กรุงเทพฯ--10 ต.ค.--คต.
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ร่างพระราชบัญญัติมาตรการปกป้องการนำเข้าที่เพิ่มขึ้น (Safeguard) ได้ผ่านการพิจารณาจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติครบ 3 วาระในวันที่ 3 ตุลาคม 2550 และจะมีผลบังคับใช้เมื่อพ้นกำหนด 90 วัน นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา กรมการค้าต่างประเทศ(คต.) จึงได้เตรียมการเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับพระราชบัญญัติดังกล่าว ซึ่งเป็นเครื่องมือในการกำหนดมาตรการปกป้องให้กับอุตสาหกรรมภายใน เพื่อลดผลกระทบที่เกิดจากการทะลักเข้าของสินค้า กรณีที่มีเหตุการณ์ที่ไม่อาจคาดการณ์ล่วงหน้า และเพื่อให้อุตสาหกรรมภายในมีระยะเวลาในการปรับตัวให้สามารถแข่งขันกับสินค้านำเข้าได้
มาตรการปกป้องจากการนำเข้าสินค้าที่เพิ่มขึ้น หรือ Safeguards เป็นมาตรการฉุกเฉิน ที่องค์การการค้าโลกอนุญาตให้ประเทศสมาชิกใช้ปกป้องอุตสาหกรรมภายในที่ได้รับความเสียหายจากการทะลักเข้าของสินค้าที่มีการลดภาษีจากการเปิดเสรีทางการค้าตามข้อผูกพันภายใต้องค์การการค้าโลก และความตกลงเขตการค้าเสรี โดยการเรียกเก็บอากรขาเข้าเพิ่มขึ้นจากอากรปกติ หรืออาจจำกัดปริมาณนำเข้า ทั้งนี้การใช้มาตรการ จะดำเนินการโดยคณะกรรมการพิจารณามาตรการปกป้อง ซึ่งประกอบด้วยผู้แทนภาครัฐที่เกี่ยวข้อง และผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านต่าง ๆ ที่ครม. แต่งตั้ง
อธิบดีได้กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมการค้าต่างประเทศจะจัดการสัมมนาเพื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับพระราชบัญญัติดังกล่าวระหว่างเดือนพฤศจิกายน — ธันวาคม ศกนี้ โดยจะเชิญผู้เกี่ยวข้องและผู้สนใจเข้ารับฟังการบรรยาย จากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ ทั้งนี้ผู้สนใจสามารถศึกษารายละเอียดของพระราชบัญญัติ ได้จาก website กรมการค้าต่างประเทศ www.dft.go.th และสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักมาตรการปกป้องและตอบโต้ทางการค้า กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ โทร 0-2547-4738-40 0-2547-5080-3 หรือ e-mail : butrade@moc.go.th