กรุงเทพฯ--28 ก.พ.--โอกิลวี่ พับลิค รีเลชั่นส์
ในยุคปัจจุบันที่เทคโนโลยีและการสื่อสารเข้ามามีบทบาทสำคัญในแทบทุกมิติของสังคม บริษัทและองค์กรต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมนี้จึงกลายเป็นฟันเฟืองหลักในการขับเคลื่อนประเทศชาติให้ก้าวต่อไปข้างหน้าและพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไปพร้อมๆ กัน
ด้วยเหตุนี้ บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หนึ่งในกลุ่มบริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้านเครือข่ายโทรคมนาคมชื่อดังที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีอย่าง เอไอเอส และไทยคม จึงไม่หยุดยั้งที่จะพัฒนาและส่งมอบสิ่งดีๆ ให้แก่ผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง
นายเอนก พนาอภิชน รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) เผยว่า "แนวคิดสำคัญที่อินทัชยึดถือปฏิบัติมาโดยตลอดคือการดำเนินธุรกิจอย่างมืออาชีพตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี การฝึกอบรมและพัฒนาศักยภาพบุคลากรให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ และให้การสนับสนุนการลงทุนในด้านโทรคมนาคม สื่อ และเทคโนโลยี เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนแก่ผู้บริโภค ผู้ถือหุ้น ภาคธุรกิจ ตลอดจน สังคมและประเทศชาติ"
"เนื่องจากนวัตกรรมของบริษัทในเครืออินทัชคือสื่อกลางที่เชื่อมต่อประชาชน องค์กรธุรกิจ และสังคมเข้าไว้ด้วยกัน คนอินทัชทุกคนจึงมีบทบาทหน้าที่ในการส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีที่สุด เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้บริโภค พร้อมทั้งส่งเสริมให้เกิดการนำเครือข่ายโทรคมนาคม สื่อ และเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ในวงกว้าง รวมทั้งผลักดันแผนงานต่างๆ เพื่อสร้างสรรค์สังคมดิจิทัลที่แข็งแรง"
หัวเรือใหญ่แห่งกลุ่มอินทัชได้ยก บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส เป็นตัวอย่างของธุรกิจภายใต้การบริหารของกลุ่มอินทัชที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยนอกจากเอไอเอสจะขึ้นแท่นเป็นผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทยด้วยฐานลูกค้ากว่า 40 ล้านรายที่มีแนวโน้มการใช้งานดาต้าเพิ่มขึ้นแล้ว ปัจจุบัน เอไอเอสยังพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ รองรับบริการด้านโทรศัพท์เคลื่อนที่ อินเทอร์เน็ตไฟเบอร์ออพติก และดิจิทัลคอนเทนต์ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่สามารถรับชมผ่านแพลตฟอร์มและช่องทางต่างๆ ได้อย่างสะดวกสบาย เข้าถึงผู้บริโภคได้เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ อินทัช ยังมีโครงการอินเว้นท์ (InVent) ที่สนับสนุนสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพทั้งในด้านเงินลงทุน ความรู้ในด้านการบริหารจัดการให้สามารถเติบโตและเข้าสู่ตลาดได้มากขึ้น แนวทางการบริหารข้างต้นนับว่าเป็นยุทธศาสตร์ที่มีแนวโน้มนำไปสู่ผลประกอบการที่ยั่งยืน และสร้างมูลค่ามากขึ้นในอนาคต
ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็น เอไอเอส ไทยคม โครงการอินเว้นท์ (InVent) หรือธุรกิจอื่นๆ ที่อยู่ภายใต้การบริหารของกลุ่มอินทัช ล้วนแล้วแต่มีความมุ่งมั่นที่จะผนึกกำลังกับกลุ่มอินทัชในการเสริมสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลของประเทศไทยให้มีความแข็งแรง ลดช่องว่างและความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงข้อมูลและองค์ความรู้ที่ทันสมัย และนำพาประเทศไปสู่ยุค 4.0 ตามนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาล
ล่าสุด อินทัช ได้รับรางวัลเกียรติยศบริษัทที่มีมูลค่าแบรนด์องค์กรสูงสุด จากงาน "Thailand's Top Corporate Brand Value 2017"และได้รับการคัดเลือกเป็น "บริษัทจดทะเบียนด้านผลการดำเนินงานดีเด่น" ประเภทกลุ่มบริษัทที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดสูงกว่า 100,000 ล้านบาท จากงานประกาศรางวัล 'SET AWARDS' สามปีซ้อน รวมทั้งเป็นเจ้าของรางวัล "Thailand Sustainability Investment Awards" หรือหุ้นยั่งยืนติดต่อกันสามปีซ้อนเช่นกัน นับเป็นเครื่องการันตีประสบการณ์และความสำเร็จในฐานะองค์กรแห่งความยั่งยืนที่มีผลการดำเนินงานโดดเด่นด้านธุรกิจและความรับผิดชอบต่อสังคมของอินทัชได้เป็นอย่างดี
สำหรับทิศทางธุรกิจของอินทัชในปี 2561 จะยังคงสานต่อนโยบายและโครงการต่างๆ ไว้ให้ออกมาดีที่สุด โดยจะนำความเชี่ยวชาญและนวัตกรรมในด้านอุตสาหกรรมโทรคมนาคม สื่อ และเทคโนโลยี ผนวกเข้ากับยุทธศาสตร์และการบริหารจัดการตามหลักธรรมาภิบาล เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพโดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากรให้มีทักษะด้านเทคโนโลยี สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่สอดคล้องกับการทำงานในยุคดิจิทัลเพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมทั้งแสวงหาโอกาสทางธุรกิจอย่างต่อเนื่องเพื่อขับเคลื่อนผลประกอบการให้สูงขึ้นและส่งเสริมคุณภาพชีวิตของคนไทยอย่างต่อเนื่องสืบไป