กรุงเทพฯ--25 ก.ย.--สปส.
สำนักงานประกันสังคม (สปส.) นำเทคโนโลยีสารสนเทศมาปรับใช้ด้วยวิธีประมวลผลข้อมูลการส่งเงินสมทบของผู้ประกันตนที่ทำงานกับนายจ้างหลายรายและส่งเงินสมทบเกิน
นายสุรินทร์ จิรวิศิษฎ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เปิดเผยว่า สำนักงานประกันสังคมได้นำเทคโนโลยีสารสนเทศมาประมวลผลข้อมูลการส่งเงินสมทบของผู้ประกันตนที่ทำงานกับนายจ้างหลายรายและส่งเงินสมทบเกินจากที่กฎหมายกำหนด โดยส่งหนังสือถึงผู้ประกันตนพร้อมรายละเอียดและแบบขอรับเงินคืนแจ้งให้ผู้ประกันตนทราบ หากผู้ประกันตนประสงค์ที่จะรับเงินคืน ให้ลงชื่อในแบบขอรับเงินคืน พร้อมแจ้งหมายเลขบัญชีธนาคารของผู้ประกันตน แล้วส่งกลับมายังสำนักงานประกันสังคม เพื่อดำเนินการคืนเงินให้ผู้ประกันตน ด้วยวิธีโอนเงินผ่านธนาคารเข้าบัญชีผู้ประกันตนโดยตรง
สำนักงานประกันสังคม (สปส.) ได้เสนอกระบวนงานดังกล่าวต่อสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (กพร.) เพื่อขอประเมินผลรับรางวัลคุณภาพการให้บริการประชาชนประจำปี 2550 ประเภทนวัตกรรมการให้บริการ เนื่องจากเป็นการพัฒนางานบริการคืนเงินสมทบจากรูปแบบเดิม โดยนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการประมวลผลข้อมูล เพิ่มคุณลักษณะใหม่และเป็นงานบริการเชิงรุก ทำให้เกิดความโปร่งใส เป็นธรรม เกิดประโยชน์ต่อผู้ประกันตน นอกจากนั้น เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในงานบริการของภาครัฐ การอำนวยความสะดวก ทั้งยังเพิ่มช่องทางการบริการให้แก่ผู้ประกันตน ไม่ต้องเดินทางไปติดต่อด้วยตนเอง ถือเป็นการตอบสนองความต้องการของผู้ประกันตนอย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ ในปี 2550 สปส. ได้จ่ายเงินสมทบคืนให้แก่ผู้ประกันตน ด้วยวิธีโอนเงินผ่านธนาคารเข้าบัญชีผู้ประกันตนโดยตรงจำนวน 33,000 ราย เป็นจำนวนเงิน 73.95 ล้านบาท โดยสามารถโอนผ่านธนาคาร 8 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย หากผู้ประกันตนมีข้อสงสัย สามารถสอบถามข้อมูลได้ที่สำนักงานประกันสังคมเขตพื้นที่/จังหวัด หรือสายด่วน 1506 ได้ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ
ศูนย์สารนิเทศ สายด่วน 1506 / www.sso.go.th