กรุงเทพฯ--12 มี.ค.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส
สภาวะตลาดวันที่ 12 มีนาคม 2561 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,320.90-1,324.13 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,650 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาทรงตัวจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,650บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFJ18 อยู่ที่ 19,730 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 20 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,710 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.20 น. ของวันที่ 12/03/61)
แนวโน้มวันที่ 13 มีนาคม 2561
ความไม่แน่ชัดเกี่ยวกับกระบวนการยกเว้นภาษีการนำเข้าเหล็กกล้าและอะลูมิเนียมของสหรัฐ ยังคงเป็นสิ่งที่นักลงทุนจับตาความคืบหน้า เพื่อใช้เป็นปัจจัยชี้นำราคาทองคำ ขณะที่สหภาพยุโรป (EU) ต้องได้รับการประกาศยกเว้นจากมาตรการภาษีดังกล่าว แต่ยังไม่มีรายละเอียดชัดเจนเกี่ยวกับกระบวนการยกเว้นภาษีจากสหรัฐ ดังนั้น การหารือจะดำเนินต่อในสัปดาห์นี้ ขณะที่รัฐบาลจีนได้ออกมาแสดงจุดยืนต่อต้านนโยบายเก็บภาษีสินค้านำเข้าประเภทเหล็กและอลูมิเนียมของสหรัฐอย่างรุนแรง พร้อมระบุว่านโยบายดังกล่าวเป็นการละเมิดกฎระเบียบการค้าสากล นอกจากนี้ นักลงทุนรอดูการเปิดเผยข้อมูลดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) สะท้อนเงินเฟ้อด้านต้นทุนการผลิต และ ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (CPI) สะท้อนเงินเฟ้อด้านการบริโภค ประจำเดือน เดือน ก.พ. เพื่อใช้ประกอบคาดการณ์การดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะประชุมกันครั้งหน้าในวันที่ 20-21 มี.ค. นี้ โดยสัญญาล่วงหน้าที่เกี่ยวข้องกับอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟด ได้ปรับลดลง โดยเทรดเดอร์ยังเชื่อว่ามีโอกาสเพียง 25% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายครั้งที่ 4 ในปีนี้ ทั้งนี้ ประเด็นที่ วารสารวอลล์สตรีท เจอร์นัลเผยแพร่รายงานที่ระบุว่าทนายความของปธน.ทรัมป์เตรียมใช้บทสัมภาษณ์กับปธน.ทรัมป์เพื่อยุติการไต่สวนเรื่องรัสเซียกรณีแทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐปี 2559 ของนายโรเบิร์ต มูเอลเลอร์ ที่ปรึกษาพิเศษสหรัฐ ซึ่งแนวโน้มคดีดังกล่าวที่คลี่คลายลง ส่งผลให้ทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยขาดปัจจัยหนุน ซึ่งนักลงทุนยังคงติดตามความคืบหน้าเช่นกัน สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในช่วงเวลานี้ต้องเน้นไปที่การเก็งกำไรระยะสั้น ในขณะที่หากต้องการเข้าซื้อทองคำให้รอจังหวะการอ่อนตัวลงมาบริเวณ 1,313-1,302 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่สำหรับนักลงทุนรับคามเสี่ยงได้น้อยอาจรอดูการตั้งฐานของราคาโดยหากสามารถรับความเสี่ยงได้มาก อาจซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงมาบริเวณ 1,313 ดอลลาร์ต่อออนซ์ พร้อมทั้งมีจุดตัดขาดทุนให้ชัดเจน
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีมีมุมมองว่า นักลงทุนสามารถรอจังหวะเข้าซื้อหากราคาย่อตัวลงมาและไม่หลุดแนวรับ 1,313 หรือ 1,302 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวบริเวณแนวต้าน 1,329-1,341 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาหลุดแนวรับ 1,302 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพื่อรอซื้อในบริเวณ 1,291 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากหลุดบริเวณนี้จำเป็นต้องชะลการเข้าซื้อออกไป สำหรับนักลงทุนที่มีทองคำในมือ แนะนำให้ปิดสถานะทำกำไรหากราคาดีดตัวขึ้นหรือบริเวณแนวต้าน 1,329 หรือ 1,341 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,313 (19,400บาท) 1,302 (19,250บาท) 1,291 (19,100บาท)
แนวต้าน 1,329 (19,700บาท) 1,341 (19,850บาท) 1,352 (20,050บาท)
GOLD FUTURES (GFJ18)
แนวรับ 1,313 (19,590บาท) 1,302 (19,430บาท) 1,291 (19,260บาท)
แนวต้าน 1,329 (19,830บาท) 1,341 (20,010บาท) 1,352 (20,180บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999