กรุงเทพฯ--22 มี.ค.--เจซีแอนด์โค พับลิครีเลชั่นส์
- กนอ. เผยความคืบหน้านิคมฯ สระแก้ว เตรียมดีเดย์เปิดให้บริการ ธ.ค. 61
การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เผยความคืบหน้าในการก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรมจังหวัดสระแก้ว ซึ่งเป็นนิคมอุตสาหกรรมในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษที่พัฒนาแล้วเสร็จเป็นแห่งแรก และจะสามารถเปิดดำเนินการอย่างเต็มรูปแบบได้ภายในเดือนธันวาคม 2561 พร้อมดีเดย์เปิดลานประชารัฐ บนพื้นที่ 3 ไร่ ในนิคมฯ สระแก้ว ปัจจุบันมีผู้ประกอบการสินค้า OTOP เข้ามาจำหน่ายสินค้าเต็มพื้นที่แล้ว และจับมือกับ 5 หน่วยงาน อาทิ สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดสระแก้ว สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสระแก้ว ผลักดันให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ในนิคมฯ สระแก้ว
นายวีรพงศ์ ไชยเพิ่ม ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) กล่าวว่า ตามที่ กนอ. ได้มีโครงการพัฒนาพื้นที่ลานประชารัฐ บนพื้นที่ 3 ไร่ ในนิคมอุตสาหกรรมสระแก้ว เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการสินค้า OTOP และวิสาหกิจชุมชนในพื้นที่ตำบลป่าไร่ สามารถนำสินค้าที่มีมาตรฐานและคุณภาพดี มาจำหน่ายให้กับผู้บริโภค พร้อมส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีและยกระดับคุณภาพสินค้าให้เป็นที่รู้จักนั้น ขณะนี้พื้นที่ดังกล่าวได้เปิดให้บริการจำหน่ายสินค้าเต็มพื้นที่แล้ว และเปิดให้บริการได้เต็มรูปแบบตั้งแต่วันที่ 19 มีนาคม ที่ผ่านมา ประกอบด้วยผู้ประกอบการสินค้า OTOP ของจังหวัดสระแก้ว 17 ราย จำนวน 20 ยูนิต อาทิ ผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์จากผ้าทอลายดอกแก้ว (ลายผ้าประจำจังหวัดสระแก้ว) ผ้าทอมือธรรมชาติที่มีจุดเด่นที่ขั้นตอนการผลิตจะใช้สีธรรมชาติในการย้อมสี และผ้าทุกชิ้นในร้านจะเป็นการทอมือ และได้รับความนิยมจากทั้งคนไทยและคนกัมพูชา กลุ่มสตรีสหกรณ์เครื่องหอมเมืองสระแก้ว ผู้ผลิตเครื่องหอม เช่นน้ำหอมกลิ่นดอกไม้ ว่านสมุนไพรไทยแก้ปวดเมื่อย สบู่ แชมพู ลูกประคบ ผลิตภัณฑ์แปรรูปน้ำพริกจากไข่เค็มของกลุ่มสตรีบ้านสุขมงคล
นายวีรพงศ์ กล่าวต่อว่า นอกจากการเปิดพื้นที่ให้กับผู้ประกอบการและวิสาหกิจชุมชนข้างต้น กนอ.ยังมีนโยบายในการสนับสนุนผู้ประกอบการในลานประชารัฐด้วยการร่วมมือกับ 5 หน่วยงาน ได้แก่ 1)สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดสระแก้ว 2) สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสระแก้ว 3)สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสระแก้ว 4) ที่ทำการปกครองอำเภออรัญประเทศ และ 5) เทศบาลตำบลป่าไร่ ในการผลักดันให้นิคมอุตสาหกรรมจังหวัดสระแก้วเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ใน อ.อรัญประเทศ และของจังหวัดสระแก้ว ด้วยทำเลของที่ตั้งที่อยู่ห่างชายแดนไทย – กัมพูชา เพียง 3 กิโลเมตร และอยู่ห่างจากตัวอำเภออรัญประเทศเพียง 4 กิโลเมตร โดยปัจจุบันมีชาวกัมพูชาผ่านแดนเข้ามาทำธุรกิจ และท่องเที่ยว เฉลี่ยมากกว่าวันละ 2,000 คน นอกจากนี้ กนอ.ยังจะให้การสนับสนุนและส่งเสริมผู้ประกอบการและชุมชนในพื้นที่ ในการสร้างนวัตกรรมต่างๆ เช่น การให้ความรู้เกี่ยวกับการบริหารจัดการ การทำบรรจุภัณฑ์ การส่งเสริมการขายการตลาด การเสริมสร้างเครือข่าย อีกด้วย
ทั้งนี้ นายวีรพงศ์ ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า ในส่วนของความคืบหน้าของนิคมอุตสาหกรรมจังหวัดสระแก้ว จะถือเป็นนิคมอุตสาหกรรมในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษที่พัฒนาแล้วเสร็จเป็นแห่งแรก ซึ่งจะสามารถเปิดดำเนินการอย่างเต็มรูปแบบได้ภายในเดือนธันวาคม 2561 โดยมุ่งเน้นอุตสาหกรรมเป้าหมายได้แก่ อุตสาหกรรมโลจิสติกส์และศูนย์กระจายสินค้า อุตสาหกรรมสินค้าเกษตรแปรรูป อุตสาหกรรมสิ่งทอเครื่องนุ่งห่ม อุตสาหกรรมพลาสติก และ อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ นอกจากนี้นิคมอุตสาหกรรมจังหวัดสระแก้ว ยังมีศักยภาพในการพัฒนาให้เป็นฐานการผลิตของอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานเป็นหลัก รวมทั้งธุรกิจขนส่งและคลังสินค้าระหว่างประเทศ เนื่องจากเป็นประตูฝั่งตะวันออกของไทยบนระเบียงเศรษฐกิจแนวใต้ หรือ Southern Economic Corridor (SEC) สามารถเชื่อมต่อสู่กัมพูชา ซึ่งมีเขตเศรษฐกิจพิเศษปอยเปต-โอเนียง และนิคมอุตสาหกรรมศรีโสภณรองรับ รวมทั้งยังสามารถเชื่อมต่อออกสู่ทะเลผ่านท่าเรือของเวียดนามได้ ถือเป็นปัจจัยสนับสนุนสำคัญต่อธุรกิจขนส่งสินค้าและคลังสินค้าระหว่างประเทศได้อย่างดี
สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจรายละเอียด สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายชุมชนสัมพันธ์ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ถนนนิคมมักกะสัน กรุงเทพฯ โทร. 0 2253 0561 ต่อ 2123 หรืออีเมล investment.1@ieat.mail.go.th