กรุงเทพฯ--20 มี.ค.--บลจ.กสิกรไทย
นายวิทวัส อัจฉริยวนิช รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ. กสิกรไทย) เปิดเผยว่า บลจ.กสิกรไทย เตรียมจ่ายเงินปันผลกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ รวม 2 กองทุน สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม – 31 ธันวาคม 2560 ซึ่งประกอบด้วยกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เคพีเอ็น (KPNPF) โดยจะจ่ายปันผลในอัตรา 0.1150 บาทต่อหน่วย และกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ไลฟ์ไตล์ (MJLF) ในอัตรา 0.2200 บาทต่อหน่วย โดยทั้ง 2 กองทุนดังกล่าวจะจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีรายชื่ออยู่ในสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุนในวันที่ 9 มีนาคม 2560 และมีกำหนดจ่ายเงินปันผลพร้อมกันในวันที่ 22 มีนาคม 2560 รวมมูลค่าเงินปันผลทั้งสิ้นกว่า 93.30 ล้านบาท
พร้อมกันนี้ ยังได้มีการลดทุนจดทะเบียนรวม 2 กองทุน ได้แก่ กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์โรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา (CTARAF) ครั้งที่ 6 ในอัตรา 0.0500 บาทต่อหน่วย คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 16 ล้านบาท ทั้งนี้การลดทุนดังกล่าวน้อยกว่าในรอบที่ผ่านๆมา เนื่องจากกองทุนรวมสำรองเงินไว้ส่วนหนึ่งสำหรับการจดทะเบียนสิทธิการเช่า และกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์โกลด์ (GOLDPF) ครั้งที่ 3 ในอัตรา 0.1650 บาทต่อหน่วย คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 33.99 ล้านบาท โดยทั้ง 2 กองทุน จะจ่ายเงินลดทุนให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีรายชื่ออยู่ในสมุดทะเบียน ณ เวลา 8.00 น. ของวันที่ 9 มีนาคม 2561 โดยกองทุนมีกำหนดจ่ายเงินลดทุนดังกล่าวในวันที่ 22 มีนาคม 2561 นี้
นายวิทวัสกล่าวต่อไปว่า กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เคพีเอ็น (KPNPF) มีนโยบายลงทุนในกรรมสิทธิที่ดิน อาคารสำนักงาน และระบบสาธารณูปโภคของอาคารเคพีเอ็น ทาวเวอร์ บนถนนพระราม 9 ซึ่งผลการดำเนินงานในปี 2560 ที่ผ่านมา จัดว่าอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ จากปริมาณความต้องการพื้นที่เช่าที่ยังคงอยู่ในระดับสูง อัตราค่าเช่าอยู่ในระดับที่ไม่สูงมาก รวมทั้งรถไฟฟ้าสายสีส้มที่อยู่ในระหว่างการก่อสร้างและคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2565 จะเป็นจุดเด่นและข้อดีที่ทำให้มีความมั่นใจว่าจะสามารถหาผู้เช่าเพิ่มเติม และปรับอัตราค่าเช่าเพิ่มขึ้นได้ในอนาคต ซึ่งจะส่งผลให้กองทุนรวม KPNPF ได้รับผลตอบแทนในอัตราที่สูงขึ้นได้ โดยในปี 2560 ที่ผ่านมา อาคารเคพีเอ็น ทาวเวอร์ มีการปรับอัตราการเก็บค่าเช่าพื้นที่ขึ้นประมาณ 4% ตั้งแต่จัดตั้งกองทุนมามีการจ่ายปันผลแล้วรวม 19 ครั้ง รวมเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 2.509 บาทต่อหน่วย หรือคิดเป็นอัตราการจ่ายปันผลเฉลี่ยตั้งแต่จัดตั้งกองทุนที่ 5.35% ต่อปี
ด้านกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ไลฟ์สไตล์ (MJLF) มีนโยบายลงทุนในสิทธิการเช่าอาคารโครงการเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รังสิต, เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน และซูซูกิ อเวนิว รัชโยธิน ซึ่งผลการดำเนินงานในปี 2560 ที่ผ่านมา จัดว่าอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ ทั้งนี้ตั้งแต่จัดตั้งกองทุนมามีการจ่ายปันผลแล้วรวม 42 ครั้ง รวมเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 10.0280 บาทต่อหน่วย หรือคิดเป็นอัตราการจ่ายปันผลเฉลี่ยตั้งแต่จัดตั้งกองทุนที่ 9.52% ต่อปี สำหรับโครงการทั้ง 3 แห่ง มีลักษณะเป็นอาคารไลฟ์สไตล์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ คอมเพล็กซ์ ที่มีการจำหน่ายสินค้าและเป็นศูนย์รวมความบันเทิงหลากหลายรูปแบบ อาทิ โรงภาพยนตร์และโบว์ลิ่ง รวมถึงศูนย์ออกกำลังกาย ร้านอาหารและเครื่องดื่ม จึงทำให้โครงการมีกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน ส่งผลให้อัตราการเช่าพื้นที่เฉลี่ยรวมอยู่ในระดับใกล้เคียงกับปีก่อนหน้า ประกอบกับแผนประมาณการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือ หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต จะแล้วเสร็จในช่วงปี 2563 ส่งผลให้โครงการเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน และซูซูกิ อเวนิว รัชโยธิน มีแนวโน้มการปรับตัวของอัตราการเช่าพื้นที่และอัตราค่าเช่าพื้นที่โดยเฉลี่ยสูงขึ้น
กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ทั้ง 4 กองทุน จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ดังนั้นสำหรับผู้ลงทุนที่สนใจลงทุนในกองทุน KPNPF กองทุน MJLF กองทุน CTARAF และกองทุน GOLDPF สามารถซื้อขายผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยหรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ KAsset Contact Center 02673 3888 หรือที่ www.kasikornasset.com
ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงของกองทุน KPNPF กองทุน MJLF กองทุน CTARAF และกองทุน GOLDPF ได้ที่ www.kasikornasset.com หรือ บลจ.กสิกรไทยหรือธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา หรือขอข้อมูลดังกล่าวจากบุคคลที่เสนอขายกองทุน ก่อนตัดสินใจลงทุน
กองทุน รอบผลการดำเนินงาน อัตราเงินปันผล (บาท/หน่วย)
KPNPF 1ตุลาคม –31ธันวาคม2560 0.1150
MJLF 1ตุลาคม –31ธันวาคม2560 0.2200
กองทุน เงินลดทุน (บาท/หน่วย)
CTARAF 0.0500
GOLDPF 0.1650