กรุงเทพฯ--18 ต.ค.--ปภ.
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แนะตรวจสอบสภาพรถทุกครั้งก่อนออกเดินทาง ขณะขับขี่หลีกเลี่ยงการสลับเปลี่ยนช่องทางกะทันหัน หากรถลื่นไถล ห้ามเหยียบเบรกจนรถหยุดหมุนทันทีเพราะจะทำให้รถพลิกคว่ำได้
นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า ช่วงนี้มีฝนตกชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ ซึ่งจะเป็นอุปสรรคต่อการขับรถขณะฝนตก เนื่องจากสภาพถนนเปียกลื่น ทัศนวิสัยในการมองเห็นทางไม่ชัดเจน เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุมากขึ้น เพื่อเพิ่มความปลอดภัย ผู้ขับขี่ควรตรวจความพร้อมของสภาพรถทุกครั้งก่อนใช้งาน ตรวจสอบระบบปัดน้ำฝน ให้อยู่ในสภาพดี ขณะปัดต้องตั้งฉากกับกระจกได้ตลอดและเมื่อปัดไปปัดมาต้องไม่มีรอยขูดรีดของร่องน้ำ ควรจัดเตรียมผ้าแห้งไว้เช็ดฝ้าภายในรถเพราะเมื่อฝนตกหนักๆ อาจจะมีละอองน้ำเป็นฝ้าจับที่กระจกภายในรถ ทำให้มองเห็นไม่ชัดเจน ตรวจสอบระบบไฟ ตรวจสอบความสว่างของสัญญาณไฟหน้าและไฟเบรก รวมทั้งตรวจสอบผ้าเบรคว่าพร้อมสำหรับการขับขี่ในสภาพพื้นถนนที่เปียกลื่นหรือไม่ หากเบรกแล้วปัด ควรจัดการเปลี่ยนใหม่เพราะหากเกิดเหตุฉุกเฉิน อาจทำให้ไม่สามารถหยุดรถได้ทัน
ส่วนยางรถยนต์ในช่วงหน้าฝนควรเลือกใช้ดอกยากละเอียด และเพิ่มแรงดันลมให้มากกว่าปกติ 2-3 ปอนด์/ตารางนิ้ว เพื่อให้หน้ายางแข็งซึ่งจะช่วยให้ประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนและการรีดน้ำได้ดีขึ้น สำหรับการขับขี่ในขณะฝนตก ผู้ขับขี่ควรเปิดไฟหน้า — หลังรถ และเปิดด้วยไฟต่ำ เพื่อให้ผู้ขับขี่คันอื่นสังเกตเห็นรถของเราได้ชัดเจนมากขึ้น ปรับลดความเร็วลงให้น้อยกว่าสภาพถนนแห้งปกติให้สอดคล้องกับระยะสายตาที่มองเห็นไปข้างหน้า ไม่ขับชิดคันหน้าจนเกินไป ทิ้งระยะห่างจากการขับในสภาพปกติ 10-15 เมตร การขับขี่ที่ช้าลงดอกยางสามารถสัมผัสถนนได้มากขึ้น ทำให้การเกาะถนนดีขึ้นและป้องกันรถลื่นไถล หลีกเลี่ยงการสลับช่องทางหรือหากสลับช่องทางให้ดูรถรอบด้าน ให้สัญญาณไฟเลี้ยวประมาณ 3-4 ครั้ง เพื่อให้รถคันที่ตามมาข้างหลังทราบและก่อนสลับช่องทางให้มองกระจกข้างป้องกันไม่ให้เกิดการชนกับรถคันอื่นขณะเปลี่ยนช่องทาง เปิดใบปัดน้ำฝนโดยปรับระดับความเร็วของใบปัดน้ำฝนให้สัมพันธ์กับความแรงของปริมาณฝนที่ตกลงมากระทบกับกระจกหน้ารถ ะประการสำคัญ ถ้าในขณะขับขี่แล้วรถเกิดการลื่นไถล ห้ามเหยียบเบรกจนล้อหยุดหมุนในทันที เพราะจะทำให้รถพลิกคว่ำได้ ให้แก้ไขโดยถอนคันเร่ง ควบคุมพวงมาลัยให้มั่นคงแล้วพยายามลดความเร็วโดยใช้เกียร์ต่ำจนกว่าจะทรงตัวได้ แล้วจึงค่อยเหยียบเบรกเพื่อหยุดรถ
ที่สำคัญ การเรียนรู้เทคนิควิธีการขับขี่รถอย่างปลอดภัยขณะฝนตก ก็จะเพิ่มความระมัดระวังของผู้ขับขี่และช่วยป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุรุนแรงถึงขั้นได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตได้