กรุงเทพฯ--16 มี.ค.--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
สศท.11 ระบุ จังหวัดอุบลราชธานี มีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการส่งเสริมการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ฤดูแล้ง ปีการผลิต 2560/61 รวมกว่า 3,500 ราย พื้นที่ 22,000 ไร่ โดยพื้นที่ปลูกเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว ร้อยละ 83 ขณะนี้อยู่ในช่วงออกผล คาด ผลผลิตจะออกสู่ตลาดปลายเดือนเมษายนนี้ พร้อมเกาะติดสถานการณ์การผลิตต่อเนื่องหลังเสร็จสิ้นโครงการ
นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงการดำเนินโครงการส่งเสริมการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ฤดูแล้ง ปีการผลิต 2560/61 ของจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งโครงการดังกล่าว มีกรมส่งเสริมการเกษตรเป็นหน่วยงานหลัก มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ให้เพียงพอกับความต้องการ เกษตรกรมีรายได้เพิ่มจากการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ รุ่น 2 ทดแทนการปลูกข้าวนาปรัง ระยะเวลาดำเนินการตุลาคม 2560 – เมษายน 2561 รวม 31 จังหวัดทั่วประเทศ พื้นที่ 0.7 ล้านไร่ เกษตรกร 47,800 ราย ในเขตชลประทานหรือใกล้แหล่งน้ำ ดำเนินการโดยคณะกรรมการบริหารโครงการส่งเสริมการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หลังนา บูรณาการความช่วยเหลือร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่ทั้งภาครัฐและเอกชน ในการกำกับ ดูแล ตรวจสอบ และให้คำแนะนำแก้ไขปัญหาแก่เกษตรกร
สำหรับจังหวัดอุบลราชธานี ดำเนินโครงการในพื้นที่ 16 อำเภอ มีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการฯ กว่า 3,500 ราย พื้นที่เป้าหมาย 22,000 ไร่ โดยปีนี้พบว่า พื้นที่ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เพิ่มจากปีที่แล้ว ร้อยละ 83 ซึ่งจังหวัดอุบลราชธานีได้มีการประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรเข้าใจ ในโครงการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หลังนา รวมทั้งแสดงผลสำเร็จของการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในพื้นที่เพื่อเป็นข้อมูลให้เกษตรกรตัดสินใจปรับเปลี่ยนพื้นที่การปลูกข้าวนาปรัง
ด้านนายไพฑูรย์ สีลาพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 11 (สศท.11) กล่าวเสริมว่า จากการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์การผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ รุ่น 2 ในจังหวัดอุบลราชธานี ขณะนี้อยู่ในช่วงออกผลและฝักเริ่มแก่ โดยผลผลิตจะออกสู่ตลาดปลายเดือนเมษายนนี้ คาดว่าผลผลิตเฉลี่ยประมาณ 759 กก./ไร่ (ณ ความชื้น 14.5%)
ทั้งนี้ เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการฯ จะสามารถได้รับผลตอบแทน (กำไร) จากการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ไม่น้อยกว่าไร่ละ 1,000 บาท หรือได้กำไรมากกว่าการปลูกข้าวรอบ 2 ไม่น้อยกว่าไร่ละ 500 บาท และในส่วนของช่องทางการตลาด เกษตรกรยังมีการทำ MOU กับภาคเอกชน บริษัท ก้าวหน้าอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ จำกัด ในราคาประกันเริ่มต้น 8 บาท/กก. แต่ทั้งนี้ ขึ้นกับราคาตลาดในปัจจุบันด้วยเช่นกัน ซึ่ง สศท.11 จะดำเนินการติดตามสถานการณ์การผลิตอีกครั้งภายหลังการดำเนินโครงการเสร็จสิ้นและรายงานให้ทราบในระยะต่อไป