กรุงเทพฯ--12 มี.ค.--เอ็ม ที มัลติมีเดีย
บมจ.เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ (JWD) ผู้นำธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์อย่างครบวงจรในภูมิภาคอาเซียน (Total Logistics Solutions Provider) ส่งซิกภาพรวมการดำเนินงาน 2 เดือนแรกของปีนี้เติบโตได้ตามเป้าหมายทุกกลุ่ม ทั้งธุรกิจรับฝากและบริหารยานยนต์ ขนส่งสินค้า ห้องเย็น คลังสินค้าอันตราย และธุรกิจในต่างประเทศ ประกาศลงทุนสร้างห้องเย็นที่มหาชัยเพิ่มอีก 1 อาคาร และปรับปรุงห้องเย็นที่บางนาเพิ่มเติม รวมถึงติดตั้งชั้นวางสินค้าเพิ่มเติมในศูนย์กระจายสินค้าเคมีภัณฑ์รับดีมานด์ที่ขยายตัว ขณะที่ธุรกิจให้บริการขนส่งสินค้าด่วนจะเพิ่มฟลีทรถอีก 40 คัน รับแผนขยายงาน
นายชวนินทร์ บัณฑิตกฤษดา ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JWD ผู้นำธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์อย่างครบวงจรในภูมิภาคอาเซียน (Total Logistics Solutions Provider) เปิดเผยว่า ภาพรวมการดำเนินงาน 2 เดือนแรกที่ผ่านมา (ม.ค.-ก.พ. 2561) อยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจทุกธุรกิจและมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่องจากไตรมาส 4/60 โดยได้รับผลดีจากการรุกขยายฐานลูกค้า เพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ ตลอดจนความต้องการใช้บริการด้านโลจิสติกส์ที่เพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของเศรษฐกิจ
โดยธุรกิจรับฝากและบริหารยานยนต์ที่มีปริมาณงานเพิ่มขึ้นทั้งจากลูกค้ารายเดิมและได้รับงานจากลูกค้ารายใหม่เพิ่มเติม รวมถึงการร่วมทุนกับกลุ่มสยามกลการอุตสาหกรรม อีกทั้งได้รับอานิสงส์จากภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ที่มีแนวโน้มเติบโตได้ดี สะท้อนจากผู้ผลิตยานยนต์ที่ตั้งเป้าผลิตรถเพิ่มขึ้นทุกราย ขณะที่ธุรกิจขนส่งสินค้ามีการขยายตัวได้ดีทั้งการรับขนส่งสินค้าในประเทศและขนส่งสินค้าข้ามแดน ธุรกิจห้องเย็นมีอัตราการใช้พื้นที่ใกล้เต็มความจุกว่า 5.7 หมื่นตารางเมตร ธุรกิจคลังสินอันตรายได้รับอานิสงส์จากปริมาณตู้คอนเทนเนอร์สินค้าอันตรายที่ผ่านเข้า-ออกท่าเรือแหลมฉบังเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากปีก่อน และธุรกิจคลังสินค้าในต่างประเทศ ได้แก่ สปป.ลาว เมียนมา กัมพูชาที่คลังห้องเย็นมีความต้องการสูงและอัตราการใช้พื้นที่เกือบเต็มประมาณ 80-90% และธุรกิจห้องเย็นในประเทศอินโดนีเซียที่ร่วมทุนกับ Samudera เข้าซื้อกิจการเมื่อปลายปีที่ผ่านมา
ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JWD กล่าวว่า จากภาพรวมธุรกิจที่เติบโตได้ดี บริษัทฯ จึงเตรียมลงทุนก่อสร้างห้องเย็นที่มหาชัยเพิ่มขึ้นอีก 1อาคาร (อาคาร 8) มีพื้นที่เก็บสินค้า 4,300 ตารางเมตร ซึ่งจะเป็นห้องเย็นแห่งแรกในมหาชัยที่นำเทคโนโลยีโรบ็อท (ASRS) ที่มีความทันสมัยจากประเทศญี่ปุ่นเข้ามาใช้งานเพื่อเพิ่มความรวดเร็วในการบริหารจัดการสินค้าและทดแทนการใช้แรงงานบางส่วน โดยแผนงานดังกล่าวจะใช้งบลงทุนประมาณ 350 ล้านบาท เตรียมลงมือก่อสร้างต้นปีนี้และคาดว่าจะแล้วเสร็จช่วงต้นปี 2562 ขณะเดียวกัน เตรียมปรับปรุงอาคารคลังสินค้าทั่วไปในย่านบางนาให้เป็นห้องเย็น มีพื้นที่ประมาณ 6,000 ตารางเมตร เพื่อรองรับความต้องการเก็บสินค้าแช่แข็งที่เพิ่มขึ้น
ขณะที่การดำเนินธุรกิจศูนย์กระจายสินค้าเคมีภัณฑ์ หรือ JWD Chemical Supply Chain (JCS) ภายในเขตพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี มีพื้นที่ 4,700 ตารางเมตร เพื่อให้บริการจัดเก็บสินค้าเคมีภัณฑ์และบริการเสริมอื่น ๆ เช่น บรรจุหีบห่อ คัดแยกสินค้า ก็มีการดำเนินงานที่น่าพอใจในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้เช่นเดียวกัน ปัจจุบันอยู่ระหว่างการติดตั้งชั้นวางสินค้า (Racking) เพิ่มเติม ซึ่งจะเพิ่มความจุสินค้าขึ้นอีกกว่า 1.5 เท่า คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในไตรมาสแรกนี้ หลังจากที่ไตรมาส 4/60 ศูนย์ JCS มีอัตราการใช้พื้นที่เฉลี่ยถึง 84% ส่วนธุรกิจให้บริการขนส่งสินค้าด่วน (JWD Express) ได้รุกขยายการให้บริการแก่ลูกค้าที่เป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ เพื่อดำเนินการจัดส่งสินค้าถึงมือผู้รับปลายทาง จึงมีแผนเพิ่มฟลีทรถขนส่งประเภทต่าง ๆ อาทิ รถขนส่ง รถขนส่งด่วนพิเศษ รถห้องเย็น อีกประมาณ 40 คัน รวมเป็น 361 คันในปีนี้ เพื่อเพิ่มศักยภาพการให้บริการรองรับการขยายฐานลูกค้า