กรุงเทพฯ--6 มี.ค.--เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น
บมจ.เอสซี แอสเสทฯ รุกแผนพัฒนาโครงการใหม่ "CENTRIC รัชโยธิน" มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท ชูจุดเด่นคอนโดหรูฯสุดยอดทำเลศักยภาพใจกลางรัชโยธิน ตอบโจทย์ ทุกการเดินทางของการใช้ชีวิตแบบไร้ขีดจำกัด สะดวกสบายทุกการอยู่อาศัย เตรียมเปิดพรีเซลล์ วันที่ 10-11 มีนาคม นี้ ที่ เซ็นทริค รัชโยธิน Sales Gallery
บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) โดย นายประยงค์ยุทธ อิทธิรัตน์ชัย รองหัวหน้าคณะผู้บริหารด้านพัฒนาทรัพย์สินแนวสูง เปิดเผยว่า "SC ได้พัฒนาคอนโดฯ ภายใต้แบรนด์ "CENTRIC" โดยได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าอย่างต่อเนื่องจำนวนมากกว่า 10 โครงการ รวมมูลค่าโครงการมากกว่า 18,000 ล้านบาท สิ่งสำคัญนอกจากความสมบูรณ์แบบของโครงการที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น ทั้งด้านการดีไซน์และออกแบบ ยังหมายรวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ พร้อมกับความคุ้มค่าในด้านทำเลที่มีการคมนาคมสะดวกสบาย ดังนั้นโครงการใหม่โครงการแรกของปีนี้จึงเป็นการกลับมาของแบรนด์ "CENTRIC" ที่มั่นใจว่ามีจุดเด่นตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยในทุกมิติ ภายใต้ "โครงการเซ็นทริค รัชโยธิน" (CENTRIC Ratchayothin) : Discover Your Life, Find Your Center .…เมื่อทุกความต้องการหมุนมาบรรจบเพื่อคุณ"
โครงการ"เซ็นทริค รัชโยธิน" (CENTRIC Ratchayothin) เป็นคอนโดฯทำเลใกล้ BTS สถานีรัชโยธินเพียง 150 เมตร ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 2 ไร่ เป็นอาคารสูง 21 ชั้นที่จอดรถ 121 คัน ชั้นพักอาศัยเริ่มที่ชั้น 5-20 พื้นที่ส่วนกลางชั้น Ground, ชั้น 4 และชั้น 21 เพิ่มความเป็นส่วนตัวด้วยจำนวนยูนิตเพียง 261 ยูนิต ขนาดพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 24-55 ตารางเมตร มี 4 แบบให้เลือกคือ แบบแรก Studio พื้นที่ใช้สอย 24และ 26 ตร.ม. , แบบ 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 30 ตร.ม. , แบบ 1 Bedroom Plus ขนาดพื้นที่ใช้สอย 34-39 ตร.ม. พร้อมแบบ 2 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 55 ตร.ม. ซึ่งโครงการนี้เป็นแพ็คเกจ Fully Furnished ราคาขายเฉลี่ย 165,000 บาทต่อ ตร.ม. หรือเริ่มต้น 3.7 ล้านบาท รวมมูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท พร้อมเปิดให้จองที่ โครงการฯ ในวันที่ 10-11 มีนาคม 2561 ที่เซ็นทริค รัชโยธิน Sales Gallery รับสิทธิพิเศษสูงสุด 250,000 บาท*เฉพาะในงาน รายละเอียดเพิ่มเติมโทร 1749 หรือ www.scasset.com
โครงการ "เซ็นทริค รัชโยธิน" (CENTRIC Ratchayothin) ตั้งอยู่ในทำเลใจกลางรัชโยธิน ที่เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในทำเลที่เป็น ศูนย์กลางของการใช้ชีวิตรายล้อมด้วยสถานที่อำนวยความสะดวกมากมาย อาทิ เมเจอร์รัชโยธิน, เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, รพ.เปาโล เกษตร ฯลฯ อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางการเดินทางด้วยเส้นทางที่หลากหลาย ที่ช่วยทำให้ทุกการเดินทางสะดวกมากขึ้น ใกล้ BTS สถานีรัชโยธิน เพียง 150 เมตร สายสีเขียวโดยวิ่งตรงสู่ ใจกลางเมือง สยาม-เพลินจิต-อโศก ได้เลยโดยไม่ต้องเปลี่ยนสาย จากที่ตั้งโครงการเพียง 2 สถานีถึงศูนย์การค้าเซ็นทรัล ลาดพร้าว และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งทำเลของโครงการสามารถเชื่อมต่อรถไฟฟ้าได้ถึง 3 สายทั้งรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-คูคต ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างกำหนดเปิดให้บริการปีเสร็จ 2563 สายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) ที่คาดก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2562 และสายสีน้ำเงินที่เปิดงานอยู่ในปัจจุบัน
และล่าสุด สายสีน้ำตาล แคราย-ลำสาลี (บึงกุ่ม) ซึ่งเป็นการพัฒนาด้วยระบบขนส่งมวลชนหรือรถไฟฟ้าและระบบทางด่วนบนสายทางเดียวกัน ซึ่งที่ประชุมคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) ได้มีมติอนุมัติโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล ช่วงแคราย-ลำสาลี (บึงกุ่ม) เป็นรถไฟฟ้าสาย 11 เข้าสู่แผน M-MAP1แล้วเช่นกัน ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทางแล้ว ยังเพิ่มศักยภาพให้กับโครงการมีมูลค่าเพิ่มมากขึ้นในอนาคต
นอกจากจุดเด่นในเรื่องของทำเลที่ตั้งแล้ว ภายในโครงการ"เซ็นทริค รัชโยธิน" (CENTRIC Ratchayothin) ยังครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก (Facilities) พร้อมด้วยส่วนกลางแบบ Triple Facilities รวมพื้นที่กว่า 1,500 ตร.ม. รองรับกิจกรรมทั้ง Work, Active, Relax โดย ชั้น Ground ประกอบด้วย Grand Lobby , Semi Outdoor Lobby , Smart Mail Room / Smart Locker , Residence Lobby Lounge , Business Lounge & Private Meeting Room
ส่วนที่เป็น Podium ชั้น 4 นั้นประกอบด้วย Triple Volume Co-Working Space (Reading Bar, Co-Working Space, Co-living Space) ที่ใส่ใจทุกรายละเอียดและฟังก์ชั่นการใช้งาน ภายใต้ความร่วมมือกับที่ปรึกษาด้านการออกแบบอย่าง Paper Space : บริษัทที่มีประสบการณ์และชื่อเสียงในเรื่องของการพัฒนาพื้นที่แนว Co-Working Space โดยเฉพาะ ซึ่งมีประสบการณ์ออกแบบให้กับ Google office(Regional Asia) มาเป็นที่ปรึกษาและการออกแบบทั้งในพื้นที่ Co-Working Space และ Business Lounge ให้เป็นพื้นที่ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของ Young entrepreneur พร้อมให้ผู้พักอาศัยได้ผ่อนคลายไปกับ Co-Relaxing Space ที่ประกอบไปด้วย Sensational Garden และ Outdoor-dining Space
สำหรับชั้น 21 Rooftop Facilities ประกอบด้วย infinity edge pool & Jacuzzi และPanoramic Sky Fitness ซึ่งได้แบรนด์คุณภาพอย่าง Life Fitness มาออกแบบพื้นที่ออกกำลัง พร้อมอินเทรนด์ไปกับการออกกำลังกายบน Virtual Class Exercise Room ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์สำหรับผู้ที่รักสุขภาพและชื่นชอบการออกกำลังกาย
เขียนนิยามใหม่ให้ชีวิตใจกลางเมือง เชื่อมต่อทุกความต้องการกับรูปแบบไลฟ์สไตล์ให้เป็นหนึ่งเดียวภายใต้ คอนเซ็ปต์"A Place for your Hybrid Lifestyle" สัมผัสสมดุลของการใช้ชีวิตกับ แนวคิดการอยู่อาศัยแบบ "Hybrid Lifestyle"… ที่นี่ "CENTRIC รัชโยธิน" เป็นอีกโครงการที่มอบความภาคภูมิใจแห่งการอยู่อาศัยที่พร้อมส่งมอบ living solutions ที่มีคุณภาพสูงให้ลูกค้า ออกแบบทุกพื้นที่อย่างใส่ใจในทุกแง่มุมของการใช้ชีวิต ให้เป็นมากกว่าแค่ที่พักอาศัยด้วยพื้นที่ส่วนกลางที่ใช้งานได้หลากหลายตามรูปแบบความต้องการที่แตกต่างกัน รองรับชีวิตเมืองที่ผสมผสานวันทำงานและวันพักผ่อนให้ลงตัว มีความเป็นส่วนตัวด้วยยูนิตที่ไม่มากเพียง 261 ยูนิต ออกแบบโปร่งโล่งด้วยห้องเพดานสูงถึง 3 เมตร
นอกจากนี้เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตผู้อยู่อาศัย ได้ผสมผสาน Rue Jai Living Solutions ด้วยแอพพลิเคชั่นซึ่งถูกออกแบบและพัฒนาขึ้นมาโดยความร่วมมือกับ strategic partners ได้แก่ Fireoneone และ AIS เพื่ออำนวยความสะดวกและความปลอดภัยแก่ผู้พักอาศัย เช่น ควบคุมการเปิด/ปิดระบบแสงสว่าง แอร์ฯ ภายในห้องพัก, ระบบ Motion Sensor นอกจากนี้ยังรวมถึง Smart security & Access control ระบบมาตรฐานการรักษาความปลอดภัย และ Living Solutions ต่างๆ Smart mail room และ Smart Locker ตู้รับฝากของอัจฉริยะ ที่เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกแก่ลูกบ้านให้สามารถรับพัสดุได้ตลอด 24 ชม. โดยเฉพาะผู้ที่ชอบการสั่งของออนไลน์ พร้อมมีร้านกาแฟ Lifestyle อย่าง The Box cafe now in the box ที่จะเข้ามาให้บริการในโครงการ ตลอดจนความร่วมมือกับ GRAB และ Instawash แอพพลิเคชั่นการล้างรถมิติใหม่ คลิกเดียวจบตามตำแหน่งที่ลูกค้าต้องการ
นายประยงค์ยุทธ กล่าวในตอนท้ายว่า " ด้วยศักยภาพของทำเลที่ตั้ง รวมถึงความโดดเด่นของการออกแบบ products & services และ living solutions ที่ได้เลือกสรรมาโดยเฉพาะ บริษัทฯ มั่นใจว่าในการเปิดจองพรีเซลล์ โครงการ"CENTRIC รัชโยธิน" จะเป็นอีกหนึ่งโครงการไฮไลท์ที่ได้รับความสำเร็จและจะสนับสนุนให้บริษัทฯ บรรลุเป้าหมายยอดขายในปี 2561 ที่ตั้งเป้าไว้ที่ 17,000 ล้านบาท เติบโตประมาณ 11% จากปีก่อน "