพิ่มมากขึ้น โดยได้เข้ามาเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภค รวมถึงส่งผลกระทบต่อการทำธุรกิจในอนาคต โดยเฉพาะกลุ่มร้านค้า SMEsต่าง ๆ ที่มีการติดต่อกับลูกค้าโดยตรง จำเป็นต้องมีการปรับตัวให้ทันกับเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นตลอดเวลา
หอการค้าไทยและหอการค้าจังหวัดทั่วประเทศ ได้มีการดำเนินโครงการสำคัญ ๆ ร่วมกับเครือข่าย โดยมีเป้าหมายในการเสริมสร้างสิทธิประโยชน์ให้กับสมาชิกหอการค้าทั่วประเทศ รวมทั้ง การสร้างความเข้มแข็งเพื่อให้หอการค้าเป็นองค์กรชั้นนำ เป็นที่ยอมรับและมีความทันสมัยก้าวไปสู่ Digital Economy ตามแนวทางของหอการค้าในการขับเคลื่อน Trade & Services 4.0 และสอดรับกับนโยบาย Thailand 4.0 ของรัฐบาล
หอการค้าไทยและหอการค้าจังหวัดทั่วประเทศ ได้จัดทำ "โครงการป้ายของดีจังหวัด" เพื่อที่ส่งเสริมร้านค้า สถานประกอบการสมาชิก ร้านของดี และของอร่อยประจำจังหวัด ให้เป็นที่รู้จักแพร่หลาย และมั่นใจคุณภาพ เมื่อใช้บริการ ตลอดจนส่งเสริมสนับสนุนการท่องเที่ยว และกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นในจังหวัด โดยได้มีการเริ่มดำเนินโครงการมาตั้งแต่ปี 2553 ปัจจุบันมีร้านค้าและสถานประกอบการเข้าร่วมโครงการ กว่า 8,000 ราย จากทั่วประเทศ ซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็น 3ประเภทหลัก คือ 1) ร้านอาหาร 2) ของที่ระลึก/ของฝาก และ 3) โรงแรม/ที่พัก
ในปีนี้ หอการค้าไทยได้ร่วมกับธนาคารกสิกรไทย ในการ"ยกระดับโครงการป้ายของดีจังหวัดเข้าสู่ระบบการชำระเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์"โดยได้นำ QR Code มาใช้กับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการฯ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เข้ามาใช้บริการ
สำหรับเป้าหมายร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการฯ ภายในปีนี้จะขยายเครือข่ายร้านค้าให้เข้าสู่การชำระเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ให้ครอบคลุมพื้นที่ทั้ง 76จังหวัด จำนวน 4,500 ร้านค้า โดยจะนำร่อง 4 ร้านค้า ใน 4 จังหวัดก่อน ได้แก่ ร้านลิขิตไก่ย่าง จังหวัดนนทบุรี ร้านทองทรัพย์ หมูทุบ เมืองปทุม จังหวัดปทุมธานี ร้านรินขนมไทย จังหวัดฉะเชิงเทรา และร้าน Cafe' Del Mar จังหวัดชลบุรี) โดยจะเร่งขยายไปยังจังหวัดอื่น ๆ ต่อไป
นายปรีดี ดาวฉาย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ความร่วมมือในการยกระดับโครงการป้ายของดีจังหวัดเพื่อเข้าสู่การชำระเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ครั้งนี้ เป็นอีกก้าวสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนผู้ประกอบการไทยในยุค 4.0 โดยมีเทคโนโลยี QR Code Payment เป็นกลไกหลัก ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการและเพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้แก่ร้านค้ายิ่งขึ้น โดยธนาคารกสิกรไทยจะนำบริการรับชำระเงินผ่าน QR Code เข้าไปติดตั้งให้แก่ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการป้ายของดีจังหวัดจำนวน 4,500 ร้านค้าทั่วประเทศ ซึ่งบริการมีทั้งรูปแบบแอปพลิเคชั่น K PLUS SHOP และเครื่องรับชำระเงิน EDC หรือ Mini EDC รองรับการใช้งานตามขนาดของกิจการทุกรูปแบบ เพื่อช่วยให้ร้านค้าสามารถสร้าง QR Code มาตรฐานประจำร้าน ที่สามารถรองรับการชำระด้วยการสแกนจาก โมบาย แบงกิ้ง ได้ทุกธนาคาร จากนั้นธนาคารจะจัดทำป้ายของดีจังหวัด ที่มีภาพ QR Code มาตรฐานของร้านปรากฎอยู่บนป้าย เพื่อให้ร้านค้าวางไว้ใช้งาน ณ จุดชำระเงิน ช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าที่มาซื้อสินค้าใช้เป็นทางเลือกในการชำระเงินที่สะดวกและปลอดภัย ลดการใช้เงินสด
นอกจากนี้ QR Code Payment ของธนาคารกสิกรไทย จะมีฟังก์ชันพิเศษให้ร้านค้าสามารถรับชำระเงินผ่านคิวอาร์โค้ดของ Alipay และ WeChat Payได้ด้วย จึงช่วยเพิ่มโอกาสให้ร้านค้าในการรองรับการใช้จ่ายของลูกค้าและนักท่องเที่ยวชาวจีนได้ รวมทั้งมีรายงานรายรับ-จ่าย ที่ช่วยร้านค้าในการบริหารจัดการธุรกิจให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นอีกด้วย ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่าในภาพรวมของประเทศ โครงการป้ายของดีจังหวัดพร้อมระบบการชำระเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์นี้ จะช่วยสร้างความสามารถในการแข่งขันให้ธุรกิจของไทยและเป็นแรงผลักดันสำคัญที่จะนำพาประเทศไทยสู่สังคมไร้เงินสดในอนาคต