กรุงเทพฯ--17 ก.ย.--กทม.
กทม.สร้างมาตรการเชิงรุก รณรงค์เด็กประถมศึกษาล้างมือและสวมหน้ากากอนามัยในโรงเรียน หวังลดการติดเชื้อและการแพร่ของเชื้อโรคสู่ผู้อื่น รวมทั้งช่วยลดการติดต่อของโรคต่างๆ อาทิ ไข้หวัดใหญ่ ตาแดง โรคมือ เท้า ปาก และอุจจาระร่วง ฯลฯ นำร่อง 20 โรงเรียนในพื้นที่เขตบางรัก เตรียมขยายผลทุกโรงเรียนในพื้นที่กรุงเทพฯ
ดร.วัลลภ สุวรรณดี รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นพ.สิทธิสัตย์ เจียมวงศ์แพทย์ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย ดร.วรนุช ตรีวิจิตรเกษม ผู้อำนวยการโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย และนางเพ็ญจันทร์ วัฒนมงคล รองผู้อำนวยการโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย แถลงข่าว "โครงการรณรงค์การล้างมือและสวมหน้ากากอนามัยในโรงเรียนประถมศึกษา" เพื่อปลูกฝังให้เด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษา ล้างมืออย่างถูกวิธีเป็นกิจวัตร และส่งเสริมให้เด็กนักเรียนที่ป่วยด้วยโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ สวมหน้ากากอนามัย เพื่อลดการแพร่เชื้อโรคสู่ผู้อื่น และเพื่อช่วยลดการติดต่อของโรคต่างๆ เช่น โรคไข้หวัดใหญ่ โรคตาแดง โรคมือ เท้า ปาก โรคหัด อีสุกอีใส และโรคอุจจาระร่วง ฯลฯ
รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า แม้ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานการเกิดโรคติดต่อในเด็ก แต่เพื่อเป็นการเตรียมรับสถานการณ์ และสร้างมาตรการป้องกันเชิงรุก เนื่องจากเมื่อช่วงเดียวกันของปีที่แล้วมีสถิติการเกิดโรคสูง กรุงเทพมหานครจึงได้จัดกิจกรรมรณรงค์การล้างมือและสวมหน้ากากอนามัยในโรงเรียนประถมศึกษา โดยร่วมกับโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย นำร่องโครงการดังกล่าว โดยจะเริ่มรณรงค์ในโรงเรียนในพื้นที่เขตบางรัก 20 โรงเรียน ให้ความรู้แก่อาจารย์ และนักเรียนในระดับประถมศึกษา เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องถึงวิธีดูแลตัวเองให้ปลอดโรค และป้องกันการแพร่กระจายไปสู่บุคคลอื่น โดยกรุงเทพมหานครจะขยายผลโครงการฯ ไปยังทุกโรงเรียนในพื้นที่กรุงเทพฯ ต่อไป
รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวด้วยว่า ขอให้ครูและบุคลากรในโรงเรียนร่วมกันรณรงค์ให้เด็กล้างมือเป็นกิจวัตรประจำ วันละหลายครั้งจนเป็นนิสัย ทั้งก่อนรับประทานอาหาร และหลังทำกิจกรรมอื่นๆ รวมทั้งสร้างความตระหนักให้กับผู้ปกครอง ด้วย