“โบ - อ๊อฟ” พาเที่ยวนันสต๊อป กับทริปสุดลุย “ดูไฟว์ไลฟ์ได้ไป...มาดากัสการ์” !!!

ข่าวทั่วไป Wednesday September 19, 2007 08:49 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--19 ก.ย.--จีเอ็มเอ็ม ทีวี
“โบ - อ๊อฟ” พาเที่ยวนันสต๊อป กับทริปสุดลุย “ดูไฟว์ไลฟ์ได้ไป...มาดากัสการ์” !!! หยอกล้อลีเมอร์ - ล่องเกาะสวรรค์ — ชมวาฬหลังค่อม — ช้อปของพื้นเมือง
เรียกว่าสมใจนักผจญภัยขาลุยทั้งหลายจริงๆ เมื่อรายการ “ไฟว์ไลฟ์” ทางททบ. 5 จัดทริปสุดฮิป พาผู้โชคดีจากกิจกรรม “ดูไฟว์ไลฟ์ได้ไป...มาดากัสการ์” แพ็คกระเป๋าออกเดินทางไปยังประเทศมาดากัสการ์ (Madagascar) เกาะใหญ่อันดับที่ 4 ของโลกตั้งโดดเด่นอยู่กลางมหาสมุทรอินเดียใกล้กับทวีปแอฟริกา โดยมีพิธีกรประจำรายการ “โบ — ธนากร ชินกูล” และนักร้องหนุ่ม “อ๊อฟ — ปองศักดิ์ รัตนพงษ์” ร่วมสร้างสีสันความสนุกสนานไปตลอดทริปครั้งนี้ และที่พิเศษสุดอีกอย่างก็คือผู้ร่วมทริปในครั้งนี้ยังถือเป็นคนไทย 1 ใน 500 คนแรกที่มีโอกาสได้ไปเยือนประเทศมาดากัสการ์ เกาะมหัศจรรย์ที่มีธรรมชาติอันตื่นตาตื่นใจ รอคอยทุกคนอยู่อีกด้วย
ชาวทริปนัดแนะกันที่สนามบินสุวรรณภูมิประเทศไทยเพื่อออกเดินทางด้วยสายการบิน แอร์ มาดากัสการ์ (Air Madagascar)ราว 10 ชั่วโมงกว่าๆ ล้อแตะรันเวย์ที่สนามบินอิฟวาโต (Ivato Airport) ประเทศมาดากัสการ์ ซึ่งเวลาจะเดินช้ากว่าประเทศไทยประมาณ 4 ชั่วโมง จากนั้นชาวทริป “ไฟว์ไลฟ์” ไม่รอช้ารีบออกไปยืดเส้นยืดสายด้วยการตะลุยชมวิวทิวทัศน์ของ เมืองหลวงอันตนานาริโวหรือ “เมืองแห่งนักรบพันคน” หรือที่ชาวบ้านเรียกสั้นๆว่า “เมืองตานา” กันทันที ซึ่งอาคารบ้านเรือนของที่นี่บางแห่ง ยังหลงเหลือรูปแบบสถาปัตยกรรมของฝรั่งเศสสมัยที่เคยเป็นเมืองขึ้นในยุคอาณานิคมให้เห็นอยู่บ้าง ตรงใจกลางเมืองมีทะเลสาบขนาดใหญ่ชื่ออะโนซี (Lac Anosy) และเมื่อมองไปในทะเลสาบจะเห็นอนุสาวรีย์ “แบล็ค แองเจิ้ล” (Black Angel) ตั้งตระหง่านอยู่เพื่อระลึกถึงสงครามโลกครั้งที่ 1ซึ่งชาวฝรั่งเศสได้สร้างเอาไว้ นอกจากนี้ยังแวะไปที่ ตลาดดอกไม้ ซึ่งมีพ่อค้าแม่ค้านำดอกไม้สารพัดชนิดมาขายกันอย่างคึกคัก หลังจากเที่ยวชมบรรยากาศตัวเมืองกันจนจุใจแล้ว ทุกคนก็มุ่งหน้าสู่ไฮไลต์แรกของทริปนี้ที่สวนสัตว์ Nocturnal Lemur House เพื่อไปเยี่ยมชมความน่ารักของเจ้าลีเมอร์ซึ่งเป็นสัตว์ประจำชาติของมาดากัสการ์ ซึ่งที่นี่หนุ่ม “อ๊อฟ” ดูจะถูกอกถูกใจเอามากๆ เพราะเจ้าตัวเป็นคนชื่นชอบสัตว์พันธุ์แปลกๆ อยู่แล้ว หลังจากได้หยอกล้อ และแชะภาพเล่นกับเจ้าลีเมอร์ที่นิสัยน่ารักเป็นมิตรกับผู้มาเยือนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาแวะเติมอาหารใส่ท้องกันซะทีที่ร้านอาหารฝรั่งเศส “วิลลา วานิลล์” (Villa Vanille) เมื่ออิ่มอร่อยเรียบร้อยก็ได้เวลาเดินทางสู่สนามบินอีกครั้ง อ๊ะ...อ๊ะแต่ไม่ได้บินกลับประเทศไทยหรอกนะจ๊ะแหม !!! ก็เพิ่งจะมาถึงหยกๆ จะรีบกลับได้ไง คราวนี้ทุกคนต้องนั่งเครื่องบินภายในประเทศไปยังเกาะเซนต์ มารี (St. Marie) เกาะบริวารของมาดากัสการ์ซึ่งขึ้นชื่อว่ามีธรรมชาติทางทะเลอันบริสุทธิ์ และเป็นสถานที่ชมวาฬที่มีชื่อเสียงของโลก เมื่อไปถึงเกาะเซนต์ มารี ในยามเย็นทุกคนเข้าพักที่โรงแรม Soanambo Hotel โดยในระหว่างอาหารมื้อค่ำทางโรงแรมได้จัดการแสดงเต้นระบำพื้นเมืองของชาวมาลากาซีซึ่งเป็นชนพื้นเมืองของมาดากัสการ์ให้ไว้ชม งานนี้ “โบ — อ๊อฟ” ถึงกับอดใจไม่ไหวขอเข้าไปโยกย้ายตามสเต็ปแดนซ์ของชาวมาลากาซีกันอย่างครื้นเครง จากนั้นทุกคนจึงแยกย้ายเข้านอนเก็บแรงไว้เพราะมีนัดกับวาฬหลังค่อม ในวันรุ่งขึ้น
ดี๊ด๊ากันแต่เช้าเพราะวันนี้ทุกคนจะได้เจอกับวาฬหลังค่อม (Humpback Whale) ซึ่งเป็นวาฬพันธุ์ที่พบเห็นได้ยากมาก และเป็นไฮไลท์สำคัญของทริปครั้งนี้แล้ว ในทุกๆ ปีในช่องเดือนก.ค. — ก.ย. ฝูงวาฬหลังค่อมนับร้อยตัว จะอพยพมาจากขั้วโลกใต้ เพื่อมาหากระแสน้ำอุ่นสำหรับผสมพันธุ์ และคลอดลูก และที่เกาะเซนต์ มารีแห่งนี้เองที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกจะได้พบกับครอบครัววาฬหลังค่อมอย่างใกล้ชิด งานนี้ชาวทริป “ไฟว์ไลฟ์” แต่ละคนก็เตรียมตัวพร้อมสุดๆ ทั้งกินยาแก้เมาเรือ พกหมวก แว่นกันแดด และกล้องถ่ายรูปติดมือกันไว้ทุกคน โดยเฉพาะหนุ่ม “โบ” ที่ขอวิ่งไปซื้อฟิล์มถ่ายรูปเพิ่ม แต่เรือดันออกจากฝั่งก่อนเวลาที่กำหนดไว้ งานนี้ “โบ” เลยถูกทิ้งให้ตกเรืออยู่ที่ฝั่งคนเดียว ยังดีว่าไกด์ท้องถิ่นอาสารอ “โบ” ที่ท่าเรือเพื่อพานั่งเรือเล็กไปต่อเรือคาลโต มัลทีสที่จอดรออยู่กลางทะเล เมื่อจำนวนสมาชิกครบเรียบร้อยกัปตันก็นำเรือมุ่งหน้าสู่ทิศทางที่มีวาฬหลังค่อมแวกว่ายอยู่ หลังจากเรือแล่นปะทะทิวคลื่นไปได้ไม่นานกัปตันเรือก็มองเห็นสายน้ำพุ่งขึ้นกลางทะเลจึงส่งสัญญานบอกชาวทริปทุกคนให้เฝ้าสังเกตการณ์จากนั้นไม่ถึงนาที ภาพแห่งความประทับใจที่ทุกคนรอคอยก็มาถึงเมื่อครีบของวาฬขนาดใหญ่แหวกกระแสน้ำขึ้นมาสร้างความตื่นเต้นฮือฮาให้กับทุกคนบนเรือที่ส่งเสียงร้องและปรบมือกันเกรียวกราว โดยกัปตันเรือบอกภายหลังว่า วาฬที่กำลังเห็นอยู่นั้นเป็นวาฬคู่แม่กับลูก หลังจากนั้นเป็นเวลานานหลายชั่วโมงที่ทุกคนได้ตื่นตาตื่นใจกับสายน้ำที่พุ่งขึ้นมา และเสียงร้องอี๊ดๆ จากฝูงวาฬที่ส่งทักทายชาวทริปดังกึกก้องท้องทะเล พร้อมกับครีบ และหางที่ผลัดกันแหวกว่ายโชว์ตัวอย่างสวยงาม ถือว่าไม่เสียเที่ยวจริงๆ ที่ได้มาเห็นวาฬในระยะประชิดที่สุด ด้วยตาตัวเอง ซึ่งทุกคนในทริปต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าการชมวาฬหลังค่อมครั้งนี้ถือเป็นประสบการณ์ที่พิเศษสุดในชีวิตจริงๆ ตกบ่ายเรือเข้าเทียบท่าเพื่อให้ทุกคนได้พักผ่อน และรับประทานอาหารซีฟู้ดกัน ราวบ่ายแก่ๆ ใกล้เวลาเย็นตัวเรือจึงหันหัวกลับสู่เกาะเซนต์มารี เพื่อให้รถบัสที่รออยู่พาทุกคนก็กลับสู่โรงแรมเพื่อพักผ่อนตามอัธยาศัย
เช้าวันนี้ขาลุยทั้งหลายมีจุดมุ่งหมายอยู่ที่ เกาะอิล โอ นัตส์ (Ile au nattes) หนึ่งในหมู่เกาะบริวารที่สวยงามที่สุดของเกาะเซนต์ มารีเพื่อชื่นชมทัศนียภาพของน้ำทะเลที่ใสอย่างกระจก และหาดทรายขาวสะอาด นอกจากนี้ทุกคนยังมีโอกาสได้เห็นเรือ “ปิรอค” (Pirogue) เรือไม้โบราณของมาดากัสการ์ที่ ชาวมาลากาซีพายไปมาให้นักท่องเที่ยวชื่นชม หลังจากอิ่มท้องจากอาหารทะเลมื้อกลางวัน และอิ่มตาจากทัศนียภาพแบบพาโนรามาที่สวยงามแล้วก็ได้เวลาเดินทางกลับมาที่สนามบินเพื่อเดินทางสู่เมืองหลวง อันตนานาริโวอีกครั้ง เพราะตอนนี้ได้เวลาละลายเงินสกุลแอเรียรี่ที่แลกกันมาจนตุงกระเป๋าตั้งแต่วันแรกแล้ว สำหรับจุดช้อปปิ้งที่เด็ดที่สุดในมาดากัสการ์ก็อยู่ที่ตลาดลาดีค (La Dique) เป็นตลาดสินค้าพื้นเมือง ซึ่งมีลักษณะเป็นเพิงขายของตั้งเรียงรายกันไป แต่สินค้าที่นี่เรียกว่าถูกอกถูกใจชาวทริปเหลือเกิน เพราะมีตั้งแต่ ผ้าปักฝีมือดีแบบเริ่ด, กระเป๋าสานสีสันจี๊ดจ๊าด, โมเดลรถสังกะสี, จามชามโลหะ, งานไม้แกะสลัก ฯลฯ เห็นแล้วน่าขนกลับบ้านซะทั้งหมดจริงๆ แถมราคาก็ถูกแสนถูก ที่สำคัญพ่อค้าแม่ค้ายังนึกสนุกยอมให้ต่อรองราคาได้อีกต่างหาก งานนี้พี่ไทยนักช้อปยอมได้ที่ไหน แต่ละคนซื้อของต่อรองราคากันอย่างเมามัน ช้อปปิ้งกันนานหลายชั่วโมงแต่กระเป๋าไม่ยักกะฉีก ขนหน้าแข้งไม่ยอมร่วง กว่าชาวทริปจะหมดเรี่ยวหมดแรง หมดมือที่จะถือของพระอาทิตย์ก็ยอมแพ้หมดลำแสงของวันซะก่อน ทุกคนเลยพาตัวเองพร้อมข้าวของที่ ช้อปปิ้งยัดขึ้นรถบัสเพื่อกลับไปพักยังโรงแรม Hilton Hotel และรับประทานอาหารเย็นร่วมกัน พร้อมกับมี ปาร์ตี้สั่งลาทริปสุดลุยสุดมันในครั้งนี้ ก่อนจะแยกย้ายกันไปแพ็คกระเป๋า และเข้านอนเพื่อที่จะตื่นแต่เช้ามืดราวตี 5 เพื่อเดินทางไปที่สนามบินอิฟวาโตขึ้นเครื่องบินกลับสู่ประเทศไทยอย่างมีความสุข เพราะตอนนี้ ทุกคนต่างมีความประทับใจ และทึ่งในหลากหลายความมหัศจรรย์อันเป็นเอกลักษณ์ของประเทศมาดากัสการ์แห่งนี้
ใครอยากเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมทริปสนุกๆ น่าประทับใจแบบนี้อีกก็ต้องคอยติดตามรายการ “ไฟว์ไลฟ์” ออกอากาศสดทุกวันจันทร์ — วันศุกร์ เวลา 00.15-01.05 น. (หลังข่าวเที่ยงคืน) ทาง ททบ. 5

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ