กรุงเทพฯ--13 มี.ค.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส
สภาวะตลาดวันที่ 13 มีนาคม 2561 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,317.10-1,325.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,550 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,600 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFJ18 อยู่ที่ 19,630 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 60 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,690 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.29 น. ของวันที่ 13/03/61)
แนวโน้มวันที่ 14 มีนาคม 2561
สหภาพยุโรป (EU) อยู่ระหว่างขอสิทธิ์ในการยกเว้นภาษีนำเข้าเหล็กกล้า 25% และอะลูมิเนียม 10% ของสหรัฐ แต่ สหรัฐไม่ได้ให้ความชัดเจนเกี่ยวกับการดำเนินงานในกระบวนการขอยกเว้นภาษีดังกล่าว ขณะที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ว่า สหรัฐพร้อมจะระงับภาษีหาก EU ลดภาษีอัน "น่ากลัว" ต่อผลิตภัณฑ์สหรัฐ ประเด็นสงครามการค้าถูกใช้เป็นปัจจัยชี้นำราคาทองคำ อย่างไรก็ดียังไม่มีความชัดเจนจากประเด็นดังกล่าวจึงทำให้ราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบ ทั้งนี้นายโรเบอร์โต อาเซเวโด ผู้อำนวยการองค์การการค้าโลก (WTO) กล่าวเตือนว่า สหรัฐอาจจะจุดชนวนให้เกิดการตอบโต้จากประเทศอื่นๆและนำไปสู่ผลลัพธ์รุนแรง ซึ่งกระบวนการตอบโต้จะจุดชนวนให้เกิดสงครามการค้าโดยไม่มีฝ่ายใดได้ประโยชน์และเรียกร้องให้ร่วมกันดำเนินการในลักษณะพหุภาคีแทนการแยกดำเนินการแบบทวิภาคี ทั้งนี้ทองคำได้รับแรงหนุนจากสหรัฐเผชิญภาวะขาดดุลงบประมาณเพิ่มขึ้น หลังจากการผ่านกฎหมายลดภาษีของคณะบริหารภายใต้การนำของปธน.ทรัมป์ และขณะนี้ปัญหาดังกล่าวชัดเจนมากขึ้น เมื่อกระทรวงการคลังสหรัฐรายงานยอดขาดดุลงบประมาณในเดือนก.พ.ปีนี้อยู่ที่ระดับ 2.15 แสนล้านดอลลาร์ ปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับยอดขาดดุลงบประมาณที่ 1.92 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนก.พ.ของปีที่ผ่านมา โดยรายรับรวมเดือนก.พ.ปี 2561 อยู่ที่ 1.56 แสนล้านดอลลาร์ ลดลง 9% จากเดือนก.พ. ปี 2560 ขณะที่รายจ่ายอยู่ที่ 3.71 แสนล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 2% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันในปีก่อน โดยคาดว่ายอดขาดดุลรายปีอาจจะอยู่ที่ 1 ล้านล้านดอลลาร์ในอนาคต สำหรับมุมมองของวายแอลจีที่มีต่อราคาทองคำนั้น ประเมินว่าหากราคาทองคำขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,329-1,341 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากไม่สามารถผ่านไปได้จะทำให้ราคาเกิดการอ่อนตัวลง แต่หากการอ่อนตัวของราคาทองคำยังคงสามารถยืนเหนือโซนบริเวณ 1,313-1,302 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ราคาทองคำยังมีโอกาสทดสอบแนวต้าน ซึ่งการแกว่งตัวของราคาถือเป็นโอกาสเข้าซื้อขายเก็งกำไร
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีให้ลงทุนระยะสั้น โดยรอซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงไปบริเวณแนวรับที่ 1,313 หรือ 1,302 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้น โดยราคาทองคำมีลักษณะการแกว่งตัวในระยะสั้นเพื่อสะสมกำลังแบบ Sideway โดยมีการทรงตัวรักษาระดับไว้ น่าจะพอทำให้ในระยะสั้นนี้ราคาจะเคลื่อนไหวในกรอบ โดยหากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านได้อย่างแข็งแกร่ง นักลงทุนยังต้องระมัดระวังแรงขายทางเทคนิคและนักลงทุนควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาหลุดบริเวณแนวรับ เพื่อลดความเสียหายของพอร์ทการลงทุน ในขณะที่นักลงทุนที่มีทองคำในมือ ให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวหรือไม่ผ่านบริเวณแนวต้าน 1,329 หรือ 1,341 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แล้วรอไปซื้อคืนบริเวณแนวรับสำคัญ
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,313 (19,400บาท) 1,302 (19,200บาท) 1,291 (19,050บาท)
แนวต้าน 1,329 (19,650บาท) 1,341 (19,850บาท) 1,352 (20,000บาท)
GOLD FUTURES (GFJ18)
แนวรับ 1,313 (19,540บาท) 1,302 (19,380บาท) 1,291 (19,220บาท)
แนวต้าน 1,329 (19,790บาท) 1,341 (19,970บาท) 1,352 (20,130บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999