กรุงเทพฯ--28 ก.พ.--กลุ่มประชาสัมพันธ์ กระทรวงวัฒนธรรม
วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2561 ที่โรงแรมรอยัล ปริ๊นเซส หลานหลวง กรุงเทพฯ กระทรวงวัฒนธรรม(วธ.)จัดพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือทางวัฒนธรรมระหว่างกระทรวงวัฒนธรรมแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงกิจการภายในแห่งรัฐบาลแห่งเขตบริหารพิเศษฮ่องกง สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยนายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม และนาย Lau Kong-wah รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการภายในแห่งรัฐบาลแห่งเขตบริหารพิเศษฮ่องกง สาธารณรัฐประชาชนจีน ได้ลงนามร่วมกัน ในบันทึกความเข้าใจดังกล่าว โดยมีผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรมของทั้งสองประเทศ และนายสิงห์ทอง ลาภพิเศษพันธุ์ อธิบดีกรมเอเชียตะวันออก กระทรวงการต่างประเทศ เข้าร่วมเป็นสักขีพยาน
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) กล่าวว่า กระทรวงวัฒนธรรม(วธ.) มีนโยบายและยุทธศาสตร์ในการส่งเสริมอุตสาหกรรมวัฒนธรรมเชิงสร้างสรรค์ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจโดยเฉพาะการส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์ การพัฒนาสินค้า ผลิตภัณฑ์และบริการทางวัฒนธรรม รวมทั้งการพัฒนากลไกลและยกระดับการบริหารจัดการงานวัฒนธรรม โดยบูรณาการความร่วมมือกับกระทรวงและหน่วยงานต่างๆในไทย รวมทั้งมีการแลกเปลี่ยนและร่วมมือด้านศิลปวัฒนธรรมกับนานาประเทศ เพื่อขับเคลื่อนให้เกิดผลสำเร็จตามนโยบายที่วางไว้ ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)มีมติเห็นชอบบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือทางวัฒนธรรมระหว่าง กระทรวงวัฒนธรรมแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงกิจการภายในแห่งรัฐบาลแห่งเขตบริหารพิเศษฮ่องกง สาธารณรัฐประชาชนจีน และได้เห็นชอบให้รมว.วธ. เป็นผู้ลงนามในบันทึกความเข้าใจฉบับดังกล่าว ในโอกาสที่นาย Lau Kong-wah รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการภายในแห่งรัฐบาลแห่งเขตบริหารพิเศษฮ่องกง สาธารณรัฐประชาชนจีน มาเยือนประเทศไทย ระหว่างวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 1 มีนาคม 2561 เนื่องจากเมื่อปี 2559 กระทรวงกิจการภายในแห่งรัฐบาลแห่งเขตบริหารพิเศษฮ่องกงฯ มีหนังสือแจ้งความประสงค์จัดทำร่างบันทึกความเข้าใจฯมายังวธ. เพื่อส่งเสริมความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนด้านศิลปวัฒนธรรม ตลอดจนกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยกับฮ่องกง
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวอีกว่า สำหรับบันทึกความเข้าใจฉบับนี้ถือเป็นฉบับแรก โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมและเสริมสร้างความร่วมมือด้านวัฒนธรรมและศิลปะ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดความรู้ ความเข้าใจและความสัมพันธ์อันดีระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศ เนื่องจากไทยและฮ่องกงมีศักยภาพในการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม โดยเฉพาะการพัฒนาอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ วัฒนธรรมและบริการที่มีมูลค่าสูง อาทิ ภาพยนตร์และการบริหารจัดการด้านวัฒนธรรม ส่วนเนื้อหาของบันทึกความเข้าใจฯมีทั้งหมด 7 ข้อ โดยมีสาระสำคัญ อาทิ การส่งเสริมการพัฒนาความสัมพันธ์ที่เอื้อประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่ายในด้านวัฒนธรรมและศิลปะ การพยายามพัฒนาความรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมของกันและกัน และส่งเสริมความเข้าใจและสนับสนุนการแลกเปลี่ยนเท่าที่จะสามารถดำเนินการได้ในด้านวัฒนธรรมและศิลปะ อาทิ การแสดง วิจิตรศิลป์และศิลปะประยุกต์ พิพิธภัณฑ์ และมรดกทางประวัติศาสตร์ วรรณกรรมและสื่อสร้างสรรค์
การพยายามสนับสนุนและส่งเสริมกิจกรรมและการแลกเปลี่ยนระหว่างกันและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมและศิลปะ รวมทั้งพยายามกระตุ้นให้เกิดการมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมและศิลปะและการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือด้านวัฒนธรรมและศิลปะ และกำหนดให้บันทึกความเข้าใจนี้ มีกรอบระยะเวลา 3 ปีนับตั้งแต่วันที่ลงนามร่วมกัน เป็นต้น
นายวีระ กล่าวด้วยว่า การลงนามบันทึกความเข้าใจนี้ เป็นประโยชน์ต่อทั้งสองประเทศเป็นอย่างมาก เนื่องจากฮ่องกงเป็นศูนย์กลางด้านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ที่สำคัญของภูมิภาค และเป็นหนึ่งในตลาดภาพยนตร์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย รวมทั้งมีพิพิธภัณฑ์หลายแห่ง และมีศูนย์การแสดงศิลปวัฒนธรรมที่ได้มาตรฐานสากล ตลอดจนมีย่านวัฒนธรรมเกาลูน ตะวันตกที่เป็นศูนย์บริการด้านวัฒนธรรมระดับโลก ที่สำคัญปัจจุบันฮ่องกงให้ความสำคัญกับการพัฒนาอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ซึ่งความร่วมมือครั้งนี้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการพัฒนาอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ภายใต้นโยบายประเทศไทย 4.0 อย่างไรก็ตาม นอกจากมีพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจฯร่วมกันแล้วในวันนี้แล้ว ยังมีการนำการแสดงทางศิลปวัฒนธรรม"Beyond Boundary Beyond Time" โดยศิลปินจากเขตบริหารพิเศษฮ่องกง สาธารณรัฐประชาชนจีน มาจัดแสดงให้คนไทยได้รับชม ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศจีน ถนนวัฒนธรรม เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ อีกด้วย