กรุงเทพฯ--2 มี.ค.--IR network
EA โชว์ผลงานจากงบปี 60 กำไรสุทธิ 3,817 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17% ทำสถิติสูงสุดใหม่ โซลาร์ฟาร์ม-วินด์ฟาร์ม จ่ายไฟเข้าระบบ 404 MW ตามแผน ปี 61 จ่อCOD เพิ่มเป็น 664 MW ดันผลงาน 61-62 โตต่อเนื่อง จ่ายปันผลหุ้นละ 0.20 บาท พร้อมเตรียมออกหุ้นกู้ 20,000 ล้านบาท เตรียมพร้อมลุยโครงการใหญ่
นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทและบริษัทย่อยในปี 2560 มีรายได้รวม 11,674 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,234 ล้านบาท หรือ 12% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 10,439 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 3,817 ล้านบาท เพิ่มขึ้น565 ล้านบาท หรือ 17% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 3,252 ล้านบาท ทำสถิติสูงสุดใหม่ จากการรับรู้รายได้จากธุรกิจโรงไฟฟ้าที่มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 404 เมกะวัตต์
"ในปี 2561 บริษัทฯจะมีรายได้จากธุรกิจไฟฟ้าเพิ่มขึ้น จากการรับรู้รายได้โครงการพลังงานลมหาดกังหัน ขนาดกำลังการผลิต 126 เมกะวัตต์ ได้เต็มปี และคาดว่ากำลังการผลิตโรงไฟฟ้าทั้งโซลาร์ฟาร์มและโรงไฟฟ้าพลังงานลมจะขยับขึ้นเป็น 664 เมกะวัตต์ หลังจากโรงไฟฟ้าพลังงานลม หนุมาน ขนาดกำลังการผลิต260 เมกะวัตต์ จ่ายไฟเข้าระบบในช่วงปลายปีนี้" นายอมรกล่าว
สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2561-2562 เตรียมใช้งบลงทุน 2.47 หมื่นล้านบาท รองรับการขยายธุรกิจ โดยใช้แหล่งเงินทุนทั้งจากการดำเนินงานของบริษัทฯเอง การกู้ยืม และจากผู้ร่วมทุน โดยการลงทุนจะมีทั้งการพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานลมขนาด 260 MW ที่มีอยู่เดิมให้แล้วเสร็จ การตั้งโรงงานผลิตแบตเตอรี่เฟสที่1 ขยายการลงทุนในสายธุรกิจไบโอดีเซล ทำสถานีชาร์จไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ และการทำ R&D ในธุรกิจใหม่ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกัน
ในส่วนของธุรกิจไบโอดีเซลในปี 2561-2562 บริษัทฯจะมุ่งการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ใช้เทคโนโลยีมากขึ้น เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น โดยตั้งงบลงทุนไว้ที่ 2,000 ล้านบาท และเริ่มลงทุนในปีนี้ โดยคาดว่าสัดส่วนรายได้ในปีนี้จะมาจากธุรกิจไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเป็น 65% และธุรกิจไบโอดีเซล 35% จากเดิมที่ปี2560 รายได้มาจากธุรกิจไฟฟ้า 61% และธุรกิจไบโอดีเซล 39%
ส่วนโครงการสถานีอัดประจุไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ภายใต้เครื่องหมายการค้า "EA Anywhere" คาดว่าจะเปิดครบ 1,000 สถานีในปีนี้ ภายใต้งบลงทุนทั้งสิ้น800 ล้านบาท โดยจะลงทุนในปีนี้ประมาณ 700 ล้านบาท
สำหรับธุรกิจแบตเตอรี่นั้น บริษัทฯได้ประกาศที่จะเข้าซื้อหุ้นใน Amita เพิ่มขึ้นอีกไม่เกิน 19.30% โดยใช้เงินลงทุนเพิ่มโดยประมาณอีกไม่เกิน 844 ล้านบาท รวมทั้งมีแผนลงทุนก่อสร้างโรงงานแบตเตอรี่เฟส 1 ขนาดกำลังการผลิต 1 กิกะวัตต์-ชั่วโมง (GWh) ซึ่งได้ทำการออกแบบเสร็จสิ้นแล้ว และอยู่ระหว่างเตรียมการก่อสร้างมีกำหนดเสร็จในกลางปี 2562 โดยต้องลงทุนโครงสร้างพื้นฐานทั้งหมดสำหรับรองรับโรงงานขนาด 50 GWh ด้วย จึงคาดว่าจะใช้งบประมาณลงทุนในปี2561-2562 ราว 4,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเตรียมขออนุมัติที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นสำหรับการจ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 0.20 บาท และการออกหุ้นกู้วงเงินไม่เกิน 20,000 ล้านบาท เพื่อความพร้อมสำหรับการลงทุนในโครงการต่างๆ และการจัดโครงสร้างทางการเงินตลอดจนบริหารต้นทุนทางการเงินอีกด้วย