กรุงเทพฯ--22 มี.ค.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส
สภาวะตลาดวันที่ 22 มีนาคม 2561 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,327.20-1,334.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,700 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 200 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,500 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFJ18 อยู่ที่ 19,780 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 220 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,560 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.44 น. ของวันที่ 22/03/61)
แนวโน้มวันที่ 23 มีนาคม 2561
ผลการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) มีมติให้ปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 1.50-1.75% ตามคาดการณ์ และคณะกรรมการ FOMC ส่วนใหญ่ ประเมินการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ตลอดทั้งปีไว้ 3 ครั้ง แม้ว่าตลาดรับรู้ล่วงหน้าแล้วแต่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงรุนแรงที่สุดในวันเดียวในรอบ 2 เดือน หลังการประกาศดังกล่าว จึงเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำ ทั้งนี้ นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด กล่าวว่า เขาไม่เห็นหลักฐานการขยายตัวของค่าแรงที่เร็วขึ้น ท่ามกลางภาวะแรงงานที่ตึงตัวมากขึ้น และราคาสินทรัพย์ปรับตัวสูงขึ้นแต่ไม่ส่งผลเสี่ยงต่อระบบการเงินมากนัก ขณะที่เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายของเฟดคาดว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐจะอยู่ที่ 2.7% ในปี 2561 เพิ่มขึ้นจาก 2.5% ที่คาดไว้ในเดือนธ.ค. และได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวสำหรับปีหน้าแต่ยังคงมีความกังวลต่อมาตรการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าของสหรัฐจากประเทศคู่ค้าจนอาจส่งผลลบต่อเศรษฐกิจสหรัฐ ทั้งนี้ โดยโปรแกรม FedWatch ของ CME Group แสดงว่า สัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยบ่งชี้ว่า เทรดเดอร์ปรับตัวรับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งหน้าในการประชุมกำหนดนโยบายวันที่ 12-13 มิ.ย.ของเฟด ตามมาด้วยการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนธ.ค. อย่างไรก็ตาม ขณะที่ทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ไม่ให้ผลตอบแทนในรูปแบบดอกเบี้ยถูกลดความน่าสนใจลง เมื่อธนาคารกลางจีนเปิดเผยว่า ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในข้อตกลงขายคืนพันธบัตร หรือ reverse repos ระยะ 7 วัน โดยปรับขึ้น 0.05% สู่ 2.55% จาก 2.50% การขึ้นอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวมีขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งย้ำว่าจีนกำลังพยายามปรับสมดุลอัตราดอกเบี้ยตามแนวโน้มตลาดโลก ขณะที่จีนคุมเข้มความเสี่ยงทางการเงินในประเทศอย่างเข้มงวด เบื้องต้นวายแอลจีประเมินว่าราคาทองคำยังมีโอกาสดีดตัวขึ้นเพื่อทดสอบแนวต้าน 1,341 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ตามหากราคาปรับตัวขึ้นอาจมีแรงขายทำกำไรสลับออกมาบ้าง หากไม่หลุดบริเวณ 1,325 และทรงตัวรักษาระดับไว้ได้ นักลงทุนสามารถหาจังหวะซื้อเพื่อรอทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้นไป
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า หากราคาสามารถยืนเหนือบริเวณ 1,325 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง คาดว่าราคาจะขยับขึ้นทดสอบแนวต้าน อย่างไรก็ตามเมื่อราคาขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,341 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 1,352 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ยังไม่สามารถผ่านไปได้แนะนำขายทำกำไรบางส่วน แนะนำนักลงทุนเข้าซื้อเมื่อราคามีการย่อตัวเข้าใกล้บริเวณแนวรับดังกล่าว โดยหากราคาไม่หลุดแนวรับราคาทองคำยังมีโอกาสค่อยๆ ขยับขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไป แต่หากราคาหลุดโซนดังกล่าวจะปรับตัวลงไปต่อ โดยมีแนวรับถัดไปที่บริเวณ 1,318 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,325 (19,550บาท) 1,318 (19,450บาท) 1,307 (19,250บาท)
แนวต้าน 1,341 (19,800บาท) 1,352 (20,000บาท) 1,366 (20,200บาท)
GOLD FUTURES (GFJ18)
แนวรับ 1,325 (19,660บาท) 1,318 (19,560บาท) 1,307 (19,400บาท)
แนวต้าน 1,341 (19,910บาท) 1,352 (20,070บาท) 1,366 (20,280บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999