กรุงเทพฯ--8 มี.ค.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานมีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากวาตภัยรวม 12 จังหวัด 19 อำเภอ 31 ตำบล 56 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ รวม 406 หลัง ซึ่ง ปภ.ได้ร่วมกับหน่วยทหาร จังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจความเสียหาย แจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค และอุปกรณ์ซ่อมแซมบ้านเรือน รวมถึงให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ โดยด่วนแล้ว พร้อมประสานให้จังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลาง เตรียมพร้อมรับมือพายุพายุฤดูร้อนในช่วงวันที่ 8 - 10 มีนาคม 2561 โดยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศเฝ้าระวังสถานการณ์ภัย อีกทั้งเตรียมเครื่องมือและวัสดุอุปกรณ์ให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างทันท่วงที
นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ช่วงวันที่ 5 – 8 มีนาคม 2561 มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากวาตภัย รวม 12 จังหวัด 19 อำเภอ 31 ตำบล 56 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ รวม 406 หลัง แยกเป็น ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 7 จังหวัด ได้แก่ศรีสะเกษ เกิดวาตภัยในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอโนนคูณ และอำเภอวังหิน รวม 4 ตำบล 12 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 114 หลัง อำนาจเจริญ เกิดวาตภัยในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองอำนาจเจริญ อำเภอปทุมราชวงศา และอำเภอพนา รวม 4ตำบล 12 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 91 หลัง สุรินทร์ เกิดวาตภัยในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอโนนนารายณ์ อำเภอเขวาสินรินทร์ อำเภอสังขละ อำเภอกาบเชิง และอำเภอปราสาท รวม 20 ตำบล 36 หมู่บ้าน บ้านเรือนได้รับผลกระทบรวม 121 หลังอุบลราชธานี เกิดวาตภัยในอำเภอตระการพืชผลรวม 2 ตำบล 2 หมู่บ้าน บ้านเรือนได้รับผลกระทบ 10 หลัง ขอนแก่น เกิดวาตภัยในอำเภอแวงน้อย รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน บ้านเรือนได้รับผลกระทบ 5 หลัง บุรีรัมย์ เกิดวาตภัยในอำเภอกระสัง รวม 1 ตำบล บ้านเรือนได้รับผลกระทบ 6 หลัง ร้อยเอ็ด เกิดวาตภัยในอำเภอหนองฮี รวม 1 ตำบล บ้านเรือนได้รับผลกระทบ 9 หลัง ภาคกลาง 2 จังหวัด ได้แก่ลพบุรี เกิดวาตภัยในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอชัยบาดาล และอำเภอพัฒนิคม รวม 3 ตำบล 3 หมู่บ้าน บ้านเรือนได้รับผลกระทบ 12 หลัง ปทุมธานี เกิดวาตภัยในอำเภอธัญบุรี รวม 1 ตำบล บ้านเรือนได้รับผลกระทบ 10 หลัง ภาคตะวันออก 1 จังหวัดได้แก่ ปราจีนบุรี เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอบ้านสร้าง รวม 2 ตำบล 3 หมู่บ้าน บ้านเรือนได้รับผลกระทบ 14 หลัง ภาคใต้ 1 จังหวัด ได้แก่ ภูเก็ต เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอถลาง รวม 1 ตำบล 3 หมู่บ้าน บ้านเรือนได้รับผลกระทบ 14 หลัง ภาคเหนือ 1 จังหวัด ได้แก่ เพชรบูรณ์ เกิดวาตภัยในอำเภอหล่มสัก รวม 3 ตำบล บ้านเรือนได้รับผลกระทบ150 หลัง ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัด หน่วยทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้น โดยแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค กระเบื้องมุงหลังคา และวัสดุอุปกรณ์ซ่อมแซมบ้านเรือนแก่ผู้ประสบภัยโดยด่วนแล้ว รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่สำรวจ ประเมินและจัดทำบัญชีข้อมูลความเสียหายเพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ทั้งการชดเชยความเสียหายของบ้านเรือนเป็นวัสดุก่อสร้าง หรือจ่ายเงินช่วยเหลือตามความเหมาะสม อย่างไรก็ตามจากการติดตามสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ในช่วงวันที่ 8 – 10 มีนาคม 2561 ประเทศไทยจะเกิดพายุฤดูร้อน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางพื้นที่ ครอบคลุมภาคเหนือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก รวมถึงกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ปภ.จึงได้ประสานจังหวัดศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัย จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศและเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิด อีกทั้งจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างทันท่วงที ตลอดจนแจ้งเตือนประชาชนให้ติดตามพยากรณ์อากาศ ระมัดระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง อยู่ให้ห่างจากต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณาและสิ่งก่อสร้างที่ไม่แข็งแรงในช่วงที่เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ท้ายนี้ ประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากวาตภัยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป