กรุงเทพฯ--14 มี.ค.--กลุ่มประชาสัมพันธ์ กระทรวงวัฒนธรรม
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) กล่าวว่า วธ.ได้จัดกิจกรรมเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกรุงรัตนโกสินทร์และพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ไทย "ในโครงการใต้ร่มพระบารมี 236 ปี กรุงรัตนโกสินทร์ โดยมีผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) และ ครูจากโรงเรียนในกรุงเทพฯกว่า 100 แห่ง ร่วมกิจกรรม ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร เนื่องจาก วธ. มีนโยบายและยุทธศาสตร์ในการส่งเสริมการเทิดทูนสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รวมทั้งการอนุรักษ์ พัฒนาและสืบสานมรดกทางศิลปะและวัฒนธรรม ตลอดจนการพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการจัดการศึกษาเฉพาะด้านศิลปวัฒนธรรมและส่งเสริมการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ชาติไทยและประวัติศาสตร์ท้องถิ่น
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา วธ.จัดโครงการอบรมความรู้ด้านประวัติศาสตร์และศิลปวัฒนธรรมไทยให้แก่ครูในโรงเรียนทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด เพื่อนำความรู้ไปถ่ายทอดแก่นักเรียนให้มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องดังกล่าวมากยิ่งขึ้น รวมทั้งสนับสนุนให้ครูพานักเรียนไปทัศนศึกษาในอุทยานประวัติศาสตร์ต่างๆ อาทิ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา เพื่อจะได้เรียนรู้ ซึมซับและมีความภาคภูมิใจในความเป็นไทย ทั้งนี้กิจกรรมนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ"ใต้ร่มพระบารมี 236 ปี กรุงรัตนโกสินทร์" ซึ่งวธ.จะจัดงานขึ้นในเดือนเมษายนนี้ ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร และสถานที่ต่างๆ รอบเกาะรัตนโกสินทร์ โดยมุ่งสร้างความรู้ความเข้าใจให้แก่ครูจากโรงเรียนต่างๆเกี่ยวกับเรื่องราวความเป็นมาของกรุงรัตนโกสินทร์และพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ไทย รวมทั้งนำชมวัง โบราณสถานและโบราณวัตถุภายในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร เพื่อนำความรู้ไปสอนนักเรียน ปลูกฝังให้เกิดจิตสำนึกความเป็นไทยและความภาคภูมิใจในมรดกทางวัฒนธรรมของชาติ รวมถึงมีความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์แห่งพระบรมราชวงศ์จักรี
นายวีระ กล่าวอีกว่า นับเป็นความโชคดีของคนไทยที่มีสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจของคนไทยตั้งแต่สมัยสุโขทัย อยุธยามาจนถึงสมัยรัตนโกสินทร์ พระมหากษัตริย์ไทยทรงมีคุณูปการในการสร้างชาติและพัฒนาประเทศไทยให้มีความเป็นปึกแผ่นมั่นคง การสร้างสรรค์ศิลปะและวิทยาการสาขาต่างๆ การติดต่อสัมพันธ์กับนานาประเทศ ตลอดจนการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา รวมทั้งการฟื้นฟูส่งเสริมจารีตประเพณีและศิลปวัฒนธรรมอันงดงามของชาติมาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน ทำให้เกิดการสืบทอดมาถึงปัจจุบัน อาทิ พระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ พระราชพิธีเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐินโดยกระบวนพยุหยาตราทางชลมารค พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระมหากษัตริย์ เป็นต้น โดยเฉพาะด้านสถาปัตยกรรมพระมหากษัตริย์ไทยในทุกยุคทุกสมัย ทรงมีพระราชดำริให้สร้างขึ้นทั้งพระบรมมหาราชวัง วัง วัดและโบราณสถานต่างๆล้วนเป็นมรดกทางสถาปัตยกรรมที่สง่างามและล้ำค่าของชาติ รวมทั้งทรงให้เผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมไทยด้านสถาปัตยกรรมไปสู่ประเทศต่างๆ อาทิ การสร้างศาลาไทยในต่างประเทศ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับนานาประเทศ
อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ได้เกิดรูปแบบของสถาปัตยกรรมไทยที่มีความหลากหลาย เนื่องจากการรับอารยธรรมจากนานาประเทศ มีทั้งสถาปัตยกรรมไทยแบบดั้งเดิม แบบผสมผสานระหว่างไทยกับตะวันตกและแบบสมัยใหม่ ทำให้กรุงเทพมหานครเป็นหนึ่งในเมืองหลวงที่มีความเป็นเอกลักษณ์และความโดดเด่นในการผสมผสานระหว่างความเป็นเมืองเก่าและเมืองใหม่ได้อย่างลงตัว ทำให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่มีชื่อเสียงระดับโลก แต่ละปีมีชาวต่างชาติเข้ามาเที่ยวชมมากมาย ช่วยสร้างรายได้ให้แก่ประเทศไทยจำนวนมาก