กรุงเทพฯ--14 มี.ค.--โซกู๊ด คอนซัลติ้ง
ต่อยอดโครงการด้านดนตรี 'MUSIC POWER' เปิดเวทีให้เยาวชนไทยได้แสดงความสามารถด้านดนตรี พร้อมยกระดับทักษะ และศักยภาพด้านดนตรีของเยาวชนไทยสู่ระดับสากล
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ภายใต้โครงการ คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย ร่วมกับวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) 'โครงการประกวดดุริยางค์เครื่องเป่านานาชาติแห่งประเทศไทย' ประจำปี 2561 โดยมีนายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ลงนามร่วมกับ ดร.ณรงค์ ปรางค์เจริญ คณบดีวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล โดยมี รศ. ดร. สุกรี เจริญสุข ที่ปรึกษาโครงการแข่งขันดุริยางค์เครื่องเป่าแห่งประเทศไทย ผู้บริหารกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ อาจารย์ ศิษย์เก่า และศิษย์ปัจจุบันวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล คณะกรรมการจัดการประกวด และแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วม ณ ห้องอีเทอร์นิตี้ โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพ
นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เปิดเผยว่า คิง เพาเวอร์ มุ่งมั่นดำเนินโครงการเพื่อสังคม ภายใต้แนวคิด KING POWER THAI POWER พลังคนไทย เพื่อสร้างสรรค์สิ่งดีมีประโยชน์ให้กับสังคมไทยผ่านการสร้างและส่งผ่านพลังความดีให้กับคนในสังคมทุกระดับ โดยเฉพาะ 'เยาวชน' ซึ่งถือเป็นกำลังสำคัญในการช่วยกันพัฒนาขับเคลื่อนประเทศไทยให้เจริญก้าวหน้าในอนาคต โดยโครงการนี้ ประกอบด้วย 4 ด้านหลัก ได้แก่ 1) ด้านกีฬา Sport Power 2) ด้านดนตรี Music Power 3) ด้านชุมชน Community Power และ 4) ด้านสุขภาพ และการศึกษา Health & Education Power อันนำไปสู่การดำเนินโครงการเพื่อสังคมตั้งแต่ระดับบุคคล ชุมชน ประเทศชาติ ไปจนถึงระดับสากล
ประเทศไทยมีนักดนตรีมากความสามารถมากมายที่มีศักยภาพระดับนานาชาติ จึงเกิดแนวคิดต่อยอดโครงการด้านดนตรี โดยได้รับความร่วมมือจาก วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ในการจัดโครงการแข่งขันวงดุริยางค์เครื่องเป่านานาชาติแห่งประเทศไทย ประจำปี 2561 หรือ Thailand International Wind Symphony Competition 2018 (TIWSC 2018) เพื่อเป็นเวทีให้เยาวชนไทย ตลอดจนคนไทยได้แสดงความสามารถด้านดนตรีอย่างแท้จริง
ที่ผ่านมา มีคนไทยทั้งเยาวชนที่เป็นเด็กเล็ก นักเรียนนักศึกษาระดับมหาวิทยาลัยที่มีความสามารถไปแข่งขันในต่างประเทศและคว้ารางวัลกลับมาได้ในหลายรายการ สะท้อนให้เห็นถึงความพร้อม และความสามารถด้านดนตรีของคนไทย ซึ่งตรงกับแนวคิดของกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ที่ให้ความสำคัญในการสืบสานศิลปะทางดนตรีมาอย่างยาวนาน จึงมุ่งสนับสนุนให้คนไทย และเยาวชนไทยได้มีเวทีระดับโลกในการโชว์ศักยภาพจึงเป็นที่มาในการจัดการแข่งขันในครั้งนี้ นายอัยยวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติม
ดร.ณรงค์ ปรางค์เจริญ คณบดีวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล มีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมพิธีลงนามบันทึกบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ร่วมกับกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ กว่า 30 ปีที่วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ ซึ่งเป็นสถาบันการดนตรีสมบูรณ์แบบแห่งแรกของประเทศไทย ที่เปิดสอนครอบคลุมตั้งแต่ระดับเตรียมอุดมศึกษา ระดับปริญญาตรี ระดับปริญญาโท จนกระทั่งถึงระดับปริญญาเอกในหลายๆ แขนงวิชาดนตรี ด้วยปณิธานมุ่งมั่นที่จะให้เป็นแหล่งผลิตนักเรียน นักศึกษา นักดนตรีที่มีคุณภาพมาตรฐานระดับสากล มีการพัฒนาหลักสูตรอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาศิลปะทางดนตรีให้คงอยู่อย่างยั่งยืนเสมอไป
ภายในงานจัดมินิคอนเสิร์ตสุดพิเศษจากศิลปินศิษย์เก่า พัดชา AF, โบกี้ ไลอ้อน The Voice, ชามุก Stage Fight เบน The Voice 6 อาจารย์ประจำวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ (BRASS ENSEMBLE VERSION) และแขกรับเชิญพิเศษ "โป๊ป ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ"
สำหรับการแข่งขัน TIWSC 2018 แบ่งงเป็น รอบคัดเลือก คัดเลือกจากผลงานที่ส่งเข้ามาแข่งขัน ไลฟ์สดการคัดเลือกผ่านเฟสบุ๊ค วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ หรือ เฟสบุ๊ค King Power Thai Power พลังคนไทย เมื่อวันที่ 13 – 14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา 16 กุมภาพันธ์ประกาศผลผู้ที่ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ โดยสามารถติดตามการแข่งขันรอบรองชนะเลิศ ในวันที่ 19 - 22 มีนาคมนี้ และรอบชิงชนะเลิศในวันที่ 24 มีนาคม ณ มหิดลสิทธาคาร มหาวิทยาลัยมหิดล
ทั้งนี้ วงที่ได้รับรางวัลชนะเลิศจะได้แสดงคอนเสิร์ตในวันที่ 25 มีนาคม 2561 ณ โรงละครอักษรา คิง เพาเวอร์ เวลา 16.00-18.00 น.ต่อไป โดยการสนับสนุนจากกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์.