กรุงเทพฯ--12 มี.ค.--
พิ้งค์กี้-สาวิกา ไชยเดช รับเทียบเชิญ "บางกอกบิซิเนสออนไลน์" โดดลุยธุรกิจตู้เติมเงิน ชำระบิลครบวงจร ชูคอนเซ็ปต์ "ลงทุนน้อย กำไรนาน" เชื่อตอบโจทย์คนไทย สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ...
น.ส.วีรสุรางค์ ศศิอานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอกบิซิเนส ออนไลน์ จำกัด หรือ BBO ให้บริการด้านระบบเติมเงินผ่านตู้ให้บริการอัตโนมัติ (ตู้เติมเงิน) และตัวแทนรับชำระค่าบริการต่างๆ ผ่านระบบออนไลน์ กล่าวว่า ได้เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 200 ล้านบาท เพื่อขยายการลงทุน และตอบสนองนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ของภาครัฐ โดยล่าสุดได้ดึง พิ้งค์กี้ - สาวิกา ไชยเดช เป็นหุ้นส่วนในการเปิดตัวผู้ให้บริการระบบเติมเงิน ชำระเงินครบวงจร รองรับระบบรับชำระเงินด้วย ธนบัตร- เหรียญ รวมถึงคิวอาร์โค้ด และระบบพร้อมเพย์ โดยชูคอนเซ็ปต์ " ลงทุนน้อย กำไรนาน" เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและช่วยสร้างรายได้เสริมให้กับชุมชน
สำหรับโปรดักส์ตู้เติมเงิน ชำระบิล System By BBO มี 2 แบบ โดยแบบที่ 1 มีจำนวนจำกัด ซึ่งมีขนาดหน้าจอ 15 นิ้ว ระบบทัชสกรีน, รองรับเหรียญและธนบัตร รวมถึงคิวอาร์โค้ด ส่วนแบบที่ 2 ตู้ BB Dragon 5G ดีไซน์ญี่ปุ่น หน้าจอสัมพัส ขนาดใหญ่ 10.1 นิ้ว รองรับธนบัตร และระบบพร้อมเพย์ ด้วยคิวอาร์โค้ด มีบริการที่หลากหลาย อาทิ บริการเติมเงิน ชำระบิล ค่าน้ำ ค่าไฟ และบิลอื่นๆ โดยในอนาคตจะมีบริการอื่นๆ เพิ่มขึ้น ทั้งบริการโอนเงินธนาคาร เติมเงินทางด่วนอีซีพาส จองตั๋ว รวมถึงซื้อสินค้าออนไลน์
ส่วนโปรดักส์ที่ 2 "Center top up" ซึ่งเป็นระบบเคาน์เตอร์เซอร์วิส ให้บริการแบบออนไลน์ เชื่อต่อระบบโดยตรงกับผู้ให้บริการ ทั้งการชำระค่าสาธารณูปโภค, สินเชื่อต่างๆ ประกันภัย, ประกันชีวิต รวมถึงสถานบันการเงินต่างๆ ที่พร้อมจะเปิดให้บริการ
ขณะที่โปรดักส์ที่ 3 "Appication ilove PAY" ซึ่งได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในปีที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้ใช้บริการในยุค 4.0 กับการใช้แอปพลิเคชั่น ซึ่งมีครบทุกบริการ ทั้งยังเป็นช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าสำหรับผู้ซื้อกับผู้ขาย
โปรดักส์ที่ 4 แบรนด์ Jane's me ฉีกแนวธุรกิจ สร้างแบรนด์ เครื่องสำอางค และอาหารเสริม ซึ่งได้ลงทุนซื้อ license จากประเทศเกาหลี มาหลายผลิตภัณฑ์ โดยเริ่มจากประเภทใช้ภายนอก อาทิเช่น เซรั่มน้ำนม , สบู่น้ำมันม้า , เจลเชอรี่ ครีมรองพื้นผสมกันแดด เป็นต้น รวมถึง ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ที่ช่วย เรื่องสุขภาพผิว และการควบคุมน้ำหนัก อีกด้วย โดยเริ่มต้น ลงทุนในแบรนด์ ไปแล้ว 20 ล้านบาท
ส่วนการดึงพิ้งค์กี้-สาวิกา มาร่วมหุ้นธุรกิจ โดยเป็นหนึ่งในผู้บริหารในส่วนของประชาสัมพันธ์ ซึ่งมีไอเดียใหม่ๆ รวมทั้งพลังและไฟในการทำงาน เชื่อว่าจะช่วยชูแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักและพาธุรกิจให้ก้าวหน้า
ด้านพิ้งค์กี้-สาวิกา กล่าวว่า ขณะนี้หันมาให้ความสำคัญในการทำธุรกิจของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการให้เช่าสตูดิโอถ่ายภาพ หรือธุรกิจด้านความงาม ที่เข้ามาเป็นหุ้นส่วน ซึ่งจะทำกำไรกลายเป็นธุรกิจหลัก โดยตนเองสนใจเรื่องแอปพลิเคชั่นใหม่ๆ หรือธุรกิจใหม่ๆ ที่ตอบสนองนโยบายของรัฐบาล และมีความจำเป็นต่อคนไทย จึงอยากจะเข้ามาเรียนรู้ในตรงนี้ และได้รู้ว่าช่วยให้คนไทยสะดวกสบายมากขึ้น ประหยัดเงินและเวลา รวมทั้งยังสร้างรายได้ให้กับคนไทยได้เป็นกอบเป็นกำ เชื่อว่าจะสามารถตอบโจทย์คนไทยได้เป็นอย่างดี...
บริษัท บางกอกบิซิเนส ออนไลน์ จำกัด
http://www.bangkokbusinessonline.com/
http://www.janesme.com/