กรุงเทพฯ--26 มี.ค.--เอเวอร์แลนด์
EVER เปิดกลยุทธ์ปี 61 เตรียมบุกตลาดอสังหาริมทรัพย์แนวราบ ผุด 3-4 โครงการใหม่ มูลค่ากว่า 2,000ล้านบาท เจาะกลุ่มลูกค้าโซนสุขสวัสดิ์-บางนา (หนามแดง)-จตุโชติ รับสถานีรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย ด้านผู้บริหาร "สวิจักร์ โลจายะ" มั่นใจเทิร์นอะราวด์ตามแผน ทยอยรับรู้รายได้จากโครงการคอนโดมิเนียมเพียบ ขณะที่ธุรกิจโรงพยาบาลโตต่อเนื่อง
นายสวิจักร์ โลจายะ ประธานกรรมการ บริษัท เอเวอร์แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ EVER เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานในปี 2561 ว่า บริษัทฯเตรียมเปิดใหม่ 3 – 4 โครงการ ซึ่งเน้นโครงการแนวราบภายใต้ แบรนด์ "เอเวอร์ซิตี้" ในทำเลย่านสุขสวัสด์ , บางนา (หนามแดง) ,จตุโชติและไทยรามัน มูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท โดยทั้ง 4 โครงการ บริษัทฯได้มีการซื้อที่ดิน เพื่อรอการพัฒนาไว้เรียบร้อยแล้ว พร้อมดำเนินการก่อสร้างได้ทันที
"ถือเป็นการเปิดมิติใหม่ของ EVER ในการเข้ามาบุกตลาดอสังหาฯแนวราบ ทั้ง 4โซน ไม่ว่าจะเป็นโซนสุขสวัสด์ ,บางนา (หนามแดง) จตุโชติ และไทนรามัน ซึ่งมีดีมานด์อยู่เป็นจำนวนมาก ถือเป็นการกระจายความเสี่ยงของพอร์ต จากเดิมมุ่งเน้นโครงการคอนโดมิเนียม ซึ่งต้องใช้เวลากว่า 2-3 ปีกว่าที่จะรับรู้รายได้ ขณะที่โครงการแนวราบใช้เวลาไม่นาน"
ทั้งนี้ คาดว่าจะเริ่มเปิดโครงการใหม่ในโซนสุขสวัสด์ ในเดือนกันยายน 2561 ส่วนที่เหลือจะเปิดในช่วงปลายปีนี้ "แนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2561 คาดว่าจะฟื้นตัว และกลับมาเทิร์นอะราวด์ จากการรับรู้รายได้โครงการ คอนโดมิเนียม ทั้ง โครงการเดอะโพลิแทนรีฟ , เดอะโพลิแทน บรีซ และโครงการเดอะ โพลิแทน อควา ซึ่งจะเริ่มทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้"นายสวิจักร์ กล่าว
สำหรับภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้คาดว่าจะฟื้นตัวตามภาวะเศรษฐกิจ โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการที่รัฐบาลเดินหน้าลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะการขยายการก่อสร้างสถานีรถไฟฟ้าที่ทยอยก่อสร้างและแล้วเสร็จ อีกทั้งยังพบว่าความต้องการโครงการแนวราบมีมากขึ้นด้วย ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้บริษัทฯเปิดตัว 3 – 4 โครงการใหม่ ซึ่งเป็นแนวราบในปีนี้
ประธานกรรมการ บริษัท เอเวอร์แลนด์ จำกัด (มหาชน) กล่าวอีกว่า ในส่วนของธุรกิจโรงพยาบาล ซึ่งบริษัทฯเข้าลงทุนผ่าน บริษัท มาย ฮอสพิทอล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย เชื่อว่าจะมีการเติบโตควบคู่กันไป ซึ่งในปีนี้ส่วนใหญ่จะเป็นการเพิ่มศักยภาพ และการวางแผนปรับปรุงระบบภายในให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ,การเพิ่มบริการใหม่ๆตามความต้องการในพื้นที่ รวมทั้งการเพิ่มทีมแพทย์เพื่อรองรับตามปริมาณที่เพิ่มขึ้น ซึ่งทั้ง 4 แห่งเข้าลงทุนและดำเนินธุรกิจได้สร้างรายได้ให้กับบริษัทอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ 1.บริษัท โรงพยาบาลเชียงใหม่ ราษฎร์ จำกัด (CMR) 2.บริษัท เดนทอล อิส ฟัน จำกัด (DENTAL) 3.บริษัท โคราชเมดิคัลกรุ๊ป จำกัด (KMG) และ 4.บริษัท พิษณุโลกอินเตอร์เวชการ จำกัด (PM) โดยที่ผ่านมากิจการโรงพยาบาลสร้างรายได้ให้บริษัทฯค่อนข้างดี และสร้างการเติบโตในแง่ของรายได้เฉลี่ยแห่งละ 10-15%