กรุงเทพฯ--28 ก.พ.--บลจ.บัวหลวง
หน่วยลงทุนของ B-WORK ซึ่งเป็นกอง REIT หรือ Real Estate Investment Trust จะทำการเปิดซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย วันนี้ (28 กุมภาพันธ์ 2561) หลังจากกระแสตอบรับกองทรัสต์ B-WORK ท่วมท้นในช่วงการเสนอขายครั้งแรก (IPO) เมื่อปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา
คุณพีรพงศ์ จิระเสวีจินดา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด (กองทุนบัวหลวง) กล่าวว่า รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์บัวหลวง ออฟฟิศ หรือ B-WORK เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยวันนี้ (28 กุมภาพันธ์ 2561) เป็นวันแรก หลังได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีช่วงที่เปิดระดมทุนครั้งแรก เมื่อปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา ซึ่งสามารถปิดการเสนอขายหน่วยลงทุนได้เต็มจำนวน 3,688 ล้านบาท
"กระแสตอบรับ B-WORK ดีมาก เราระดมทุนได้ตามเป้าหมาย ชี้ให้เห็นว่า นักลงทุนไว้วางใจ และให้ความมั่นใจกับกองทุนบัวหลวง ประกอบกับกอง REIT ในไทยยังมีไม่มาก กองทุนบัวหลวงถือเป็นรายแรกๆ ในการนำร่องออกกองทุนลักษณะนี้ เพื่อให้นักลงทุนมีทางเลือกในกระจายความเสี่ยงที่หลากหลายมากขึ้นในการบริหารพอร์ตการลงทุน" คุณพีรพงศ์ กล่าว
กองทุน B-WORK เป็นทรัสต์รูปแบบหนึ่ง หรือ Real Estate Investment Trust (REIT) ที่ออกแบบมาเพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ โดยที่ B-WORK สามารถลงทุนได้ทั้งในกรรมสิทธิ์ และสิทธิการเช่าในอสังหาริมทรัพย์ประเภทอาคารสำนักงาน
ทั้งนี้ ในช่วงแรกกองทุนจะเข้าไปลงทุนในสิทธิการเช่าอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ และพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกับสำนักงาน ได้แก่ โครงการทรู ทาวเวอร์ 1 ติดถนนรัชดาภิเษก และโครงการทรู ทาวเวอร์ 2 ติดกับถนนพัฒนาการ เป็นระยะเวลา 30 ปีนับจากวันจดทะเบียนสิทธิการเช่า
อัตราค่าเช่าเติบโตเฉลี่ยอยู่ที่ 3.25% ต่อปี โดยการต่อสัญญาในแต่ละครั้งจะมีอายุสัญญาเฉลี่ยอยู่ที่ 3 ปี สำหรับจุดเด่นของออฟฟิศบนถนนรัชดาภิเษก คือ ยังคงมีความต้องการเช่าพื้นที่สำนักงานอย่างต่อเนื่อง และยังถือเป็นทำเลทองที่มีพื้นที่ให้เช่าสำนักงานจำกัด
อย่างไรก็ดี ทั้ง 2 โครงการที่ B-WORK เข้าไปลงทุนนั้น ผู้เช่าหลักๆ ก็จะเป็นกลุ่มผู้เช่าของกลุ่มทรูและเครือเจริญโภคภัณฑ์ โดยคิดสัดส่วนเป็นผู้เช่ากลุ่มทรู 86.5% กลุ่มเครือเจริญโภคภัณฑ์ 11.0% ทรู พรอพเพอร์ตีส์ 1.9% และธนาคารพาณิชย์ 0.6%
คุณสุทธิพงศ์ พัวพันธ์ประเสริฐ Deputy Managing Director, Head of Real Estate & Infrastructure Investment กองทุนบัวหลวง กล่าวว่า "ด้วยลักษณะพิเศษของ REIT ที่แตกต่างจากกองทุนรวมอสังหาฯ คือ สามารถลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ทั้งในไทยและต่างประเทศได้ ซึ่งในอนาคต หากเรามองเห็นโอกาสที่ดีไม่ว่าจะในประเทศ หรือต่างประเทศ เราก็พร้อมที่จะเข้าไปลงทุนเพิ่ม"
ขณะเดียวกัน นักลงทุนจะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนที่สม่ำเสมอกว่าการลงทุนในหุ้นสามัญ โดยมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลอย่างน้อย 2 ครั้งต่อปี และจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหน่วยลงทุนไม่น้อยกว่า 90% ของกำไรสุทธิหลังปรับปรุงแล้ว
นอกจากนี้ การบริหารความเสี่ยงในการลงทุนจะต้องเหมาะสมกับผลตอบแทนที่ได้รับ กองทุนบัวหลวงในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์จะทำหน้าที่บริหารการลงทุนด้วยความเป็นกลาง โปร่งใส ถ่วงดุล และมีความเป็นอิสระในการคัดเลือกลงทุนในทรัพย์สิน ด้วยประสบการณ์ในการบริหารกองทุนรวม กองทุนอสังหาริมทรัพย์ และกองทุนทรัพย์สินทางเลือก มาเป็นระยะเวลายาวนาน
สำหรับผู้ถือหน่วยฯ และนักลงทุนที่สนใจ สามารถติดตามข้อมูลกองทุนได้ที่ www.bworkreit.com
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจ
การที่สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ได้อนุมัติให้จัดตั้งและจัดการกองทรัสต์นี้ มิได้เป็นการแสดงว่าสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ได้รับรองถึงความครบถ้วนและถูกต้องของข้อมูลเสนอขาย
และมิได้ประกันราคาหรือผลตอบแทนของกองทรัสต์