กรุงเทพฯ--28 ก.พ.--บางกอก ออทัม
บริษัท วิค แอนด์ ฮุคลันด์ จำกัด (มหาชน) (WIIK) รายงานผลการดำเนินงานของบริษัทประจำปี 2560 ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยบริษัทมีผลกำไรสุทธิจากการดำเนินงานรวมทั้งปีอยู่ที่จำนวน 90.26 ล้านบาท ลดลงจากปี 2559 คิดเป็น 32.52% เนื่องด้วยรายได้จากการขายในประเทศลดลงจากการชะลอการรับสินค้าของลูกค้า และปัญหาอุทกภัย ส่วนรายได้จากการขายในต่างประเทศเพิ่มขึ้นถึง 14.90% และรายได้บริการจากธุรกิจการบริหารจัดการ งานเชื่อมต่อและติดตั้งท่อ ยังคงสร้างรายได้ที่ดีและเพิ่มขึ้นให้แก่บริษัทฯ โดยในปี 2560 บริษัทฯ มีรายได้เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 140.02%
โดยบริษัทฯ มีงานที่ยังไม่ได้ส่งมอบ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2560 จำนวน 920.52 ล้านบาท อย่างไรก็ดี บริษัทฯคาดว่ารายการ backlog ต่างๆจากปี 2560 จะสามารถรับรู้รายได้ได้ในปี 2561 นี้
นอกจากนี้บริษัทฯ รายงานว่าที่ประชุมได้อนุมัติให้เรียกประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2561 ในวันศุกร์ที่ 27 เมษายน 2561 เวลา 14.00 น. ณ ห้องแพลทตินั่ม ชั้น 3โรงแรมแกรนด์ เมอร์เคียว บางกอก ฟอร์จูน โดยสาระสำคัญที่จะนำเสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นได้แก่ การขอพิจารณาอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนจำนวน149,975,200 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิมจำนวน 474,917,334 บาท เป็นทุนจดทะเบียนจำนวน 624,892,534 บาท โดยการออกและจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯจำนวนไม่เกิน 149,975,200 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท แบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) ซึ่งจะมอบหมายให้คณะกรรมการของบริษัท หรือกรรมการที่มีอำนาจลงนามของบริษัท มีอำนาจพิจารณากำหนดวัตถุประสงค์ในการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน โดยจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 112,481,400 หุ้นเพื่อเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้น (Right Offering: RO) หรือ จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 37,493,800 หุ้น เพื่อเสนอขายให้แก่บุคคลแบบเฉพาะเจาะจง (Private Placement: PP) ในราคาถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ย้อนหลัง 14 วันทำการติดต่อกัน ก่อนวันที่คณะกรรมการบริษัทจะมีมติอนุมัติ หรือวันแรกที่บริษัทฯ จะเสนอขายต่อผู้ลงทุน โดยจะกำหนดให้วันที่ 13 มีนาคม 2561 เป็นวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิในการเข้าร่วมประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2561 (Record date)
อีกทั้งจะขอพิจารณาอนุมัติจัดสรรกำไรจากผลการดำเนินงานปี 2560 เป็นจำนวน 3,472,055 บาท และการจ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 0.11 บาท หรือคิดเป็นเงินปันผลทั้งสิ้น 41,243,180 บาท โดยจะกำหนดให้วันที่ 4 พฤษภาคม 2561 เป็นวันให้สิทธิผู้ถือหุ้น ("Record Date") ในการรับเงินปันผล และจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 22พฤษภาคม 2561 (หากได้รับการอนุมัติเห็นด้วยจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น)
" ทั้งนี้แม้บริษัทฯมีตัวเลขกำไรสุทธิที่ปรับตัวลดลงในปี 2560 เปรียบเทียบจากปี 2559 แต่มีแนวโน้มจะสามารถปรับตัวสูงขึ้นได้ในปี 2561 จากรายได้ของงานที่ยังไม่ได้ส่งมอบ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2560 จำนวน 920.52 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 77 ของรายได้ปี 2560 ส่วนเรื่องการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่ของบริษัทฯ แบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) เป็นการเตรียมความพร้อมของแหล่งเงินทุนสำหรับการขยายธุรกิจในปี 2561" นายวิบูลย์ แสงวิทยานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกล่าว