กรุงเทพฯ--16 มี.ค.--IR PLUS
XO ใส่เกียร์เดินหน้ารุกตลาดซอสส่งออก มองแนวโน้มปี 61 สดใส ตั้งเป้ารายได้โต 10% จากความต้องการในตลาดต่างประเทศ ขณะที่ต้นทุนวัตถุดิบมีแนวโน้มลดลง ควบคู่กับความพยายามในการบริหารจัดการต้นทุน หนุนกำไรสุทธิปีนี้โตกว่าปีก่อนได้ "จิตติพร จันทรัช" เอ็มดี เผย เริ่มเดินเครื่องกำลังการผลิตในโรงงานแห่งใหม่แล้ว รองรับออเดอร์ลูกค้า จัดทัพพนักงานเตรียมรุกตลาดส่งออก จากปัจจุบันมีสัดส่วน 99.8% ของยอดขายทั้งหมด ส่วนปี 60 มีรายได้จากการขายอยู่ที่ 945.05 ล้านบาท กำไรสุทธิ 59.03 ล้านบาท บอร์ดไฟเขียวจ่ายปันผลหุ้นละ 0.08 บาท กำหนดจ่าย 18 พ.ค. นี้
นายจิตติพร จันทรัช กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็กโซติค ฟู้ด จำกัด (มหาชน) หรือ XO เปิดเผยถึงแผนธุรกิจในปี 2561 คาดว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานจะเติบโตกว่าปีที่ผ่านมา ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 10% และกำไรสุทธิเติบโตกว่าปีก่อน จากภาพรวมตลาดซอสปรุงรส น้ำจิ้ม และเครื่องประกอบอาหารไทยยังคงได้รับความนิยมในตลาดต่างประเทศ เป็นโอกาสของบริษัทฯ ในการขยายตลาดและมีความต้องการซื้อสินค้าเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมียอดขายจากการส่งออกราว 99.8% และมีสินค้ากลุ่มซอสปรุงรสและน้ำจิ้มเป็นรายได้หลักของบริษัทฯ มีสัดส่วนประมาณ 71.86% ของรายได้ทั้งหมด
สำหรับโรงงานแห่งใหม่แห่งที่ 2 ตั้งอยู่ในนิคมอมตะซิตี้ จ.ระยอง สามารถเดินเครื่องผลิตได้เต็มประสิทธิภาพแล้ว สนับสนุนกำลังการผลิตสินค้ากลุ่มซอสปรุงรสและน้ำจิ้มให้เพิ่มขึ้นกว่าเดิมอีกเท่าตัว และจะเป็นกุญแจสำคัญในการผลักดันให้ยอดขายเติบโตในอนาคต
"ปีนี้เชื่อว่าภาพรวมธุรกิจ XO จะเติบโตขึ้นตามทิศทางออเดอร์ที่ทยอยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และราคาวัตถุดิบที่ปรับลดลงในปีนี้ส่งผลดีต่อบริษัทฯ ประกอบกับหลังโรงงานใหม่แล้วเสร็จ จะสนับสนุนให้บริษัทฯ มีกำลังการผลิตซอสปรุงรส และน้ำจิ้มต่าง ๆ เพิ่มขึ้นจากเดิมอีกเท่าตัว ทำให้สามารถจัดส่งสินค้าได้รวดเร็วกว่าโรงงานเก่า ตอบรับความต้องการของลูกค้าได้ทันท่วงที และออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ตอบสนองความต้องการลูกค้าได้อย่างครบถ้วน นอกจากนี้ มุ่งหาช่องทางการจัดจำหน่ายที่หลากหลาย ออกงานแสดงสินค้าเพื่อตอกย้ำแบรนด์ และขยายฐานลูกค้าเพิ่ม เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนยอดขายให้เติบโตขึ้นได้อย่างแข็งแกร่ง" นายจิตติพร กล่าว
สำหรับผลประกอบการงวดปี 2560 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายอยู่ที่ 945.05 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 66.86 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 7.61% จากงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายสินค้าในกลุ่มซอสปรุงรสและน้ำจิ้มต่าง ๆ โดยมีกำไรสุทธิ 59.03 ล้านบาท ลดลง 23.8% จากงวดเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการบริหาร จากการย้ายไปยังโรงงานแห่งใหม่ และการลดลงของรายได้อื่น ๆ ได้แก่ รายได้จากการขายสินทรัพย์ และกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ อีกทั้งรายได้จากผลิตภัณฑ์กลุ่มเครื่องดื่มที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากในปี 2559 มีออเดอร์กลุ่มเครื่องดื่มพิเศษเข้ามาค่อนข้างมาก และมียอดขายเป็นสกุลเงิน ยูโร 6.6% สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ 32.7% และสกุลเงินบาท 60.7% เป็นผลจากความพยายามลดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน โดยให้ลูกค้าเปลี่ยนยอดขายจากสกุลเงินยูโรเป็นเงินบาทให้ได้มากที่สุด
นอกจากนี้เพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้นที่ให้การสนับสนุน ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลหุ้นละ 0.08 บาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท กำหนดวันที่จ่ายปันผล 18 พฤษภาคม 2561