กรุงเทพฯ--9 ต.ค.--ธ.กรุงเทพ
กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย ลงนามในบันทึกข้อตกลงแต่งตั้งบมจ.ธนาคารกรุงเทพ เป็นผู้จัดจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ของรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 อายุ 3 ปี วงเงินรวม 6,000 ล้านบาท จำหน่ายเดือนละ 1 รุ่น รุ่นละ 500 ล้านบาท จำนวน 12 รุ่น กำหนดจำหน่ายตั้งแต่เดือนตุลาคม 2550 ถึงเดือนกันยายน 2551 วงเงินซื้อขั้นต่ำอยู่ที่ 10,000 บาท และวงเงินขั้นสูงไม่เกิน 500,000 บาท อัตราดอกเบี้ยจะประกาศ 2 วันล่วงหน้าก่อนวันจำหน่ายวันแรกของแต่ละรุ่น
นายอุทิศ ธรรมวาทิน รองปลัดกระทรวงการคลัง หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน ปฏิบัติราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงว่าด้วยการจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ของรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ.2551 โดยมอบหมายให้ธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นนายทะเบียนและตัวแทนการจ่ายเงิน และมอบหมายให้ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดจำหน่ายแต่เพียง ผู้เดียวต่อเนื่องกันเป็นปีที่ 2 โดยพันธบัตรดังกล่าวมีอายุ 3 ปี วงเงินรวม 6,000 ล้านบาท จำหน่ายเดือนละ 1 รุ่น รุ่นละ 500 ล้านบาท จำนวน 12 รุ่น กำหนดจำหน่ายตั้งแต่เดือนตุลาคม 2550 ถึงเดือนกันยายน 2551 วงเงินซื้อขั้นต่ำอยู่ที่ 10,000 บาท และวงเงินขั้นสูงไม่เกิน 500,000 บาท จำกัดการซื้อ 1 คำเสนอขอซื้อพันธบัตร ต่อ 1 รุ่นพันธบัตร ต่อคน โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการออมของประชาชน ผู้มีสิทธิซื้อจักต้องเป็นบุคคลธรรมดาที่ถือสัญชาติไทยหรือมีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย มูลนิธิ สภากาชาดไทย และสมาคมสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์
สำหรับอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรออมทรัพย์ในแต่ละรุ่น กระทรวงการคลังจะประกาศอัตราดอกเบี้ยพันธบัตร 2 วันทำการก่อนวันจำหน่ายวันแรกของพันธบัตรแต่ละรุ่น โดยใช้อัตราเฉลี่ยของอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 ปี จำนวน 5 วันทำการก่อนวันประกาศกำหนดอัตราดอกเบี้ยเป็นฐาน บวกด้วยส่วนต่างไม่เกินร้อยละ 15 ของอัตราผลตอบแทน
ด้านนายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารมีความยินดี และรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับความไว้วางใจและการมอบหมายจากกระทรวงการคลัง ให้เป็นผู้จัดจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ของรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ.2551 ต่อเนื่องกันเป็นที่ 2 ภายหลังจากที่ธนาคารประสบความสำเร็จอย่างงดงามจากการจัดจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ ในปีงบประมาณ พ.ศ.2550 ได้ครบเต็มจำนวนทั้ง 12 รุ่น วงเงินรวม 6,000 ล้านบาท ด้วยศักยภาพ เครือข่ายสาขาที่ครอบคลุมทั่วประเทศ ทำให้ธนาคารสามารถจัดจำหน่ายและกระจายพันธบัตรได้ครอบคลุมประชาชนรายย่อยทั่วประเทศ ตามวัตถุประสงค์และความต้องการของกระทรวงการคลัง โดยอัตรา ดอกเบี้ยของพันธบัตรปีงบประมาณ พ.ศ.2550 ที่ผ่านมา อยู่ระหว่างร้อยละ 3.50-5.50 หรือเฉลี่ย 12 เดือนเท่ากับร้อยละ 4.51 สำหรับการจ่ายดอกเบี้ยผู้ถือพันธบัตรจะได้รับดอกเบี้ยปีละ 2 ครั้ง โดยจ่ายเป็นเงินงวดละเท่า ๆ กันจนกว่าพันธบัตรจะครบกำหนด อีกทั้งผู้ลงทุนสามารถโอนกรรมสิทธิ์เปลี่ยนมือได้เมื่อพันธบัตรมีอายุครบ 1 ปี โดยสามารถขายให้กับสถาบันการเงินหรือบุคคลอื่นตามราคาที่จะตกลงกัน
สำหรับพันธบัตรออมทรัพย์ของรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ.2551 นี้ ลูกค้าและประชาชนทั่วไปที่สนใจสามารถกรอกคำเสนอขอซื้อพันธบัตร พร้อมเอกสารการจองซื้อได้ที่ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สำนักงานใหญ่ และสาขาทั่วประเทศ ยกเว้นสาขาไมโคร ในการจองซื้อให้ยื่นความประสงค์พร้อมชำระเงินตามวันและเวลาที่กำหนดจำหน่ายในแต่ละรุ่น โดยสามารถเลือกชำระได้ 3 วิธี คือ ชำระเป็นเช็คส่วนตัว/แคชเชียร์เช็ค หรือชำระเป็นเงินสดในวันที่ซื้อ หรือสามารถหักบัญชีธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ทั้งนี้ผู้ยื่นคำขอเสนอซื้อและชำระเงินก่อน มีสิทธิ์ได้รับการจัดสรรพันธบัตรก่อน รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ทุกสาขา ยกเว้นสาขาไมโคร หรือที่เว็บไซด์ของสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลัง www.pdmo.mof.go.th ธนาคารแห่งประเทศไทย www.bot.or.th และธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) www.bangkokbank.com