กรุงเทพฯ--23 มี.ค.--
เจอปาฏิหาริย์ "พญานาค" จังๆ ไปอีกคน สำหรับนักแสดงมากความสามรถ "เอ พศิน เรืองวุฒิ" หลังจากที่เจ้าตัวได้โพสต์ภาพลงในอินสตาแกรมขณะย้ายองค์พญานาคมาประทับไว้ ณ ยอดน้ำตกที่สร้างไว้ในบ้าน และได้มีคนสังเกตเห็นภาพน้ำตกเกิดเป็นภาพคล้ายใบหน้าของปู่ศรีสุทโธ ล่าสุดเจ้าตัวได้มาพูดคุยกับทางรายการ เจาะประเด็น ทาง ช่อง 8 โดยมี "ต่วย-ภคพงศ์ อุดมกัลยารักษ์ เป็นพิธีกรดำเนินรายการ ในเรื่องของปฏิหาริย์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นหลังจากที่ตนบูชาและได้วาดภาพพ่อปู่ศรีสุทโธ ทั้งนี้ยังได้เชิญ "รศ. ดร. วีรชัย พุทธวงศ์" คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และ "คุณสุพรรณ์ ก้อนคำ" ผู้ศึกษาและเชี่ยวชาญเรื่องพญานาค มาพูดคุยเรื่องดังกล่าว
ทำไมถึงมีความเชื่อเรื่องพญานาค หรือพ่อปู่ ศรีสุทโธ
เอ พศิน : ส่วนตัวแล้วผมนับถือศาสนาพุทธนะครับ เป็นคนที่เชื่อเรื่องการทำบุญ เพราะเราทำแล้วรู้สึกดี ผมไม่เคยไปคำชะโนดนะครับ แต่อยากชี้ชัดว่าความเชื่อเรื่องของพญานาคไม่ใช่ความนิยม เวลาใครนับถือเขาจะมีความกล้าหาญมากขึ้น และทำให้รู้สึกว่ามีพลัง คนที่นับถือพญานาคแล้วประสบผลสำเร็จ จะต้องมีศีล 5 ไม่ใช่ว่าเป็นคนไม่ดีแล้วจะได้ดีเพราะนับถือท่าน
ตั้งแต่แต่งงาน มีลูกชายแล้วมีปฏิหารย์ต่าง ๆ เกิดขึ้น มันเริ่มขึ้นตอนไหน
เอ พศิน : คือมีเพื่อนในเฟซบุ๊กท่านหนึ่งซึ่งผมไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว เขาไม่สบายแล้วไปปฏิบัติธรรมก็มีพญานาคเข้ามาในนิมิตรของเขา มาบอกเขาตลอดว่าให้ผมวาดภาพพญานาค แต่เขาไม่ทราบว่าผมคือใคร ไม่ทราบว่าผมเป็นนักแสดง เขาร้อนใจมาก เพราะเขาไม่สบายแล้วไม่หายสักที เขาก็พยายามเสริชหาชื่อผมจนเจอให้ผมวาดภาพให้ ผมก็ตกลงวาดให้โดยไม่ได้คิดอะไร เขาก็หายป่วยเลยครับ
วาดภาพพญานาคหรือพ่อปู่ศรีสุทโธอย่างไร ดูจากไหน
เอ พศิน : ผมใช้ความรู้สึกและสมาธิไม่มีต้นแบบครับ เริ่มต้นคือผมอยากจะวาดพ่อปู่ศรีสุทโธ ผมก็เลยศึกษามาก่อนว่าท่านเป็นใคร ตอนเช้าผมก็จุดธูปบอกท่านแล้วผมก็จะเริ่มวาดภาพนี้ครับ ขณะนั้นผมก็สังเกตุเห็นเส้นเลือดในตาแตก แต่ผมก็ยังไม่เอะใจอะไร สรุปแล้วต้องหยุดทำงานไป 1 สัปดาห์ และใน 1 สัปดาห์ที่หยุดทำงานผมก็ใช้เวลาในการวาดภาพนี้จนเสร็จ แล้วผมก็ไปหาหมอเพื่อที่จะรักษาเส้นเลือดในตา หมอบอกว่าใช้เวลา 3 สัปดาห์กว่าจะหาย แต่น่าแปลกผมยังสามารถไปทำงานได้ตามปกติเลยครับไม่รู้สึกอะไร จริง ๆ แล้วเป็นคนไม่เชื่ออะไรง่าย ๆ คือเราไม่ได้ศรัทธาเพราะอยากจะรวยหรือถูกหวย เราเชื่อในเรื่องของการทำความดี เราศรัทธาแล้วเรารู้สึกอบอุ่นครับ
ตั้งแต่ย้ายพญานาคลงมามีเหตุการณ์แปลก ๆ เกิดขึ้น
เอ พศิน : คือก่อนหน้านี้ผมตั้งศาลบูชาพญานาค ผมได้สร้างศาลน้ำตกและถ้ำบริเวณหน้าบ้านแล้วได้เชิญท่านมาประทับอยู่ด้านบน หลังจากนั้นผมก็ถ่ายภาพลงในอินสตาแกรมแล้วมีคนคอมเม้นท์ว่าชัดมาก เป็นภาพหน้าพ่อปู่ฤๅษี คนรอบข้างก็มาบอก ส่วนตัวผมก็เพิ่งมาเห็นคนสุดท้ายนี่แหละครับ บางคนก็เชื่อครับ บางคนก็ไม่เชื่อ อาจจะเป็นเรื่องแสงตกกระทบต่าง ๆ นานา บางอย่างเราไม่ต้องเห็นหรอกครับ เราแค่มีใจศรัทธา
เห็นว่ามีงานติดต่อเข้ามาเยอะหลังจากบูชาท่าน
เอ พศิน : หลังจากนี้ผมก็มีงานติดต่อเข้ามาเยอะมากครับ ส่วนมากเป็นเรื่องของความเจริญรุ่งเรือง เหมือนมีคนสื่อสารกับเราในทางบวกมากขึ้นในทุก ๆ ด้าน ซึ่งผมว่ามันก็แปลกนะผมรู้สึกว่าเรามีพลังมากขึ้น หรือแม้กระทั่งเรื่องที่ตลอดชีวิตผมไม่เคยคิดจะทำเลย ก็คือเรื่องสัก สุดท้ายผมก็สักครับเป็นรูปพญานาคคู่สีแดง
มีหมอดูมาทักว่าเราสืบเชื้อสายพญานาค
เอ พศิน : คือเราพิสูจน์ไม่ได้หรอกครับว่าอดีตชาติเราเป็นอะไร เกิดมากี่ครั้งก็ไม่ทราบ อาจจะเป็นก็ได้ หรือไม่เป็นก็ได้ แต่ที่เราเกิดมาเป็นมนุษย์เนี่ย เราเกิดมาเพื่อมาทำกรรมดี และชดใช้กรรมของเราที่เราทำกับคนอื่นเมื่อชาติที่แล้ว มาแก้ไขให้มันดี
ในมุมมองของอาจารย์อ๊อดและอาจารย์ก้อนคำว่าอย่างไรบ้าง
อาจารย์ก้อนคำ : เรื่องของภาพที่คนเห็นเป็นพ่อปู่ศรีสุทโธ ผมมองในลักษณะของปรากฎการณ์ธรรมชาติ ซึ่งผมก็เคยพบเจอภาพแบบนี้เหมือนกัน อาจจะเป็นเรื่องของการสื่อสารกันระหว่างคนที่สื่อสารได้ กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งจะมีการสื่อสารในหลายลักษณะ เช่นทางตานัย การมาแบบนิมิตร การทำสมาธิ หรืออาจจะมาในสิ่งที่เรามองเห็นได้ เช่น ดิน ฟ้า อากาศ แต่ไม่ใช่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจะเป็นจริงทั้งหมด เราต้องมีสติกับสิ่งนั้น ส่วนเรื่องของความเชื่อเรื่องที่เรามาเกิดเนี่ยต้องเข้าใจคำว่าธรรมชาติของพญานาคไม่ว่าเขาจะทำอะไรก็ตาม เขาจะอธิษฐานจิตเพื่อให้มาเกิดเป็นมนุษย์บำเพ็ญเพียร ศีล สมาธิ ฉะนั้นคนไทยหรือชาวพุทธจะเชื่อว่าตนเองมาจากพญานาคก็เป็นไปได้สูงเพราะพญานาคเป็นสัญลักษณ์ของความศรัทธาในเรื่องคุณงามความดี แต่ทั้งหมดทั้งมวลนี้เราก็ต้องใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจว่ามีความสอดคล้องกันไหม
อาจารย์อ๊อด : เป็นความเชื่อที่ไม่ได้ทำร้ายใคร เป็นความเชื่อส่วนบุคคลครับ เช่นเรื่องต่างประเทศที่คนเปรียบเทียบรูปเป็ดเหมือนกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เพราะฉะนั้นมันเกิดจากมุมมองของแต่ละคน ทุกคำตอบเป็นคำตอบที่ถูกหมด ส่วนเรื่องของคุณเอผมเห็นข่าวมาก่อนแต่เห็นเหมือนกันในเรื่องของน้ำตกที่เป็นรูปร่างในลักษณของหน้าคน ก็อาจจะมีส่วนที่คล้ายกับสิ่งที่เราเคารพนับถือกัน แต่ถ้าเรามองในมุมมองของธรรมชาติ ก็อาจจะเป็นภาพปกติไม่มีอะไรเลย นี่เป็นความเชื่อส่วนบุคคลและไม่ควรลบหลู่นะครับ เพราะอีกด้านก็เป็นในเรื่องของการอิงศาสนาที่อยู่คู่สังคมไทยมานาน แม้แต่เรื่องบั้งไฟพญานาคผมก็ไม่เห็นด้วยที่จะต้องไปพิสูจน์อะไรมากมาย มันเป็นความขัดแย้งที่ไม่ได้รุนแรงครับ
รู้สึกขัดแย้งไหมครับ หรืออยากบอกอะไรกับคนที่ไม่เชื่อในเรื่องนี้
เอ พศิน : คือเราไม่สามารถทำให้คนอื่นคิดเหมือนเราได้ โลกไหนก็ตามที่คนคิดเหมือนกันเราจะอยู่ไม่ได้ เพราะฉะนั้นมันต้องมีคนสองแบบเพื่อต้านให้เราไตร่ตรองดูว่าสิ่งที่เราทำมันถูกหรือไม่ เราต้องมองในสองด้านเพราะบางคนอาจจะตีความไม่เหมือนกันครับ มีคนอยากจะมาขอพรที่บ้านเหมือนกันครับแต่จริง ๆ จะไหว้ที่ไหนก็ได้ถ้าใจเราบริสุทธิ์ มีศีล ประพฤติดีครับ
สามารถติดตามฉบับเต็มรายการ เจาะประเด็น ในวันที่ ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 13.10-13.55 น.ทาง ช่อง 8 เข้มทุกเรื่องราว สุดทุกอารมณ์