กรุงเทพฯ--2 มี.ค.--บางกอก ออทัม
บมจ. เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น (SSP) ประกาศผลการดำเนินงานปี 2560 โดยมีกำไรจากการดำเนินการหลังปรับปรุง (Adjusted Operating Profit) ซึ่งเป็นกำไรหลักจากการดำเนินการและเป็นดัชนีที่ฝ่ายจัดการและคณะกรรมการใช้ชี้วัดผลการดำเนินการและพิจารณาจ่ายเงินปันผล เท่ากับ 472.1 ล้านบาท ลดลงจากปี 2559 ประมาณ3.1%
ทั้งนี้ SSP มีกำไรสุทธิสำหรับปี 2560 เท่ากับ 339.8 ล้านบาท โดยในไตรมาสที่ 4 ปี 2560 มีกำไรสุทธิเท่ากับ 72.8 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3 ปี 2560 ที่แสดงกำไรสุทธิเท่ากับ 54.1 ล้านบาท และ ไตรมาส 4 ปี 2559 ที่มีกำไรสุทธิเท่ากับ 62.7 ล้านบาท
คณะกรรมการของ SSP มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลประจำปี 2561 (เพื่อเสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติ) ในอัตรา0.2050 บาทต่อหุ้น หรือคิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 189 ล้านบาท และคิดเป็นอัตราส่วนประมาณ 40% ของกำไรจากการดำเนินการหลังปรับปรุง
นาย วรุตม์ ธรรมวรานุคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SSP กล่าวว่า "สำหรับปี 2560 ซึ่งเป็นปีที่ทาง SSP ยังคงมีโครงการที่ดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้วเพียงโครงการเดียว คือ โครงการเสริมสร้างพลังงาน ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง52 เมกกะวัตต์ ที่จังหวัดลพบุรี นั้น ผลประกอบการถือว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ และเป็นไปตามกรอบที่ได้ให้ข้อมูลกับนักลงทุนและนักวิเคราะห์ก่อนหน้านี้ โดยมีกำไรหลักจากการดำเนินการราว 450-500 ล้านบาท ซึ่งกำไรหลักจากการดำเนินการดังกล่าวก็เป็นดัชนีที่ทางคณะกรรมการใช้พิจารณาควบคู่ในการพิจารณาจ่ายเงินปันผล ตามที่คณะกรรมการได้มีมติในครั้งนี้ด้วย
ส่วนแนวโน้มสำหรับปี 2561 โดยแผนงานของบริษัทแล้ว เราจะมีโครงการที่เริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ในระหว่างปี2561 นี้อยู่หลายโครงการ เช่น โครงการฮิดะกะ ในประเทศญี่ปุ่น กำลังการผลิต 21 เมกกะวัตต์ โครงการ SNNP1 และSNNP2 ซึ่งเป็นโครงการ Solar Rooftop ในประเทศไทย กำลังการผลิตรวมประมาณ 1.4 เมกกะวัตต์ โครงการโซเอ็นในประเทศญี่ปุ่น กำลังการผลิต 8 เมกกะวัตต์ ตลอดจนโครงการ Khunsight Kundi ในประเทศมองโกเลีย กำลังการผลิต 16.4 เมกกะวัตต์ ซึ่งมีกำหนดการเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ราวไตรมาส 1 ปี 2562 ดังนั้นถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผนงาน คาดว่า SSP จะมีรายได้ที่ทยอยเพิ่มขึ้นจากการเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ของโครงการเหล่านี้ในช่วง 12เดือนข้างหน้า"