กรุงเทพฯ--2 มี.ค.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส
สภาวะตลาดวันที่ 02 มีนาคม 2561 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,314.90-1,319.12 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,650 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาทรงตัวจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,650บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFJ18 อยู่ที่ 19,740 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 10 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,750 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.20 น. ของวันที่ 02/03/61)
แนวโน้มวันที่ 05 มีนาคม 2561
ความวิตกเกี่ยวกับสงครามการค้าโลก กดดอลลาร์สหรัฐให้ร่วงลงอย่างหนักจากจุดสูงสุดรอบ 6 สัปดาห์ หลังจากที่ ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐปกำหนดภาษีนำเข้า 25% ต่อเหล็กกล้า และ 10% ต่ออะลูมิเนียม ซึ่งสร้างความเสี่ยงต่อการตอบโต้จากคู่ค้าสำคัญ อาทิ จีน, ยุโรป และแคนาดา จนกระตุ้นการเทขายดอลลาร์ครั้งใหญ่ในตลาดวอลล์สตรีท ส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงและหนุนราคาทองคำให้ฟื้นตัวขึ้น ขณะเดียวกันดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงกดดันเพิ่ม เมื่อนางคริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ระบุว่า เธอมองเห็นผลกระทบด้านบวกและด้านลบจาก "ความซับซ้อน" ของการยกเครื่องภาษีสหรัฐ รวมถึงอุปสรรคด้านการเติบโตของเศรษฐกิจในระยะสั้น ซึ่งเสี่ยงก่อให้เกิดภาวะร้อนแรงเกินไปต่อเศรษฐกิจสหรัฐและปัญหาหนี้สินที่เพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ดอลลาร์ร่วงลงเมื่อเทียบกับเยน เมื่อผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่น (JGB) อายุ 10 ปี สูงขึ้น จากคำกล่าวของนายฮารุฮิโกะ คูโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการถอนนโยบายการเงินเชิงผ่อนคลาย ถ้าบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อในปีงบประมาณ 2562 ประเด็นดังกล่าวทำให้นักลงทุนมุ่งความสนใจไปยังการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในวันที่ 9 มีนาคม นี้ อย่างไรก็ตามราคาทองคำขยับขึ้นได้ไม่ไกล เนื่องจากเงินเฟ้อสหรัฐปรับตัวขึ้นในเดือนม.ค. เห็นได้จากดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดินหน้าขึ้นสูงสุดในรอบ 12 เดือน ขณะที่นายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก สนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ครั้งละ 0.25 จุด 4 ครั้งในปีนี้ แบบ "ค่อยเป็นค่อยไป" เพราะนโยบายการคลังสหรัฐค่อนข้างกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งนี้แนะนำนักลงทุนติดตามพัฒนาการของปัจจัยข้างต้นโดยเฉพาะปัจจัยฝั่งสหรัฐ เพื่อชี้นำราคาทองคำเพิ่มเติม โดยหากเกิดแรงซื้อปรับตัวขึ้นไปสู่แนวต้านได้ แต่หากแรงซื้อไม่มากพอก็อาจมีแรงขายทำกำไรสลับออกมาเหมือนเช่นเคย
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีมีมุมมองว่า หากราคาทองคำยืนเหนือบริเวณแนวรับ 1,308-1,302 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ในระยะสั้นราคาทองคำยังมีโอกาสขยับขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,323-1,333 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยบริเวณนี้นักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจมีการขายทำกำไรเพียงบางส่วนออกมาบ้าง โดยให้ดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านได้หรือไม่ ซึ่งหากไม่ผ่านราคาอาจจะมีการอ่อนตัวลงอีกครั้ง โดยนักลงทุนที่รอซื้อทองคำอาจรอดูการตั้งฐานของราคาโดยประเมินแนวรับไว้ที่ 1,302 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำนักลงทุนในระยะสั้นรอราคาย่อตัวลงมาและสามารถตั้งฐานบริเวณแนวรับดังกล่าวได้แข็งแกร่งสามารถเข้าสะสมทองคำเพิ่มเติม
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,302 (19,350บาท) 1,294 (19,200บาท) 1,286 (19,100บาท)
แนวต้าน 1,323 (19,700บาท) 1,333 (19,850บาท) 1,345 (20,000บาท)
GOLD FUTURES (GFJ18)
แนวรับ 1,302 (19,520บาท) 1,294 (19,400บาท) 1,286 (19,280บาท)
แนวต้าน 1,323 (19,840บาท) 1,333 (19,990บาท) 1,345 (20,170บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999