กรุงเทพฯ--21 มี.ค.--แสนสิริ
"แสนสิริ" ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจรของไทย เผยแผนรุกตลาดต่างชาติปี 2561 ต่อยอดความสำเร็จจากการบุกตลาดเอเชียในปี 2560 เดินหน้าสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายอสังหาริมทรัพย์นานาชาติ ชูจุดเด่นบริการหลังการขายแบบครบวงจรและประสบการณ์การอยู่อาศัยรูปแบบใหม่ในแบบแสนสิริ (Complete your living experience) เสริมความเชื่อมั่นนักลงทุนด้วยข้อมูลเชิงลึก (insight) ทิศทางการเติบโตเศรษฐกิจไทยที่สดใสและข้อเสนอในการลงทุนที่น่าสนใจ พร้อมจัดงานเสวนาตัวแทนจำหน่ายอสังหาริมทรัพย์ระดับโลก ประจำปี2561 ครั้งแรกในประเทศไทย ในวันที่ 16 มีนาคม 2561 เชิญตัวแทนจำหน่ายอสังหาริมทรัพย์กว่า 300 รายจากทั่วโลกมาที่กรุงเทพฯ เพื่อรับฟังข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับโอกาสทางการขายและการลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย โดยแสนสิริและผู้เชี่ยวชาญในแต่ละอุตสาหกรรม ทั้งจากภาครัฐและเอกชน
ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา แสนสิริบุกขยายการลงทุนในตลาดจีน ฮ่องกง สิงคโปร์ และไต้หวัน อย่างต่อเนื่อง และประสบความสำเร็จสู่การเป็นผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ด้วยยอดขายจากกลุ่มลูกค้าต่างชาติมากที่สุดในประเทศไทย เป็นจำนวนสูงถึง 9,300 ล้านบาท ในปี 2560 เติบโตขึ้นกว่า 72% จากปี2559 โดยมีจีนและฮ่องกงเป็นตลาดขับเคลื่อนหลัก ด้วยยอดขาย 3,100 ล้านบาทในแต่ละตลาด ขณะที่สิงคโปร์และไต้หวันเป็นอีกสองตลาดใหญ่ที่มีศักยภาพสูง ด้วยจำนวนฐานลูกค้าที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
คุณอภิชาติ จูตระกูล ประธานอำนวยการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าว "ปัจจัยสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนความสำเร็จของเราในตลาดต่างประเทศเป็นผลมาจากการขยายสำนักงานขาย (Sales Gallery) อย่างต่อเนื่อง เรามีทีมงานทั้งชาวไทยและต่างชาติที่พร้อมให้บริการหลังการขายระดับมืออาชีพแก่ลูกค้าและมีความเข้าใจความต้องการที่แตกต่างของลูกค้าในแต่ละตลาดอย่างแท้จริง นอกจากนี้ เรายังมีพันธมิตรและตัวแทนจำหน่ายที่แข็งแกร่งทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศที่พร้อมจะก้าวไปด้วยกันเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับแสนสิริในตลาดระดับนานาชาติ โดยงานเสวนาตัวแทนจำหน่ายอสังหาริมทรัพย์ระดับโลก (Sansiri Global Agent Summit 2018) จัดขึ้นเพื่อตอบโจทย์นี้"
"ประเทศไทยได้เติบโตอย่างรวดเร็วสู่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่สำคัญและน่าสนใจอย่างมากสำหรับชาวต่างชาติทั้งในแง่เพื่อการลงทุนและเพื่ออยู่อาศัย สำหรับปีนี้คาดว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยจะโตประมาณ 6-8% โดยโครงการต่างๆ ตามแนวรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพมหานครจะยังคงเป็นที่ต้องการสูง และคอนโดมีเนียมยังครองส่วนแบ่งสูงสุดในตลาดที่อยู่อาศัยในเขตเมือง" คุณอภิชาติ กล่าว "ในมุมมองของผู้ซื้อและนักลงทุนชาวต่างชาติ ประเทศไทยนับว่ามีพื้นฐานที่แข็งแกร่งในหลายด้านซึ่งเอื้อต่อการเติบโตของตลาดอสังหาริมทรัพย์ เราเห็นศักยภาพของการลงทุนจากลูกค้าชาวต่างชาติ ขณะที่โครงการคอนโดมิเนียมตามแนวรถไฟฟ้ากำลังเป็นที่นิยมของชาวต่างประเทศ เรายังเห็นความต้องการที่เพิ่มขึ้นของคอนโดมิเนียมตากอากาศในเมืองท่องเที่ยวซึ่งลูกค้าสามารถซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองหรือปล่อยเช่าในช่วงฤดูท่องเที่ยวได้ สำหรับโครงการของแสนสิริที่ได้รับความสนใจและมียอดขายจากต่างชาติสูงสุดในปีที่ผ่านมา ได้แก่ เดอะไลน์ สุขุมวิท101 และ เดอะไลน์ สาทร ซึ่งทั้งคู่เป็นโครงการร่วมกันระหว่างแสนสิริกับบีทีเอส จากความสำเร็จของเราในตลาดต่างชาติในปีที่ผ่านมา แสนสิริจึงตั้งเป้าเพิ่มยอดขายในตลาดต่างประเทศสูงขึ้น 40% เป็น 13,000 ล้านบาท ในปี 2018 พร้อมทั้งขยายจำนวนตัวแทนจำหน่ายอสังหาริมทรัพย์เพิ่มเป็นอีก50%"
จากตัวเลขยอดขายต่างชาติที่ตั้งเป้าไว้นี้ แสนสิริประเมินไว้ว่าจะมาจากตลาดจีน 40% ของยอดขายรวมในตลาดต่างชาติ ฮ่องกง 33% สิงคโปร์ 10% และ ไต้หวัน 5% พร้อมรุกขยายสู่ตลาดญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ โดยตั้งเป้าขยายจำนวนลูกค้าชาวต่างชาติเพิ่มขึ้นอีก 62% จากฐานลูกค้าในปี 2560 โดยความสนับสนุนอย่างแข็งแกร่งจากพันธมิตรในแต่ละตลาดจะช่วยเสริมประสิทธิภาพให้กับแสนสิริในการเจาะฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าคอนโดมีเนียมตลาดบนระดับพรีเมียม - ลักชัวรี่ รวมถึงกลุ่มนักลงทุนที่มองหาอสังหาริมทรัพย์พร้อมผลตอบแทน 5-8% จากสัญญาเช่าระยะยาวและบริการด้านการบริหารจัดการที่พักอาศัยในแบบพร้อมสรรพของแสนสริ รวมถึงผู้ที่มองหาอสังหาริมทรัพย์เพื่ออยู่อาศัยในวัยเกษียณหรือเพื่อเป็นที่พักตากอากาศ
ในปี 2561 แสนสิริได้วางกลยุทธ์เชิงรุกในการขยายสู่ตลาดต่างประเทศด้วยการสร้างความสัมพันธ์เชิงกลยุทธ์ระยะยาวทั้งกับบริษัทพันธมิตรในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงตัวแทนจำหน่ายอสังหาริมทรัพย์นานาชาติ ตลอดจนการร่วมกับหน่วยงานภาครัฐของไทยในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนต่างชาติถึงสภาพการณ์เชิงบวกของตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย และการจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้แสนสิริเป็นที่รู้จักในตลาดต่างประเทศมากขึ้น ความร่วมมือดังกล่าวนี้ อาทิ การสานต่อความร่วมมือระหว่างแสนสิริและกลุ่มบริษัทบีทีเอส กรุ๊ป ในการเปิดตัวโครงการอสังหาริมทรัพย์แบรนด์ THE LINE ตามแนวรถไฟฟ้าบีทีเอส การจับมือกับ Tokyu Corporation เพื่อพัฒนาโครงการคอนโดมีเนียมแบรนด์ HAUS ที่มุ่งตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ลูกค้าชาวญี่ปุ่นโดยเฉพาะ การร่วมเป็นพันธมิตรกับ Hostmaker เพื่อให้บริการด้านการบริหารจัดการที่พักอาศัยระดับพรีเมียมพร้อมผลตอบแทนที่สูงกว่าแก่ลูกค้าของแสนสิริ การจับมือกับโรงพยาบาลสมิติเวชเพื่อยกระดับและเติมเต็มประสบการณ์การอยู่อาศัยอย่างสมบูรณ์ให้กับลูกบ้านของแสนสิริ รวมไปถึงการจัดงานเสวนาตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ระดับโลก (Sansiri Global Sales Summit 2018) ครั้งแรกในประเทศไทย โดยความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนชั้นนำในหลากหลายอุตสาหกรรมสำคัญของไทย อาทิ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ธนาคารกสิกรไทย และบีทีเอส เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับทิศทางและสัญญาณเชิงบวกของเศรษฐกิจไทยในปี 2561 ตลอดจนผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งและแผนเชิงรุกของแสนสิริเพื่อขยายการเติบโตในตลาดต่างประเทศ