กรุงเทพฯ--21 มี.ค.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส
สภาวะตลาดวันที่ 21 มีนาคม 2561 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,309.60-1,316.64 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,450 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาทรงตัวจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,450 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFJ18 อยู่ที่ 19,550 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,500 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.00 น. ของวันที่ 21/03/61)
แนวโน้มวันที่ 22 มีนาคม 2561
คณะบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ยกเลิกข้อเรียกร้องที่ว่า รถยนต์ทุกคันที่ผลิตในแคนาดาและเม็กซิโกสำหรับส่งออกมายังสหรัฐจะต้องมีส่วนประกอบของสหรัฐอย่างน้อย 50% ในระหว่างการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (NAFTA) แสดงให้เห็นว่า ปธน. ทรัมป์ มีความกระตือรือร้น เกี่ยวกับการทำข้อตกลง NAFTA ท่าทีดังกล่าวช่วยลดความตึงเครียดทางด้านการกีดกันการค้าลง ขณะที่นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียงของจีน แสดงความหวังว่า จีนและสหรัฐจะสามารถหลีกเลี่ยงสงครามการค้า โดยกล่าวในช่วงปิดประชุมรัฐสภาประจำปีว่า จีนจะเปิดกว้างทางเศรษฐกิจต่อไป เพื่อที่ว่าบริษัทต่างชาติและจีนจะสามารถแข่งขันกันโดยเท่าเทียมกัน แต่นักลงทุนยังคงคาดว่า ปธน.ทรัมป์ของสหรัฐจะเปิดเผยภาษีมูลค่า 6 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อสินค้านำเข้าจากจีนภายในวันศุกร์ โดยเล็งเป้าหมายเทคโนโลยี, การสื่อสารโทรคมนาคม และทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งหากเกิดขึ้นจริงจะกระตุ้นแรงซื้อทองคำเพิ่มเติม ทั้งนี้ สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือฟิทช์ เรตติ้งส์ เตือนว่า หากความตึงเครียดทางการค้ากับสหรัฐเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน จะสร้างความเสี่ยงช่วงขาลงต่อทัศนะพื้นฐานของฟิทช์ แม้ว่าฟิทช์ เรตติ้งส์ ยืนยันอันดับเครดิต A+ ต่อจีน ความเสี่ยงดังกล่าวพยุงราคาทองคำไว้เมื่อราคาอ่อนตัวลง ขณะที่ในระยะสั้นการอ่อนตัวลงของสกุลเงินปอนด์ จนกดดันสกุลเงินยูโรและราคาทองคำ หลังเงินเฟ้อของอังกฤษอ่อนแอกว่าที่คาดไว้ในเดือนก.พ. ทำให้คาดการณ์ว่าจะไม่เปลี่ยนแปลงทัศนะของธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) ซึ่งมีกำหนดการประชุมในพฤหัสบดีนี้ โดยนักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางอังกฤษจะรอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปจนถึงช่วงเดือนพ.ค. เบื้องต้นเน้นการทำกำไรระยะสั้นจากการแกว่งตัว หากรับความเสี่ยงได้แนะนำรอการย่อตัวของราคาเพื่อเข้าซื้อเก็งกำไรในระยะสั้น พร้อมตั้งจุดตัดขาดทุนให้ชัดเจน ในขณะที่นักลงทุนที่มีทองคำในมือให้รอขายทำกำไรตามบริเวณแนวต้านต่างๆเพื่อลดความเสี่ยงของพอร์ตในช่วงนี้
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีมีมุมมองว่า หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1,321-1,332 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้จะทำให้ราคาทองคำอ่อนตัวลงมา โดยหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือแนวรับ 1,302 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง คาดว่ามีโอกาสกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านอีกครั้ง แต่หากยืนไม่ได้ต้องระมัดระวังแรงขายอาจทำให้ราคาย่อตัวลงสู่แนวรับถัดไป สำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำในมือรอดูบริเวณ 1,302 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถยืนได้อย่างมั่นคง ถือเป็นจุดซื้อเก็งกำไรระยะสั้น แต่หากราคาหลุดแนวรับ 1,291 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำให้ชะลอการลงทุนเพื่อรอดูสถานการณ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,302 (19,200บาท) 1,291 (19,050บาท) 1,283 (18,900บาท)
แนวต้าน 1,321 (19,500บาท) 1,332 (19,700บาท) 1,341 (19,800บาท)
GOLD FUTURES (GFJ18)
แนวรับ 1,302 (19,330บาท) 1,291 (19,170บาท) 1,283 (19,050บาท)
แนวต้าน 1,321 (19,620บาท) 1,332 (19,790บาท) 1,341 (19,920บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999