กรุงเทพฯ--20 มี.ค.--สำนักงาน กปร.
ด้วยพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ที่ทรงอุทิศพระองค์ในการบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการด้วยพระวิริยะ อุตสาหะในการทรงงานอย่างมิรู้จักเหน็ดเหนื่อย
"เศรษฐกิจพอเพียง" เป็นแนวพระราชดำริที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงพระราชทานเพื่อเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาความยากจนของประชาชนเพื่อให้รอดพ้นและสามารถดำรงอยู่ได้ภายใต้กระแสโลกาภิวัตน์และความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ทำให้ประชาชนและชุมชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและสามารถพึ่งตนเองได้ อันนำไปสู่ความสมดุลของชีวิต เศรษฐกิจ และสังคม ซึ่งเป็นแนวทางการพัฒนาสู่ความยั่งยืนอย่างแท้จริง กอปรกับพระราชปณิธานอันแน่วแน่ของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการที่จะสืบสาน รักษา และต่อยอดตามแนวทางพระราชดำริ "เศรษฐกิจพอเพียง" ในการบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้แก่ประชาชน และพัฒนาประเทศชาติให้มีความมั่นคงและเจริญก้าวหน้า โดยคำนึงถึงความอยู่ดีมีสุขของประชาชนเป็นสำคัญ
สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย กองทัพเรือ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
กรมประชาสัมพันธ์ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สถาบันการศึกษา และภาคเอกชน น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ และได้น้อมนำแนวพระราชดำริหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มาต่อยอดเป็นโครงการ "เยาวชนอาเซียนเรียนรู้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงตามรอยพระยุคลบาท" เพื่อสร้างการรับรู้และเผยแพร่พระเกียรติคุณให้เป็นที่ประจักษ์สู่นานาประเทศ ซึ่งหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมีความสอดคล้องและเชื่อมโยงกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ของการพัฒนาระดับนานาชาติ โดยองค์การสหประชาชาติเพื่อโลกอนาคตซึ่งโครงการ "เยาวชนอาเซียนเรียนรู้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงตามรอยพระยุคลบาท" จัดขึ้นครั้งนี้เป็นรุ่นที่ 2 ระหว่างวันที่ 11 – 20 มีนาคม 2561 โดยเปิดโอกาสให้เยาวชนจากประเทศสมาชิกอาเซียน ประกอบด้วย บรูไนดารุสซาลาม อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม กัมพูชา ลาว เมียนมา สิงคโปร์ และไทย ประเทศละ6 คน และผู้แทนเยาวชนจากประเทศที่ได้น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปประยุกต์ใช้ จำนวน 2 ประเทศ ได้แก่ ราชอาณาจักรภูฏาน และสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา ประเทศละ 5 คน รวมเป็น 12 ประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 70 คน เดินทางมาเรียนรู้เกี่ยวกับการดำเนินงานตามแนวพระราชดำริ พระบรมราโชวาท ทฤษฎี รวมถึงหลักคุณธรรมที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ทรงใช้ในการทรงงานและการปฏิบัติพระราชกรณียกิจต่าง ๆ เพื่อยกระดับความเป็นอยู่และความผาสุกของประชาชนชาวไทยทั้งแผ่นดิน โดยเยาวชนอาเซียนจะเดินทางไปศึกษาเรียนรู้และฝึกปฏิบัติในพื้นที่จริงของโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในจังหวัดปทุมธานี อ่างทอง ราชบุรี สระบุรี สมุทรปราการ นครปฐม และกรุงเทพมหานคร
และเมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2561 ที่ผ่านมา เยาวชนอาเซียนได้เดินทางไปศึกษาดูงานในพื้นที่โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริจังหวัดอ่างทอง ประกอบด้วย การเรียนรู้ด้านการแก้ไขปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ราบลุ่ม และการบริหารจัดการน้ำตามแนวพระราชดำริ ณ โครงการพัฒนาพื้นที่แก้มลิงหนองเจ็ดเส้นฯ อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง โครงการฟาร์มตัวอย่างตามแนวพระราชดำริ อำเภอแสวงหา จังหวัดอ่างทอง และศึกษาดูงานภายในศูนย์ศิลปาชีพสีบัวทอง อาทิ แผนกฝึกอาชีพปักผ้า งานปักดิ้นไหมทอง แผนกฝึกอาชีพเครื่องปั้นดินเผา การฟังบรรยายงานทอผ้าและงานทำกระดาษข่อย นอกจากนี้ ยังได้เยี่ยมชมกิจกรรมด้านการเกษตรทฤษฎีใหม่ (บ้านสวนอยู่สุข) โดยเกษตรกรที่ได้น้อมนำแนวพระราชดำริหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมา และการเกษตรทฤษฎีใหม่มาใช้ในการประกอบอาชีพ จนประสบความสำเร็จ
โครงการ "เยาวชนอาเซียนเรียนรู้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงตามรอยพระยุคลบาท" เป็นโอกาสอันดีที่เยาวชนในภูมิภาคอาเซียนได้มีโอกาสพบปะพูดคุย แลกเปลี่ยนเรียนรู้แนวความคิด ประสบการณ์ และวัฒนธรรมระหว่างกันในภูมิภาค ซึ่งการอยู่ร่วมกัน และการทำกิจกรรมร่วมกันตลอด 10 วัน จะก่อให้เกิดความสามัคคีและมิตรภาพที่แน่นแฟ้นระหว่างกัน อันนำมาซึ่งความเข้าใจและสัมพันธไมตรีอันดี รวมทั้งได้รับองค์ความรู้เกี่ยวกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริที่ได้รับจากการเรียนรู้ศึกษาดูงาน ไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนาตนเอง ครอบครัว และสังคม เพื่อเสริมสร้างความเจริญก้าวหน้าให้แก่ประเทศชาติของตน และเพื่อให้ภูมิภาคอาเซียนมีการพัฒนาอย่างเข้มแข็งและอย่างยั่งยืนร่วมกันตลอดไป