กรุงเทพฯ--3 ก.ย.--แบรนด์คอม คอนซัลแทนส์
กำไรสุทธิไตรมาส 2 และ กำไรสุทธิ ช่วง 6 เดือนแรกของปี 2550 ในไตรมาส 2 ปี 2550 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 285.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 24 จากไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมา บริษัทฯ มีกำไรจากการดำเนินงานจำนวน 258.3 ล้านบาทเพิ่มขึ้นร้อยละ 17 เนื่องมาจากการฐานรายได้ที่กว้างขึ้นของบริษัทฯ
สำหรับงวดระยะเวลา 6 เดือนแรกของปี 2550 บริษัทฯ มีผลกำไรสุทธิทั้งสิ้น 540.3 ล้านบาทลดลงร้อยละ 13 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา เนื่องจากเนื่องมาจากกำไรสุทธิงวดระยะเวลา 6 เดือนแรกของปี 2549 ได้รวมกำไรที่ไม่ได้มาจากการดำเนินงานจำนวน 106.4 ล้านบาทซึ่งส่วนใหญ่เป็นกำไรจากลดลงของสำรองเผื่อข้อพิพาธตามกฎหมายและกำไรจากบริษัทร่วมซึ่งส่วนใหญ่มาจากเงินปันผลบริษัท โกลว์ ไอพีพี, จำนวน 120.7 ล้านบาท นอกจากนี้กำไรสุทธิงวดระยะเวลา 6 เดือนแรกของปี 2550 ได้สะท้อนถึงภาษีเงินได้ที่เพิ่มขึ้นจำนวน 111.5 ล้านบาท
นายเดวิด นาร์โดน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ได้ให้ความเห็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ว่า “บริษัทเหมราชฯ เริ่มต้นครึ่งปีแรกของปี 2550 ด้วยรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากทุกหน่วยธุรกิจและมีกำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น สำหรับงวดระยะเวลา 6 เดือนแรกของปี 2550 บริษัทฯมีรายได้จากการดำเนินงาน จำนวน 2,372.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 34 และมีกำไรขั้นต้นจำนวน 1,021.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 34 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา มีกำไรจากการดำเนินงานหรือ EBITDA จำนวน 829.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 45 มีกำไรสุทธิจำนวน 540.3 ล้านบาท บริษัทฯมีกำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นและกำไรของปีที่ผ่านได้รวมเงินปันผลและกำไรที่ไม่ได้มาจากกาดำเนินงานด้วย
ประเทศไทยยังคงเป็นศูนย์กลางจากการลงทุนและการรวมกลุ่มอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ดีทรอย์ตะวันออกที่อยู่ในนิคมฯอีสเทิร์นซีบอร์ด อุตสาหกรรมปิโตรเคมี และ กล่มอุตสาหกรรมอื่นๆ ด้วยแนวโน้มอุตสาหกรรมที่ดีขึ้น เราได้เพิ่มเป้าหมายการขายที่ดินเพื่ออุตสาหกรรมจาก 1,000 ไร่เป็น 1,200 ไร่ เป็นครั้งที่ 3 สำหรับเป้าหมายปี 2550
กลยุททธของบริษัทฯในการขยายฐานรายได้โดยเลือกลงทุนในธุรกิจในการพัฒนานิคมอุตสาหกรรม สาธารณูปโภค อสังหาริมทรัพย์จากโรงงานสำเร็จรูปและคอนโดมิเนียมเพื่อเพิ่มโอกาศในการทำกำไรสูงสุด เราเชื่อมั่นว่าเหมราชฯสามารถที่จะลงทุนขยายกิจการร่วมกับการใช้ทักษะการจัดการเพื่อขยายฐานรายได้, ลดความเสี่ยง, และเพิ่มผลตอแทนแก่ผู้ถือหุ้น”
รายได้รวมและผลการดำเนินงานของช่วง 6 เดือนแรกของปี 2550 สำหรับงวดระยะเวลา 6 เดือนแรกของ ปี 2550 บริษัทฯ มีรายได้รวมจำนวน 2,420.0 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมาจำนวน 1,941.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 25 โดยมีรายได้จากการประกอบธุรกิจหลักจำนวน 2,372.5 ล้านบาท เปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 600.3 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 34 ส่วนรายได้การขายที่ดินนิคมอุตสาหกรรม จำนวน 518.8 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แล้วเพิ่มขึ้นร้อยละ 12 ขณะที่มีรายได้การขายที่ดินนิคมอุตสาหกรรม รอการรับรู้อันเนื่องมาจากค่าของความสำเร็จของงาน จากการขายที่ดินในรอบ 3 ไตรมาสที่ผ่านมาให้แก่ลุกค้ารายใหญ่ 4 ราย จำนวน 1,240 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้ในระยะเวลา 6 ถึง 15 เดือนข้างหน้า
รายได้จากค่าบริการระบบสาธารณูปโภค จำนวน 322.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 19 รายได้จากการให้เช่าโรงงานสำเร็จรูปเพิ่มขึ้นเป็น 89.7 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 9 รายได้จากการขายโรงงานสำเร็จรูปจำนวน 59.1 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 28 รายได้จากการขายอาคารชุด เดอะพาร์ค ชิดลม จำนวน 1,212.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น ร้อยละ 48 เมื่อเปรียบเทียบช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
บริษัทฯ มีกำไรขั้นต้นจำนวน 1,021.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 34 จากเมื่อเปรียบเทียบช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และกำไรจากการดำเนินงาน (EBITDA) จำนวน 829.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 45 ด้วยอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) ที่ร้อยละ 43 และ EBITDA Margin ที่ร้อยละ 35
เหตุการณ์สำคัญในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาของปี 2550
บริษัทฯ มียอดขายที่ดินอุตสาหกรรม จำนวน 605 ไร่ จากสัญญา 20 ฉบับ โดยในจำนวนนี้เป็นลูกค้าใหม่จำนวน 13 รายและจากการขยายกิจการของลูกค้ารายเดิมจำนวน 7 ราย รวมถึงยอดขายที่ดิน 318 ไร่ที่นิคมอุตสาหกรรมเหมราช อีสเทิร์นซีบอร์ด เฟส 2 ให้แก่ ไทยซัมมิท เมือเดือนพฤษภาคม 2550
บริษัทฯให้เช่าโรงงานสำเร็จรูปจำนวน 5 สัญญา ขายจำนวน 2 สัญญา รวมทั้งสิ้น 7 สัญญา
มูลค่ารวมของสัญญาขายจากโครงการ เดอะพาร์ค ชิดลม มีมูลค่า 4,934 ล้านบาท
บริษัทฯ ได้ซื้อพื้นที่ของตึก UM Tower จำนวน 27,500 ตร.ม. หรือเทียบเท่ากับร้อยละ 75 ของพื้นที่อาคารทั้งหมด ซึ่งตั้งอยู่ติดกับสถานีรถไฟฟ้า Airport Link ที่กำลังก่อสร้างอยู่ และเป็นเส้นทางไปสู่อิสเทิร์นซีบอร์ดของประเทศ
บริษัทฯ ได้จ่ายเงินปันผล 0.04 บาทต่อหุ้นสำหรับผลประกอบการครึ่งปีหลังในปี 2549 ทำให้การจ่ายเงินปันผลในปี 2549 มีจำนวนรวม 0.07 บาทต่อหุ้น
งบดุลรวม สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2550
ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2550 บริษัทฯ ได้แสดงสินทรัพย์รวม จำนวน 13,145 ล้านบาท หนี้สินรวมจำนวน 5,961 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้น จำนวน 7,184 ล้านบาท สำหรับสัดส่วนของหนี้สินสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ 0.75 ต่อ 1 จากการขยายการลงทุน โดยมีเงินสดและเงินฝากเป็นจำนวน 552 ล้านบาท
การลดทุนจดทะเบียนบริษัทฯโดยการลดมูลค่าที่ตราไว้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯได้มีมติอนุมัติการลดทุนจดทะเบียนเดิมจาก 15,000 ล้านบาทให้เป็นจำนวน 6,000 ล้านบาท และทุนจดทะเบียนชำระแล้วจำนวน 9.189.29 ล้านบาทให้เป็นจำนวน 3,675.71 ล้านบาท โดยการลดมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ของบริษัทฯ จากเดิมมูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาทเป็นหุ้นละ 0.4 บาท และแก้ไขเพิ่มเติมหนังสือบริคณห์สนธิข้อ 4 ของบริษัทฯ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นที่จะมีขึ้นในวันที่ 11 กันยายน 2550 และกำหนดวันปิดสมุดพักการโอนหุ้นในวันที่ 29 สิงหาคม 2550 เวลา 12.00 น.
การลดทุนโดยการลดมูลค่าที่ตราไว้เพื่อที่จะล้างบัญชีส่วนต่ำมูลค่าหุ้นเป็นการปฏิบัติตามคำแนะนำของประกาศจากสภาวิชาชีพนักบัญชีฉบับที่8/2550 การลดทุนครั้งนี้มีความจำเป็นเพื่อเป็นการเตรียมพร้อมเพื่อการจ่ายเงินปันผลในอนาคตโดยการล้างบัญชีส่วนต่ำมูลค่าหุ้นอันเกิดจาการออกหุ้นสามัญในอดีต การลดทุนโดยวิธีดังกล่าวไม่มีผลกระทบต่อ จำนวนหุ้นและมูลค่าตามบัญชีต่อหุ้น
เกี่ยวกับบริษัทเหมราชพัฒนาที่ดิน
บริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2531 โดยเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับสากล ประกอบด้วยนิคมอุตสาหกรรมและเขตประกอบการอุตสาหกรรมรวม 6 แห่ง ได้แก่ นิคมอุตสาหกรรม อีสเทิร์นซีบอร์ด (ระยอง) นิคมอุตสาหกรรมเหมราชอีสเทิร์นซีบอร์ด นิคมอุตสาหกรรมเหมราชตะวันออก (มาบตาพุด) นิคมอุตสาหกรรมเหมราชชลบุรี เขตประกอบการอุตสาหกรรมระยองอินดัสเตรียลแลนด์ และเขตประกอบการอุตสาหกรรม เอส ไอ แอล (สระบุรี) โดยมีที่ดินรวมประมาณ 32,000 ไร่ ซึ่งได้พัฒนาให้เป็นศูนย์กลางสำหรับอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ยานยนต์ และอุตสาหกรรมอื่นๆ ปัจจุบันมีลูกค้าประมาณ 348 รายซึ่งเป็นผู้ประกอบการทางด้านยานยนต์กว่า 118 ราย ก่อให้เกิดการจ้างงานในนิคมฯต่างๆของเหมราชพัฒนาที่ดินราว 50,000 คน มีเงินลงทุนรวมของลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรมของบริษัทฯเป็นมูลค่าประมาณ 11,500 ล้านเหรียญสหรัฐ
รายละเอียดเพิ่มเติมของบริษัทเหมราช สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.hemaraj.com
นาย เดวิด ริชาร์ด นาร์โดน นาย เผ่าพิทยา สมุทรกลิน
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ผู้อำนวยการ — นักลงทุนสัมพันธ์ และวางแผน
บมจ. เหมราชพัฒนาที่ดิน บมจ. เหมราชพัฒนาที่ดิน
ชั้น 18 อาคาร ยู เอ็ม เลขที่ 9 ถนน รามคำแหง ชั้น 18 อาคาร ยู เอ็ม เลขที่ 9 ถนน รามคำแหง
สวนหลวง กรุงเทพฯ 10250 ประเทศไทย สวนหลวง กรุงเทพฯ 10250 ประเทศไทย
โทรศัพท์: 662 - 719 - 9555 — 9 โทรศัพท์: 662 - 719 - 9555 - 9
โทรสาร: 662 - 719 - 9546 — 7 โทรสาร: 662 - 719 - 9546 - 7
Email: dnardone@hemaraj.com
Email: paopitayas@hemaraj.com
หรือ ติดต่อสอบถามได้ที่
บริษัท แบรนด์คอม คอนซัลแทนส์ จำกัด โทร. 0-2645-0171
คุณไพลิน บูรณะมิตรานนท์ / คุณเปมิกา วงษ์อัยรา