กรุงเทพฯ--8 มี.ค.--บลจ.บัวหลวง
ยอดจองซื้อกองทุนน้องใหม่ "B-CHINE-EQ" ล้นหลามทะลุกว่า 3,200 ล้านบาท เปิดช่องให้นักลงทุนที่ต้องการ "ลงทุนจีนทั้งแผ่นดิน" ได้ลุยก่อนใคร
นายพีรพงศ์ จิระเสวีจินดา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด (กองทุนบัวหลวง) เปิดเผยว่า ยอดปิดจองซื้อช่วงเสนอขายครั้งแรก หรือ IPO ของกองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นจีน (B-CHINE-EQ) ที่มีเข้ามาอย่างล้นหลาม เพียง 6 วันทำการ (27 ก.พ.- 7 มี.ค. 2561) พบว่า มียอดจองซื้อต่อเนื่องมากกว่า 3,200 ล้านบาท
"ยอดจองซื้อที่มีเข้ามาเกินความคาดหมายในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในแนวทางบริหารงานของกองทุนบัวหลวง ขณะเดียวกันความสำเร็จในครั้งนี้มาจากความมุ่งมั่นตั้งใจ และทุ่มเทอย่างเต็มที่ของเครือข่ายสาขาธนาคารกรุงเทพทุกสาขาทั่วประเทศ รวมถึงผู้สนับสนุนการขายหรือรับซื้อคืนทุกแห่ง และทุกๆ ฝ่ายงานที่เกี่ยวข้อง" นายพีรพงศ์ กล่าว
นายพีรพงศ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า นักลงทุนเองก็มีเข้าใจถึงความเสี่ยงในการลงทุนหุ้นบริษัทจีนเป็นอย่างดี และที่สำคัญ พวกเขามองเห็นโอกาสการลงทุนในหุ้นจีน จากการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจใหม่ที่เน้นการบริโภคภายในและการเจริญเติบโตแบบมีคุณภาพ
เศรษฐกิจของประเทศจีนยังคงเติบโตอย่างมีเสถียรภาพมากกว่า 6% ต่อปีในอีกหลายปีข้างหน้า ประกอบกับจีนมีขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่เทียบเท่า 15% ของเศรษฐกิจโลก มีตลาดภายในที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วยประชากรมากกว่า 1,300 ล้านคน และมีชนชั้นกลางและครอบครัวชาวจีนทีมีความมั่งคั่งและอำนาจซื้อเพิ่มขึ้น ทำให้ตลาดผู้บริโภคจีนมีอัตราเจริญเติบโตด้วยตัวเลข 2 หลัก และกลายเป็นเครื่องยนต์ที่สำคัญที่สุดในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจจีน
นายพีรพงศ์ กล่าวต่อไปว่า การพัฒนานวัตกรรมและไอทีอย่างต่อเนื่อง เพื่อผลักดันให้จีนก้าวข้ามรอยต่อจากเศรษฐกิจเก่า (Old Economy) ไปสู่เศรษฐกิจใหม่ (New Economy) ทำให้จีนกลายเป็นประเทศที่ไม่เป็นรองชาติใดๆ ในเรื่องของการพัฒนาเทคโนโลยีของอนาคต ไม่ว่าจะเป็น ปัญญาประดิษฐ์ หรือ เอไอ อี-คอมเมิร์ซ รถยนต์พลังงานไฟฟ้า เซมิคอนดัคเตอร์ สมาร์ทโฟน และระบบโทรคมนาคม 5G เป็นต้น
นอกจากนี้ ภาพของการลงทุนในจีนในสายตานักลงทุนต่างชาติได้เปลี่ยนไปจากเดิม หลังจากที่รัฐบาลจีนได้สร้างระบบ Stock Connect ในช่วงปลายปี 2017 ที่ผ่านมา เพื่อเปิดโอกาสให้นักลงทุนต่างชาติสามารถลงทุนในตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้และเซินเจิ้นของจีน และตลาดฮั่งเส็งของฮ่องกงได้อย่างสะดวก ด้วยระบบการทำธุรกรรมที่เชื่อมโยงกัน จึงไม่แปลกที่กองทุนระดับโลกต่างๆ หันมาให้ความสนใจลงทุนในหุ้นของบริษัทจีนมากยิ่งขึ้น โดยที่มาร์เก็ตแค็ปโดยรวมของหุ้นบริษัทจีนมีขนาดใหญ่กว่า 12 ล้านล้านดอลลาร์
"ตลาดหุ้นจีนมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก แต่ที่ผ่านมาความสนใจในตลาดหุ้นจีนยังอยู่ในระดับต่ำ สวนทางกับผลประกอบการ ทั้งยอดขายและกำไรของบริษัทจีนที่ขยายตัวได้ดี ขณะที่ราคาหุ้นโดยรวมยังถือว่าถูกอยู่ กองทุนบัวหลวงมองเห็นโอกาสนี้ ซึ่ง B-CHINE-EQ จะเป็นกองทุนที่ช่วยตอบโจทย์การลงทุนในหุ้นจีนได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญเป็นทางเลือกใหม่ที่เปิดโอกาสให้นักลงทุนได้ลงทุนในหุ้นบริษัทจีนในจีนแผ่นดินใหญ่ ทั้งในตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ และตลาดหุ้นเซินเจิ้นได้เต็มที่ เพิ่มเติมจากหุ้นบริษัทจีนในตลาดฮ่องกง ตลาดสหรัฐและตลาดอื่นๆ อีกด้วย"
ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลรายละเอียดกองทุน B-CHINE-EQ ได้ที่ กองทุนบัวหลวง โทร. 0 2674 6488 กด 8 ซึ่งกองทุนดังกล่าว จะเปิดเสนอขายอีกครั้ง ตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม 2561 เป็นต้นไป ผ่านตัวแทนขายต่างๆ ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ตัวแทนขายของกรุงเทพประกันชีวิต บมจ.หลักทรัพย์ บัวหลวง บมจ.หลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน บมจ.หลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) และบมจ.หลักทรัพย์ ภัทร
ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจ ลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน
ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
การป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนขึ้นกับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน