สสส.-สธ.เตือน ! ภัย อาหารใช้น้ำมันทอดซ้ำ เสี่ยงมะเร็ง ระบุ ปาท่องโก๋ เมนูสุดเสี่ยง

ข่าวทั่วไป Wednesday October 10, 2007 17:04 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--10 ต.ค.--สสส.
คนไทยน่าเป็นห่วง บริโภคอาหารที่ประกอบจากน้ำมันทอดซ้ำโดยไม่รู้ตัว สสส.เตือนถึงเวลาแล้วที่ผู้บริโภคต้องดูแลตัวเอง
ที่สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) แถลง “น้ำมันทอดซ้ำอันตราย อาจตายเพราะมะเร็ง” อาจารย์สง่า ดามาพงษ์ โฆษกกระทรวงสาธารณสุข/ผู้จัดการแผนงานโภชนาการเชิงรุก กล่าวว่า ประเทศไทยมีกฎหมายห้ามจำหน่ายน้ำมันทอดซ้ำแก่ร้านอาหารหรือผู้ปรุงอาหารอื่น ๆ เพื่อนำไปทอดต่อโดยเด็ดขาด หากกระทำฝ่าฝืนถือว่ามีความผิดฐานจำหน่ายอาหารผิดมาตราฐาน มีโทษปรับไม่เกิน 50,000 บาทสำหรับผู้ขายอาหารทอดต่าง ๆ ไม่ควรใช้น้ำมันทอดซ้ำหลาย ๆ ครั้งเพราะเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค ผู้บริโภคเองควรเลือกซื้ออาหารทอดจากพ่อค้าแม่ค้าที่ทอดด้วยน้ำมันใหม่ ๆ สีเหลืองใส หากน้ำมันมีสีดำ ผู้บริโภคไม่ควรซื้อมารับประทานโดยเด็ดขาด
น้ำมันที่ผ่านการทอดซ้ำหลาย ๆ ครั้งจะมีคุณสมบัติที่เสื่อมลง ทั้งสี กลิ่น รสชาติและมีความหนืดมากขึ้น ที่สำคัญจะก่อให้เกิด “สารประกอบโพลาร์” ที่สามารถสะสมในร่างกาย ซึ่งส่งผลกระทบต่อการทำงานของเซลล์
ภก.สงกรานต์ ภาคโชคดี ประธานมูลนิธิเพื่อนช่วยเพื่อน
กล่าว...
ภก.สงกรานต์ กล่าวต่อว่า... ปาท่องโก๋ เป็นอาหารที่มีความเสี่ยงกับการเป็นโรคมะเร็งทั้งผู้บริโภคและผู้ประกอบอาหาร เนื่องจาก ร้อยละ 90 ของผู้ประกอบอาหารทั้งสองรายการนี้ใช้น้ำมันทอดซ้ำหลายๆ ครั้ง รวมไปถึงอาหารทอดอื่นๆ อย่าง ไก่ทอด กล้วยทอด เผือกทอด ซึ่งอาหารเหล่านี้มักใช้น้ำมันทอดซ้ำหลาย ๆ ครั้ง อีกทั้งมีการเพิ่มเติมน้ำมันลงไปในน้ำมันเก่าที่ผ่านการทอดมาแล้ว จนน้ำมันเปลี่ยนสีจากสีเหลืองเป็นสีดำและมีลักษณะข้นเหนียว
ภก.สงกรานต์ กล่าวอีกว่าผลกระทบต่อสุขภาพของน้ำมันทอดซ้ำทำให้เกิดการเจริญเติบโตลดลง ตับและไตมีขนาดใหญ่ มีการสะสมไขมันในตับ การหลั่งน้ำย่อยทำลายสารพิษในกระเพาะอาหารเพิ่มขึ้นนอกจากนั้นไขมันที่ถูกออกซิไดซ์ปริมาณสูงอาจทำให้ไลโปโปรตีนชนิดแอลดีแอลมีโอกาสเกิดอนุมูลอิสระมากขึ้น จึงมีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ ส่วนไอระเหยจากน้ำมันทอดอาหาร หากสูดดมเป็นระยะเวลานานมีโอกาสเป็นโรคมะเร็งที่ปอดอีกด้วย
อาจารย์สง่า ดามาพงษ์ กล่าวเตือนว่า ผู้กินเจในเทศกาลถือศีล กินเจ ขอให้กินให้ถูก กินให้เป็น อย่ากินตามแฟชั่น ไม่เช่นนั้นจะเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ เช่น โรคมะเร็ง โรคความดันโลหิตสูง โรคอ้วน เนื่องจากมีการสำรวจพบอาหารเจในท้องตลาดกว่า ร้อยละ 80 ใช้วิธีทอด ผัดน้ำมัน
ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค ควรมีหลักปฏิบัติในการใช้น้ำมันทอดอาหารทั้งในระดับผู้บริโภคระดับผู้ประกอบอาหารทอดรายย่อย และภัตตาคารอาหารจานด่วน เพื่อให้น้ำมันทอดอาหารปลอดภัยต่อการบริโภคอีกทั้งการป้องกันการใช้น้ำมันทอดอาหารผิดวิธีดังนี้
1. น้ำมันปรุงอาหาร ควรเป็นน้ำมันพืชหลีกเลี่ยงการใช้น้ำมันสัตว์ เพื่อมิให้เพิ่มความเสี่ยงของโรคหัวใจ
2. น้ำมันทอดอาหารควรเป็นน้ำมันที่คงตัวและเกิดควันช้า เช่น น้ำมันปาล์มโอเลอิน (จากเนื้อปาล์ม )
3. ไม่ควรใช้น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันข้าวโพดน้ำมันดอกคำฝอย น้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมันหมู น้ำมันวัว
และไขมันสัตว์อื่น ๆ ในการทอดอาหาร เพราะน้ำมันดังกล่าวไม่คงตัว จึงเสื่อมสภาพเร็ว
4. หากน้ำมันทอดอาหารมีลักษณะอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้ ให้เปลี่ยนน้ำมันทอดอาหารใหม่ทันทีไม่ควรเติมน้ำมันใหม่ลงไปเจือจาง เช่น กลิ่นเหม็นหืน เหนียวข้น สีดำ เกิดฟอง ควัน เหม็นไหม้ ไอน้ำมัน ทำให้ระคายเคืองตาและลำคอเมื่อโดนความร้อน
5. ควรกรองกากอาหารทิ้งระหว่างและหลังการทอดอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารทอดที่มีการชุบแป้งปริมาณมาก ควรใช้ตะแกรงหรือผ้าขาวบางกรองเศษอาหารและผงขนาดเล็กออกจากน้ำมันทอดอาหาร
6. ควรซับน้ำมันส่วนเกินบริเวณผิวหน้าอาหารดิบก่อนทอดเพื่อลดการแตกตัวของน้ำมัน ทำให้ชะลอการเสื่อมสลายตัวของน้ำมันทอดอาหาร
7. ควรทอดอาหารครั้งละไม่มากเกินไป เพื่อให้ความร้อนของน้ำมันทอดอาหารกระจายทั่วถึง และใช้เวลาในการทอดน้อยลง
8. ไม่ควรทอดอาหารด้วยไฟแรงเกินไป
9. ควรเปลี่ยนน้ำมันทอดอาหารให้บ่อยขึ้น หากทอดอาหารประเภทเนื้อสัตว์ที่มีส่วนผสมของเกลือหรือ
เครื่องปรุงรสปริมาณมาก
10. ควรล้างทำความสะอาดกระทะทอดอาหารหรือเครื่องทอดทุกวัน เนื่องจากน้ำมันเก่าสามารถไปเร่งการเสื่อมสภาพของน้ำมันทอดอาหารที่เติมลงไปใหม่
จะเห็นว่าเรื่องภัยน้ำมันทอดซ้ำเป็นเรื่องใกล้ตัวมาก หากเรามีความรู้และเข้าใจถึงอันตรายจากน้ำมันทอดซ้ำแล้วก็ควรหลีกเลี่ยงจากการใช้น้ำมันทอดซ้ำเพื่อสุขภาพและความปลอดภัย ... อาจารย์สง่า กล่าว
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ